ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นภาวะผิดปกติที่สามารถนำไปสู่ภาวะสุขภาพที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีปัญหานอนกรน การที่ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นระหว่างการนอนหลับ ทำให้ปริมาณอากาศที่เข้าสู่ปอดลดลงจนถึงขั้นหยุดไปชั่วขณะ อาการนี้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่การเสียชีวิตได้ จากภาวะขาดออกซิเจนสะสม ทำให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับคืออะไร?
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ คือ การที่ผู้ป่วยหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับ เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 10 วินาที หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งการที่อากาศไหลเข้าสู่ปอดน้อยหรือหยุดชั่วคราวจะทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดต่ำลง ในขณะที่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดเพิ่มขึ้น อาการเหล่านี้มักพบได้ในผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ ผู้สูงอายุ จะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง แม้ว่าอาการนี้มักเกิดในผู้ที่มรอาการนอนกรน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่นอนกรนทุกคนจะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะนี้อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ควรได้รับการสังเกตและรักษาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะจากคนใกล้ชิดที่สามารถช่วยสังเกตพฤติกรรมผิดปกติเหล่านี้ขณะนอนหลับได้
ประเภทของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea – OSA)
เป็นประเภทที่พบได้บ่อยมากที่สุด เกิดจากทางเดินหายใจถูกปิดกั้นชั่วขณะระหว่างการนอนหลับ ซึ่งมักเกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณลำคอคลายตัวจนทำให้ทางเดินหายใจแคบลงหรือปิดไปชั่วขณะ - ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดสมองส่วนกลาง (Central Sleep Apnea – CSA)
เกิดจากการที่สมองส่วนกลางไม่ส่งสัญญาณควบคุมการหายใจได้อย่างเหมาะสม ทำให้ผู้ป่วยหยุดหายใจโดยไม่มีสัญญาณเตือน เป็นภาวะที่พบน้อยมากเมื่อเทียบกับ OSA - ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดซับซ้อน (Complex Sleep Apnea Syndrome)
เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการหยุดหายใจขณะหลับทั้งจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ (OSA) และจากสมองส่วนกลางไม่ส่งสัญญาณ (CSA) เป็นประเภทที่ซับซ้อนและยากต่อการรักษามากที่สุด
อาการที่บ่งบอกว่าคุณมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
การตรวจสอบอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับด้วยตนเองนั้นอาจทำได้ยาก เนื่องจากหลายครั้งผู้ป่วยไม่สามารถรู้สึกตัวได้เมื่อตนเองหยุดหายใจขณะหลับ ดังนั้นการสังเกตจากคนใกล้ชิดหรือการพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากคุณมีอาการเหล่านี้ 2-3 ข้อขึ้นไป ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการตรวจและรักษาอย่างเหมาะสม
- นอนกรนเสียงดัง
- คนใกล้ชิดสังเกตเห็นว่าคุณหยุดหายใจขณะหลับ
- ตื่นขึ้นมาด้วยอาการคอแห้งหรือปากแห้ง
- สะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยความรู้สึกขาดอากาศ
- ตื่นนอนพร้อมอาการปวดหัว
- มีอาการง่วงนอนมากผิดปกติระหว่างวัน
- รู้สึกเหนื่อยล้าเมื่อตื่นขึ้นมาแม้จะนอนหลับเป็นเวลานาน
สาเหตุของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
สาเหตุของภาวะหยุดหายใจขณะหลับแตกต่างกันไปตามประเภทของภาวะ
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (OSA)
สาเหตุหลักคือการที่กล้ามเนื้อหลังลำคอคลายตัวขณะหลับ ซึ่งทำให้ทางเดินหายใจแคบลงหรือปิดกั้นชั่วขณะ ส่งผลให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลงจนสมองต้องปลุกให้คุณตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติเพื่อหายใจใหม่ อาการนี้เกิดขึ้นได้หลายครั้งต่อคืนและทำให้คุณไม่สามารถนอนหลับได้ลึกพอที่จะพักผ่อนอย่างเต็มที่ - ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดสมองส่วนกลาง (CSA)
เกิดจากสมองส่วนกลางไม่ส่งสัญญาณควบคุมการหายใจอย่างเหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อหายใจไม่ได้รับคำสั่งให้ทำงานตามปกติ เป็นภาวะที่พบน้อยมากและมักเกี่ยวข้องกับโรคระบบประสาทหรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
การตรวจและวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
การตรวจและวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับจะเริ่มจากการประเมินอาการและประวัติสุขภาพของผู้ป่วย แพทย์อาจทำการตรวจสภาพการนอนหลับ (Polysomnography) ที่สามารถทำได้ทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้าน การตรวจนี้จะมีการติดตามสัญญาณชีพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจนในเลือด และการเคลื่อนไหวของร่างกายในขณะนอนหลับ เพื่อวิเคราะห์อาการและความรุนแรงของภาวะ
การดูแลตนเองและการป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
การดูแลตนเองเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและลดอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ได้แก่:
- การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยลดน้ำหนักและส่งผลดีต่อสุขภาพทั่วไป
- การควบคุมน้ำหนัก: การรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ช่วยลดแรงดันที่เกิดขึ้นบนทางเดินหายใจ
- การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และยากดประสาท: ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการใช้ยาเสพติดหรือยาที่มีผลต่อระบบประสาท เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการหยุดหายใจได้ง่ายขึ้น
- การนอนในท่าที่เหมาะสม: การนอนตะแคงจะช่วยลดการอุดกั้นของทางเดินหายใจมากกว่าการนอนหงาย
- การติดตามสุขภาพ: การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อเฝ้าระวังภาวะต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อการนอนหลับ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับสามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่รุนแรงได้ ดังนี้
- ความเหนื่อยล้าระหว่างวัน
การที่คุณตื่นขึ้นหลายครั้งในช่วงกลางคืนแม้จะไม่รู้สึกตัว ทำให้คุณไม่สามารถนอนหลับได้ลึก ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีสมาธิ รู้สึกง่วงนอนตลอดทั้งวัน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างขับขี่หรือทำงาน - ความดันโลหิตสูงและปัญหาหัวใจ
การหยุดหายใจซ้ำ ๆ ระหว่างนอนหลับทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งกระตุ้นให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานหนักขึ้น ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง โรคหัวใจวาย เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง - โรคเบาหวานชนิดที่ 2
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น นำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะดื้ออินซูลินมาก่อน - ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาและการผ่าตัด
ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากยาสลบหรือการผ่าตัด เนื่องจากยาอาจทำให้อาการแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่นอนหงายหลังการผ่าตัด
สรุป
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงและสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงต่อสุขภาพได้ หากคุณมีอาการหรือสงสัยว่าตนเองอาจมีภาวะนี้ ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง การรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยให้คุณสามารถกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การตระหนักรู้ถึงอาการและสาเหตุของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจะช่วยให้คุณสามารถจัดการและดูแลสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น สุดท้ายนี้การดูแลสุขภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว