• อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
ตรวจ Sleep Test ได้ ไม่ต้องจ่ายแพง
ตรวจง่าย ได้ที่บ้าน
แพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine อ่านผล

ตรวจ Sleep Test ได้ ไม่ต้องจ่ายแพง

ตรวจง่าย ได้ที่บ้าน
แพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine อ่านผล
Table of Contents

การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นวิธีการที่สำคัญในการวิเคราะห์ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่กำลังนอนหลับ เกี่ยวข้องกับระบบการทำงานของร่างกายหลาย ๆ ด้าน เช่น การทำงานของคลื่นสมอง ระบบการหายใจ การทำงานของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในกรณีของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) หรือปัญหาอาการนอนกรนรุนแรง การตรวจการนอนหลับนี้จะช่วยให้แพทย์เฉพาะทางสามารถวินิจฉัยและจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่หลาย ๆ ยังคงกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่อาจสูง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้สามารถเข้ารับการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ได้ในราคาที่ย่อมเยา ทำให้ถึงแม้จะมีงบประมาณจำกัดก็สามารถเข้าถึงการตรวจนี้ได้

อยู่ต่างจังหวัดก็ตรวจการนอนหลับได้

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศไทย เราส่งมอบอุปกรณ์ตรวจการนอนหลับถึงหน้าประตูบ้าน พร้อมคำแนะนำที่เข้าใจง่าย ทำให้สามารถตรวจการนอนหลับได้ที่บ้านของคุณ

ข้อดีของการตรวจการนอนหลับที่บ้าน

  1. สะดวกสำหรับทุกพื้นที่ เข้าถึงได้ง่าย ทุกจังหวัด

VitalSleep Clinic ส่งอุปกรณ์ตรวจการนอนหลับถึงบ้านของคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ อุบลราชธานี ภูเก็ต สามารถจัดส่งครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ

  1. ลดความยุ่งยากในการเดินทาง

ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปคลินิกหรือโรงพยาบาล สามารถทำการตรวจการนอนหลับได้จากที่บ้านได้เลย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายค่าเดินทางนี้ได้

  1. แม่นยำและปลอดภัย

อุปกรณ์การตรวจการนอนหลับที่ได้รับการตรวจสอบมาตรฐานและทันสมัย ผลการตรวจจะถูกอ่านและวิเคราะห์โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ

การนอนหลับสำคัญอย่างไร?

การนอนหลับเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อสุขภาพของเรา มูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Sleep Foundation) รายงานว่าคนที่มีอายุระหว่าง 18-54 ปี มักจะนอนหลับไม่เพียงพอ โดยเฉลี่ยเพียง 6.4 ชั่วโมงต่อคืนในวันทำงาน และ 7.7 ชั่วโมงในวันหยุด อย่างไรก็ตาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการนอนหลับที่ดีควรมีระยะเวลาอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อคืน

การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้คุณภาพการนอนที่ไม่ดี ส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของสมองที่ช้าลง ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่ออารมณ์ ความสามารถในการทำงาน ความสามารถในการเรียนรู้ของสมอง การนอนหลับให้เพียงพอและมีคุณภาพจึงมีความสำคัญในการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน

การตรวจการนอนหลับ Sleep Test จำเป็นไหม?

ในประเทศไทยเอง ปัญหาการนอนหลับเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก จากรายงานของกรมสุขภาพจิตในปี 2563 พบว่าคนไทยมีปัญหาการนอนไม่หลับมากถึง 19 ล้านคน ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งความเครียด พฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) หรืออาการนอนกรน

หากคุณสงสัยว่าตนเองอาจมีปัญหาการนอนหลับ ควรเริ่มต้นด้วยการเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ ซึ่งแพทย์จะทำการซักประวัติ และอาจแนะนำให้ทำการตรวจการนอนหลับเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง โดยการตรวจ Sleep Test จะช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการนอนหลับและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสามารถนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

อาการนอนกรนปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

การนอนกรนถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบการหายใจในขณะนอนหลับ เสียงกรนที่เกิดขึ้นมาจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจ เช่น กล้ามเนื้อในช่องคอที่อ่อนแอ ลิ้นไก่หรือเพดานอ่อนที่ยาวเกินไป จนทำให้เกิดการตีบแคบของทางเดินหายใจ เสียงกรนที่เราได้ยินจึงเกิดจากการสั่นของเนื้อเยื่อในช่องลมที่แคบ

ถึงแม้ว่าการกรนไม่บ่อยอาจไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากนัก แต่ถ้าเป็นอาการกรนเรื้อรังหรือเสียงดังบ่อยครั้ง มักเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ สามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และเบาหวานได้ หากพบว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการนอนกรน ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและหาทางรักษาต่อไป

การตรวจการนอนหลับมีความสำคัญอย่างไร?

การตรวจการนอนหลับไม่ได้เป็นเพียงการตรวจเพื่อหาภาวะหยุดหายใจขณะหลับเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการวิเคราะห์ระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายในขณะนอนหลับด้วย เช่น การทำงานของคลื่นสมอง การหายใจ การทำงานของหัวใจ นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบพฤติกรรมการนอนที่ผิดปกติ เช่น การนอนละเมอ การเคลื่อนไหวผิดปกติระหว่างการนอน ระดับออกซิเจนในเลือดที่อาจลดลงในขณะหลับ

ผลการตรวจนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับบุคคลนั้น ๆ ซึ่งการตรวจการนอนหลับ Sleep Test นั้นถูกออกแบบมาเพื่อวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับได้อย่างแม่นยำ

โรคที่พบได้บ่อยจากการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test)

  1. ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea – OSA)

OSA เป็นความผิดปกติที่พบได้บ่อยที่สุดจากการตรวจ Sleep Test เกิดจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจขณะหลับ ทำให้การหายใจหยุดชะงักเป็นช่วง ๆ ส่งผลให้ร่างกายขาดออกซิเจน อาการที่พบบ่อย ได้แก่ นอนกรนเสียงดัง ตื่นกลางดึกเพราะหายใจไม่ออก ง่วงนอนหรือเหนื่อยล้าในระหว่างวัน หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา OSA อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และความดันโลหิตสูง

  1. โรคนอนไม่หลับ (Insomnia)

โรคนอนไม่หลับเป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีปัญหาในการหลับหรือการนอนหลับไม่ต่อเนื่อง ทำให้ตื่นขึ้นมารู้สึกไม่สดชื่น แม้จะมีโอกาสเพียงพอที่จะนอนหลับ อาการที่พบบ่อย ได้แก่ หลับยาก ตื่นบ่อยกลางดึก ความเครียดหรือกังวลใจระหว่างนอน

  1. ภาวะนอนกรน (Snoring)

การนอนกรน เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการอุดกั้นของทางเดินหายใจบางส่วน อาจเกิดจากน้ำหนักเกินหรือภาวะอ้วน โครงสร้างช่องคอที่ผิดปกติ เช่น เพดานอ่อนหรือลิ้นไก่ที่ยาวเกินไป และทางเดินหายใจแคบ

  1. ภาวะขาดออกซิเจนในเลือดขณะหลับ (Nocturnal Hypoxemia)

ภาวะนี้เกิดจากระดับออกซิเจนในเลือดลดลงในขณะหลับ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากโรคปอด ความผิดปกติของทางเดินหายใจ และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

  1. โรคละเมอ (Sleepwalking)

การเดินละเมอหรือพฤติกรรมแปลก ๆ ขณะหลับ เช่น พูดละเมอ เป็นภาวะที่ส่งผลต่อการนอนหลับโดยรวมและอาจเป็นอันตรายได้ Sleep Test ช่วยตรวจหาคลื่นสมองในระหว่างนอนหลับและวิเคราะห์พฤติกรรมที่ผิดปกติ

ตรวจการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic ราคาคุ้มค่า

หากคุณกำลังมองหาที่ตรวจการนอนหลับ Sleep Test ที่มีราคาไม่แพง VitalSleep Clinic เป็นตัวเลือกที่ดี ที่นี่มีบริการตรวจ Sleep Test ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,900 บาท และหากต้องการตรวจละเอียดมากขึ้น ก็มีโปรแกรม Full Sleep Test ในราคา 8,800 บาท โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมจากสถาบันต่างประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เข้ารับการตรวจจะได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมแน่นอน

สรุป

การตรวจการนอนหลับ Sleep Test เป็นวิธีที่สำคัญในการวินิจฉัยหาปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับและอาการนอนกรน ที่ VitalSleep Clinic มีโปรแกรมการตรวจที่ครอบคลุมและราคาคุ้มค่า ทำให้ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดสามารถเข้าถึงการตรวจนี้ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

Related Blogs and Articles
ใครเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ

นอนกรนเกิดจากอะไร? เกิดจากการหายใจผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบลงขณะนอนหลับ จากการอุดกั้นของกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในช่องปาก ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณคอ เช่น เพดานอ่อน ลิ้นไก่ และทอนซิล สั่นสะเทือนจนเกิดเป็นเสียงกรนในขณะที่นอนหลับอยู่ ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะทางเดินหายใจแคบลง ได้แก่ ระดับความรุนแรงของการนอนกรน สาเหตุของอาการนอนกรน​ อาการนอนกรนสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ตามความรุนแรงของอาการและผลกระทบที่เกิดขึ้น ข้อมูลจาก News Medical ดังนี้​ ใครบ้างที่เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่พบมากในกลุ่มต่อไปนี้ อันตรายจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การตรวจการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic กุญแจสู่การนอนหลับที่ดีขึ้น ข้อดีของการตรวจการนอนหลับกับ VitalSleep Clinic วิธีการรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ จาก VitalSleep Clinic ได้แก่ สรุป ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) เป็นภาวะที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ที่ VitalSleep Clinic เรามีแนวทางการรักษาที่ทันสมัยและหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ลดอาการนอนกรน เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ และลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน

7 วิธีรักษานอนกรน

วิธีรักษานอนกรนที่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังมองหาวิธีที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ เพื่อจะได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพและตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นในทุก ๆ เช้า อาการนอนกรนที่เกิดขึ้น นอกจากจะเป็นปัญหากับคนที่อยู่รอบตัวคุณแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวของคุณเองอีกด้วย ลองมาดู 7 วิธี ที่สามารถช่วยลดอาการนอนกรนได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ ​ทั้ง 7 วิธีที่แนะนำจาก Sleep Foundation เป็นเพียงวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้น แต่หากคุณทำตามแล้วยังมีอาการนอนกรนอยู่ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจการนอนหลับ Sleep Test และรับการรักษาอย่างถูกวิธี​ สัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ควรสังเกต หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อทำการวินิจฉัยและได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เพราะภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นอันตรายที่อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว การรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่ VitalSleep Clinic เรามีวิธีการรักษาอาการนอนกรนโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้ผลดี 4 วิธี ได้แก่ เป็นนวัตกรรมการรักษาที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและทางเดินหายใจให้แข็งแรง เป็นวิธีที่แพทย์แนะนำเพราะช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้ เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้นในขณะที่นอนหลับ โดยจะช่วยดันขากรรไกรล่างไปข้างหน้าเล็กน้อย ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการลดอาการนอนกรน และที่ VitalSleep Clinic คุณมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์ เพราะผลิตจากห้องแล็บที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจาก American Board of Dental Sleep Medicine จะสำหรับคนที่มีอาการกรนจากการหย่อนของกล้ามเนื้อบริเวณโคนลิ้นหรือเยื่อบุจมูก ทำให้ลมหายใจไหลเวียนได้สะดวกขึ้น โดยการรักษานี้จะต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น เครื่องช่วยหายใจนี้ ป้องกันทางเดินหายใจไม่ให้ปิดกั้นในขณะนอนหลับ ทำให้คุณรับออกซิเจนได้อย่างเพียงพอ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่เดินทางบ่อยหรือไม่สะดวกในการพกพาเครื่อง CPAP แพทย์อาจแนะนำการใช้เครื่องมือทันตกรรมแทนเพื่อความสะดวกกับคนไข้ สรุป วิธีลดอาการนอนกรนและแนวทางรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่แนะนำโดยแพทย์เฉพาะทาง โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรม เช่น การลดน้ำหนัก, หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่, นอนหลับให้เพียงพอ, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และ เลี่ยงยาที่ทำให้กล้ามเนื้อลำคอหย่อนตัว หากอาการยังคงอยู่ ควรเข้ารับการตรวจและรักษาโดยแพทย์ เช่น การใช้เครื่องมือทันตกรรม (Oral Appliance), เครื่องช่วยหายใจ CPAP, การทำ Myofunctional Therapy หรือ การใช้คลื่นวิทยุ RF ซึ่งช่วยแก้ไขต้นเหตุของอาการ ที่ VitalSleep Clinic ยังมีเทคโนโลยีทันสมัยและแพทย์เฉพาะทางที่สามารถให้คำแนะนำและรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาว

นอนกรนเรื้อรัง

นอนกรนรักษามาตั้งหลายวิธีก็ไม่เห็นผล สุดท้ายก็ยังนอนกรนเสียงดังอยู่ดี ต้องรักษาด้วยวิธีไหนจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น มาหาคำตอบวิธีการรักษา

การรักษานอนกรน ด้วยเครื่องCPAP

ปัญหาอาการนอนกรนเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในคนจำนวนมาก โดยบางคนอาจมองว่าอาการนอนกรนเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องให้ความสนใจมากนัก แต่ในความเป็นจริงภาวะนอนกรนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เสียงรบกวนเวลานอนหลับเท่านั้น มันยังเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงและอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตได้ภาวะการนอนกรนมักเกี่ยวข้องกับปัญหาการหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) อาจทำให้เกิดอาการหยุดหายใจชั่วขณะในระหว่างการนอนหลับ ภาวะนี้ส่งผลต่อการนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย หากปล่อยไว้ไม่รักษาอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต แม้แต่ความเสี่ยงในการเสียชีวิตเฉียบพลันในปัจจุบัน วิธีการรักษาภาวะนอนกรนมีอยู่หลายวิธี หนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางคือการใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) โดยเครื่อง CPAP นี้ทำหน้าที่ส่งแรงดันลมเข้าไปเปิดทางเดินหายใจในขณะหลับ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถหายใจได้อย่างราบรื่น แต่หลายคนอาจพบปัญหาว่าเครื่อง CPAP นั้นมีราคาที่สูง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงความยุ่งยากในการใช้งานที่อาจทำให้รู้สึกไม่สะดวก แล้วจะทำอย่างไร หากการรักษาด้วยเครื่อง CPAP มีราคาสูงเกินไป บทความนี้จะแนะนำวิธีการรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับในทางเลือกอื่น ๆ ที่สามารถทดแทนเครื่อง CPAP ได้ นอนกรนเกิดขึ้นได้อย่างไร? อาการนอนกรนเกิดขึ้นเมื่อทางเดินหายใจถูกอุดกั้นบางส่วนในขณะหลับ เมื่อเรานอนหลับ กล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกายจะคลายตัวลง รวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณคอ เพดานอ่อน และโคนลิ้น เมื่อกล้ามเนื้อเหล่านี้หย่อนคล้อยลง อาจไปขัดขวางทางเดินหายใจ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง เกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ซึ่งทำให้เกิดเสียงกรนขึ้น อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนอนกรนคืออายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อเรามีอายุที่มากขึ้น กล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกายก็เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น รวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจ ซึ่งทำให้เกิดการหย่อนคล้อยและปิดกั้นการหายใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ภาวะนอนกรนยังสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น น้ำหนักตัวที่มากเกินไป การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ปรึกษาปัญหานอนกรน ฟรี! ทำไมการนอนกรนจึงควรรักษา? แม้ว่าการนอนกรนอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การอานอนกรนที่เกิดร่วมกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับถือว่าเป็นปัญหาสุขภาพที่ควรให้ความสนใจอย่างยิ่ง การหยุดหายใจขณะหลับทำให้ร่างกายและสมองขาดออกซิเจนในระหว่างการนอนหลับ ซึ่งอาจทำให้คุณภาพการนอนหลับลดลง ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าในระหว่างวัน รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคสมองเสื่อมนอกจากนี้ การขาดออกซิเจนยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองโดยตรง ทำให้การประมวลผลข้อมูล การคิดวิเคราะห์ และความจำเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาด้านความจำและสมาธิ รวมถึงมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาการเหล่านี้จะทวีความรุนแรงขึ้นและอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ นอนกรนต้องการปรึกษา ฟรี! เครื่อง CPAP ช่วยรักษาภาวะนอนกรนอย่างไร? เครื่อง CPAP เป็นเครื่องช่วยหายใจที่ใช้สำหรับรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ โดยหลักการทำงานของเครื่องคือการส่งแรงดันลมเข้าไปในทางเดินหายใจเพื่อเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถหายใจได้สะดวกในขณะหลับ เครื่อง CPAP มักใช้ร่วมกับหน้ากากที่สวมใส่บริเวณจมูกหรือปากเพื่อส่งแรงดันลมเข้าสู่ร่างกายแม้ว่าเครื่อง CPAP จะมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาภาวะนอนกรน แต่เครื่องนี้มีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาที่สูง ค่าเครื่อง CPAP บางรุ่นอาจมีราคาสูงถึงหลักแสนบาท เครื่องก็ยังมีขนาดใหญ่ ต้องใช้ไฟฟ้า อาจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกอึดอัดหรือไม่สะดวกสบายในขณะหลับ การรักษานอนกรนแบบไม่ต้องพึ่ง CPAP หากเครื่อง CPAP มีราคาสูงเกินไปและไม่สะดวกในการใช้งาน ยังมีวิธีการรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับในทางเลือกอื่นๆ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้เช่นกัน ดังนี้1. อุปกรณ์ทางทันตกรรม (Oral Appliance)อุปกรณ์ทางทันตกรรมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาให้สวมใส่ในปากในระหว่างการนอนหลับ โดยมีลักษณะคล้ายกับเครื่องครอบฟัน อุปกรณ์นี้ช่วยขยับกรามหรือโคนลิ้นไปด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นขณะหลับข้อดีของอุปกรณ์ทางทันตกรรม คือ มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังถูกออกแบบเฉพาะบุคคลตามขนาดช่องปากของผู้ใช้งาน ทำให้ใช้งานได้ง่ายและไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อเทียบกับเครื่อง CPAP อุปกรณ์ทางทันตกรรมยังเป็นวิธีการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าและสะดวกสบายกว่าการใช้เครื่อง CPAP2. การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RF)การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ การรักษานี้ใช้คลื่นความถี่วิทยุในการทำให้เนื้อเยื่อบริเวณโคนลิ้น เพดานอ่อน และเนื้อเยื่อในลำคอหดตัวแล้วก็กระชับขึ้น ลดการหย่อนคล้อยที่อาจปิดกั้นทางเดินหายใจวิธีการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เวลานาน เพียงครั้งละประมาณ 15 นาที ไม่เจ็บปวดมากเหมือนการผ่าตัด ผลลัพธ์ของการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุสามารถเห็นได้ชัดเจน มีความคงทนเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ยังเป็นวิธีที่ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ในขณะหลับ3. การบำบัดด้วยกล้ามเนื้อ (Myofunctional Therapy)การบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าและลำคอเป็นวิธีการรักษาที่เน้นไปที่การฝึกกล้ามเนื้อบริเวณลิ้น เพดานอ่อน และลำคอ เพื่อให้กล้ามเนื้อเหล่านี้ทำงานได้อย่างถูกต้อง มีความกระชับยิ่งขึ้น การฝึกบำบัดนี้สามารถช่วยลดการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจและลดอาการนอนกรนได้การบำบัดกล้ามเนื้อนั้นอาจรวมถึงการฝึกกล้ามเนื้อลิ้นให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ฝึกการหายใจที่ถูกต้อง การออกกำลังกายกล้ามเนื้อเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันการหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อบริเวณทางเดินหายใจข้อดีของการบำบัดด้วยกล้ามเนื้อ คือ เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใด ๆ นอกจากนี้ การฝึกฝนสามารถทำได้เองที่บ้านหลังจากได้รับคำแนะนำจากนักบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม การบำบัดกล้ามเนื้ออาจต้องใช้เวลาและความอดทนในการฝึกฝน แต่ก็เป็นวิธีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพในระยะยาว รับคำปรึกษา ฟรี! 4. การลดน้ำหนักการมีน้ำหนักตัวที่เกินเกณฑ์เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ เนื่องจากไขมันสะสมบริเวณลำคออาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลง การลดน้ำหนักเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดอาการนอนกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือน้ำหนักตัวมากนอกจากการลดน้ำหนักจะช่วยลดอาการนอนกรนแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม เช่น ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน การควบคุมน้ำหนักทำได้โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ควรบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย5. การผ่าตัด (Surgical Treatment)ในกรณีที่ภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับมีความรุนแรงและไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ได้ การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ การผ่าตัดจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงโครงสร้างของทางเดินหายใจ เช่น การตัดเนื้อเยื่อเพดานอ่อน การตัดต่อมทอนซิล ลดขนาดของโคนลิ้น เพื่อเพิ่มความกว้างของทางเดินหายใจและลดการอุดกั้นการผ่าตัดมักเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางกายภาพ เช่น มีเนื้อเยื่อเพดานอ่อนที่หย่อนคล้อยมากเกินไป มีโครงสร้างทางเดินหายใจที่แคบตั้งแต่กำเนิด อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดมีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีอื่น ๆ แต่อาจมีผลข้างเคียง เช่น การเจ็บคอหรือการอักเสบหลังการผ่าตัด ปรับพฤติกรรมการนอน นอกจากการใช้วิธีการรักษาต่าง ๆ การปรับพฤติกรรมการนอน ก็สามารถช่วยลดอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับได้ เช่นการนอนในท่านอนตะแคง การนอนหงายอาจทำให้ลิ้นและเพดานอ่อนตกไปขัดขวางทางเดินหายใจ การนอนในท่านอนตะแคงสามารถช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้นและลดอาการนอนกรนการหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนทำให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจหย่อนคล้อยลง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้เกิดการอักเสบและระคายเคืองในทางเดินหายใจ การเลิกบุหรี่สามารถช่วยลดการอักเสบและป้องกันการอุดกั้นทางเดินหายใจ บทสรุป ภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมันสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แม้ว่าเครื่อง CPAP จะเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของราคา ความสะดวกในการใช้งาน หากเครื่อง CPAP มีราคาสูงเกินไปสำหรับผู้ที่ต้องการรักษา ยังมีทางเลือกอื่น ๆ อีกที่สามารถช่วยบรรเทาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์ทางทันตกรรม การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ การบำบัดกล้ามเนื้อ แม้แต่การปรับพฤติกรรมการนอนการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเอง เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะแต่ละคนอาจมีสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการนอนกรนที่แตกต่างกัน การรักษาภาวะนอนกรนไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงและทำให้ชีวิตมีความสุข สุขภาพโดยรวมดีมากขึ้น ปรึกษาปัญหากับแพทย์เฉพาะทาง!

เสียงกรนเตือนภัยสุขภาพ

เสียงกรนอาจไม่ใช่เรื่องเล็ก ตรวจการนอนกรนช่วยค้นหาความผิดปกติ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ทำไมการตรวจการนอนหลับ ถึงสำคัญ

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมในบางคืนเราถึงนอนหลับไม่สนิท ตื่นเช้าขึ้นมาก็ยังรู้สึกเหนื่อย หรือบางคนอาจตื่นมากลางดึกบ่อย ๆ จนทำให้รู้สึกนอนไม่พอ

หยุดหายใจขณะหลับ ระวัง

อาการที่ร่างกายหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ระหว่างการนอนหลับ โดยไม่รู้ตัว ปัญหานี้เกิดจากทางเดินหายใจส่วนบนถูกปิดกั้น

อุปกรณ์รักษานอนกรน

พามาเจาะลึกอุปกรณ์รักษานอนกรน จาก VitalSleep Clinic ว่ามีอะไรบ้าง ใช้อย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง เพื่อให้คุณกลับมามีการนอนที่เงียบสงบ

Why choose VitalSleep and Wellness
ตรวจคุณภาพการนอนหลับได้จากที่บ้าน

ตรวจการหลับ Sleep Test ที่ VitalSleep and Wellness สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดิน ทาง มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปติดตั้ง ให้ถึงที่บ้าน อ่านผลการตรวจ โดยแพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine

ลดเสียงกรนด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ที่ VitalSleep and Wellness นําเสนอแนวทางการรักษานอนกรน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ออกแบบ เฉพาะบุคคล รักษาได้ทั้ง แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด และการรักษาครอบคลุมไปถึงการรักษาอาการนอน กัดฟัน และข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ค้นหา และรักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ

เน้นการตรวจเชิงลึกหลายแนวทาง เพื่อค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุการรักษาที่แท้จริง มุ่งเน้นรักษาและบําบัดสาเหตุของการกรนที่ต้นเหตุ คือ กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ด้วย Myofunctional Therapy

แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ผสมผสาน

นําเสนอการรักษาที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคล เน้นการรักษาแบบผสมผสาน การรักษาหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครอบคลุมทุกความแตกต่างของแต่ละบุคคล

ทพ. ดร. อมรพงษ์ วชิรมน

Medical Director
แพทย์เฉพาะทางรักษานอนกรน

VitalSleep and Wellness
ดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง และนักกายภาพบําบัดวิชาชีพ
  • Polysomnography - Sleep Test ตรวจการนอนหลับ
  • เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน
  • เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก รักษานอนกรน
  • รักษาอาการ นอนกัดฟัน
  • รักษาอาการ ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ขากรรไกรมีเสียงคลิก
  • บำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น
  • ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร รักษานอนกรน
…and much more!