• อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
ผู้หญิงนอนกรน
สาเหตุและวิธีแก้นอนกรน
ในผู้หญิง

ผู้หญิงนอนกรน

สาเหตุและวิธีแก้นอนกรน
ในผู้หญิง
Table of Contents

การนอนกรนไม่ใช่เรื่องน่าอายขนาดนั้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่คิดที่จะแก้ไข อาจทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในผู้หญิงหลายคนอาจจะรู้สึกเขินอาย หรือไม่กล้าบอกว่าตัวเองมีอาการนอนกรน และไม่รู้ว่าจะหาวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไรให้ได้ผล แต่การนอนกรนในผู้หญิงก็เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ และหากไม่ให้ความสำคัญกับการหาทางแก้ไขอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิตขณะนอนหลับได้

ก่อนที่จะหาคำตอบว่า ทำไม? ผู้หญิงถึงนอนกรน เราควรทำความเข้าใจว่าอาการนอนกรนคืออะไร?

อาการนอนกรนคืออะไร?

อาการนอนกรนเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อในลำคอผ่อนคลายระหว่างการนอนหลับ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง เมื่ออากาศผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบนี้ จะทำให้เนื้อเยื่อในลำคอ เช่น ทอนซิล เพดานอ่อน หรือลิ้นไก่สั่น จะทำให้เกิดเสียงกรน และยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลงหรืออุดตัน เช่น ต่อมทอนซิลโต น้ำหนักตัวที่มากเกินไป หรือลิ้นที่โตขึ้น ก็อาจทำให้เกิดอาการนอนกรนได้

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) คืออะไร?

การนอนกรนไม่ใช่แค่การสร้างเสียงรบกวนระหว่างการนอนหลับ แต่ยังสามารถนำไปสู่การหยุดหายใจขณะหลับได้อีกด้วย เมื่อเนื้อเยื่อในลำคอหรือที่ลิ้นหย่อนลงไปปิดทางเดินหายใจ ทำให้ไม่สามารถหายใจได้ตามปกติ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนในขณะที่นอนหลับ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะไหลตายได้

สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงนอนกรน

แม้ว่าปกติผู้ชายจะมีแนวโน้มที่จะนอนกรนมากกว่าผู้หญิง แต่ในผู้หญิงก็สามารถนอนกรนได้เช่นกัน โดยสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงนอนกรนมักจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพ น้ำหนักเกิน หรือการเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่เกิดจากอายุหรือการตั้งครรภ์ เช่น

  • อายุ เมื่อผู้หญิงอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ปัญหาการนอนกรนจะเริ่มเพิ่มขึ้น
  • วัยหมดประจำเดือน หลังจากหมดประจำเดือน ในผู้หญิงบางรายอาจมีแนวโน้มทำให้นอนกรนมากขึ้น
  • น้ำหนักเกิน อาจทำให้มีไขมันสะสมที่หบริเวณลำคอ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงได้
  • การตั้งครรภ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายและระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการนอนกรนได้
  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ถึงแม้จะพบได้น้อยในผู้หญิง แต่ยังคงเป็นปัญหาที่ควรให้ความสนใจ

อ่านเพิ่มเติม

สาเหตุอื่น ๆ ของการนอนกรน

ในกรณีทั่วไป การนอนกรนอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

  • คนอ้วน การสะสมของไขมันในบริเวณคอ
  • ผู้สูงอายุ การเสื่อมของกล้ามเนื้อที่ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง
  • โรคภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบ ทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา
  • ความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร อาจทำให้เกิดอาการนอนกรน

วิธีแก้ไขการนอนกรนผู้หญิง

การรักษาอาการนอนกรนเริ่มต้นด้วยการหาสาเหตุที่แท้จริง โดยการทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อตรวจหาว่าคุณมีปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หลังจากนั้นสามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งแบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ แบบผ่าตัดและแบบไม่ผ่าตัด

บทความที่เกี่ยวข้อง Sleep Test มีกี่แบบ และควรเลือกตรวจแบบไหน?

การเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการนอนกรน หากคุณพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการนอนกรนที่เป็นปัญหา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล

สรุป

การนอนกรนในผู้หญิงไม่ใช่แค่เรื่องรบกวนคนข้าง ๆ แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของร่างกาย โดยเฉพาะ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ที่พบได้บ่อยกว่าที่คิด และอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้า

หลายคนอาจไม่รู้ว่าการนอนกรนในผู้หญิงมักไม่มีอาการชัดเจนเหมือนผู้ชาย เช่น อาจไม่มีเสียงกรนดัง แต่จะมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงกลางวัน ขี้ลืม หงุดหงิดง่าย หรือแม้แต่ปัญหาทางเพศ ทำให้ถูกมองข้ามและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

Related Blogs and Articles
ภาวะเด็กนอนกรน

สำหรับเด็ก เสียงกรนที่เกิดขึ้นระหว่างการหลับอาจบ่งชี้ถึงความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ และอาจนำไปสู่ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ใครเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ

นอนกรนเกิดจากอะไร? เกิดจากการหายใจผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบลงขณะนอนหลับ จากการอุดกั้นของกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในช่องปาก ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณคอ เช่น เพดานอ่อน ลิ้นไก่ และทอนซิล สั่นสะเทือนจนเกิดเป็นเสียงกรนในขณะที่นอนหลับอยู่ ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะทางเดินหายใจแคบลง ได้แก่ ระดับความรุนแรงของการนอนกรน อาการนอนกรนสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ตามความรุนแรงของอาการและผลกระทบที่เกิดขึ้น ดังนี้ ขอบคุณข้อมูลจาก News Medical ใครบ้างที่เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่พบมากในกลุ่มต่อไปนี้ อันตรายจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การตรวจการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic กุญแจสู่การนอนหลับที่ดีขึ้น ข้อดีของการตรวจการนอนหลับกับ VitalSleep Clinic อ่านเพิ่มเติม Sleep Test ตรวจคุณภาพการนอนหลับ คืออะไร ?​ วิธีการรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ จาก VitalSleep Clinic ได้แก่ สรุป ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) เป็นภาวะที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ที่ VitalSleep Clinic เรามีแนวทางการรักษาที่ทันสมัยและหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ลดอาการนอนกรน เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ และลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน

เครื่อง CPAP แต่ละยี่ห้อต่างกันยังไง

อาการนอนกรน ถือเป็นปัญหาสุขภาพของใครหลาย ๆ คน ในเฉพาะคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ไม่เพียงแต่ทำให้การนอนหลับไม่เต็มอิ่ม แต่ยังเป็นสาเหตุของความเสี่ยงโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดสมอง หนึ่งในวิธีการรักษาที่แพทย์เฉพาะทางแนะนำ คือ การใช้เครื่องช่วยหายใจที่เรียกว่า CPAP ซึ่งย่อมาจาก Continuous Positive Airway Pressure เครื่อง CPAP เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการบำบัดรักษาคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ด้วยการส่งแรงดันอากาศอย่างต่อเนื่องผ่านทางหน้ากาก เพื่อเปิดทางเดินหายใจของคุณให้กว้างขึ้น ช่วยลดอาการนอนกรนและป้องกันการหยุดหายใจซ้ำ ๆ ในขณะหลับ ทำให้การนอนหลับทุกคืนของคุณกลับมาเป็นปกติ เครื่อง CPAP ทำงานอย่างไร? เครื่อง CPAP ทำงานโดยการส่งแรงดันอากาศไปยังทางเดินหายใจผ่านหน้ากากที่สวมใส่ขณะนอนหลับ ช่วยป้องกันการปิดตัวของทางเดินหายใจในขณะที่กำลังหายใจเข้า โดยทั่วไปเครื่อง CPAP จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ บทความที่เกี่ยวข้อง เครื่อง CPAP เพื่อรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ใครบ้างที่ควรใช้เครื่อง CPAP? เครื่อง CPAP มักจะถูกแนะนำหรือมาใช้รักษาให้กับคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ไม่ว่าจะเป็นภาวะที่รุนแรงหรือเพียงเล็กน้อยก็ตาม การใช้ CPAP ช่วยทำให้คนไข้กลับมามีการนอนหลับที่ต่อเนื่องขึ้น ลดเสียงกรน และป้องกันภาวะการหยุดหายใจซ้ำ ๆ โดยรวมแล้ว การรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจแก้กรนเป็นทางเลือกการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพกับคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือสภาวะทางการแพทย์อื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการหายใจระหว่างการนอนหลับ และสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตและลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณข้อมูลจาก PMC PubMed Central เครื่อง CPAP มีกี่ประเภท? แม้ว่าเครื่อง CPAP จะเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูงในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แต่ก็ยังมีเครื่องประเภทอื่น ๆ ที่ทำงานคล้ายกันและมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ดังนี้ ความแตกต่างของเครื่อง CPAP แต่ละยี่ห้อ ข้อดีและข้อเสียของเครื่อง CPAP การเลือกใช้เครื่อง CPAP มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผู้ป่วยควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียดังต่อไปนี้ ข้อดี ข้อเสีย การรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับด้วยเครื่อง CPAP ที่ VitalSleep Clinic ที่ VitalSleep Clinic เราให้บริการรักษา ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ด้วย เครื่อง CPAP เป็นวิธีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกในการช่วยให้ผู้ป่วยหายใจสะดวกขึ้นขณะนอนหลับ ทำงานโดยการส่งแรงดันลมอย่างสม่ำเสมอผ่านหน้ากากเพื่อเปิดทางเดินหายใจ ป้องกันการอุดกั้น ลดการหยุดหายใจและเสียงกรน ทำให้ได้รับออกซิเจนเพียงพอตลอดคืน ลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และภาวะหลอดเลือดสมอง ทำไมต้องเลือก CPAP กับ VitalSleep Clinic? หากคุณมีอาการ นอนกรน ง่วงนอนตอนกลางวัน หรือหายใจติดขัดขณะหลับ อย่าปล่อยไว้ให้เป็นปัญหาเรื้อรัง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ VitalSleep Clinic เพื่อการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด

How to treat snoring in women

การนอนกรนไม่ใช่เรื่องน่าอายขนาดนั้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่คิดที่จะแก้ไข อาจทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในผู้หญิงหลายคนอาจจะรู้สึกเขินอาย หรือไม่กล้าบอกว่าตัวเองมีอาการนอนกรน และไม่รู้ว่าจะหาวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไรให้ได้ผล แต่การนอนกรนในผู้หญิงก็เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ และหากไม่ให้ความสำคัญกับการหาทางแก้ไขอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิตขณะนอนหลับได้ก่อนที่จะหาคำตอบว่า ทำไม? ผู้หญิงถึงนอนกรน เราควรทำความเข้าใจว่าอาการนอนกรนคืออะไร? อาการนอนกรนคืออะไร? อาการนอนกรนเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อในลำคอผ่อนคลายระหว่างการนอนหลับ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง เมื่ออากาศผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบนี้ จะทำให้เนื้อเยื่อในลำคอ เช่น ทอนซิล เพดานอ่อน หรือลิ้นไก่สั่น จะทำให้เกิดเสียงกรน และยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลงหรืออุดตัน เช่น ต่อมทอนซิลโต น้ำหนักตัวที่มากเกินไป หรือลิ้นที่โตขึ้น ก็อาจทำให้เกิดอาการนอนกรนได้ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) คืออะไร? การนอนกรนไม่ใช่แค่การสร้างเสียงรบกวนระหว่างการนอนหลับ แต่ยังสามารถนำไปสู่การหยุดหายใจขณะหลับได้อีกด้วย เมื่อเนื้อเยื่อในลำคอหรือที่ลิ้นหย่อนลงไปปิดทางเดินหายใจ ทำให้ไม่สามารถหายใจได้ตามปกติ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนในขณะที่นอนหลับ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะไหลตายได้https://www.youtube.com/shorts/1RcpD_hJKcw สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงนอนกรน แม้ว่าปกติผู้ชายจะมีแนวโน้มที่จะนอนกรนมากกว่าผู้หญิง แต่ในผู้หญิงก็สามารถนอนกรนได้เช่นกัน โดยสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงนอนกรนมักจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพ น้ำหนักเกิน หรือการเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่เกิดจากอายุหรือการตั้งครรภ์ เช่นอายุ เมื่อผู้หญิงอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ปัญหาการนอนกรนจะเริ่มเพิ่มขึ้นวัยหมดประจำเดือน หลังจากหมดประจำเดือน ในผู้หญิงบางรายอาจมีแนวโน้มทำให้นอนกรนมากขึ้นน้ำหนักเกิน อาจทำให้มีไขมันสะสมที่หบริเวณลำคอ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงได้การตั้งครรภ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายและระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการนอนกรนได้ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ถึงแม้จะพบได้น้อยในผู้หญิง แต่ยังคงเป็นปัญหาที่ควรให้ความสนใจอ่านเพิ่มเติม ปรึกษาปัญหานอนกรน ฟรี! สาเหตุอื่น ๆ ของการนอนกรน ในกรณีทั่วไป การนอนกรนอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่นคนอ้วน การสะสมของไขมันในบริเวณคอผู้สูงอายุ การเสื่อมของกล้ามเนื้อที่ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงโรคภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบ ทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร อาจทำให้เกิดอาการนอนกรน วิธีแก้ไขการนอนกรนผู้หญิง การรักษาอาการนอนกรนเริ่มต้นด้วยการหาสาเหตุที่แท้จริง โดยการทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อตรวจหาว่าคุณมีปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หลังจากนั้นสามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งแบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ แบบผ่าตัดและแบบไม่ผ่าตัดบทความที่เกี่ยวข้อง Sleep Test มีกี่แบบ และควรเลือกตรวจแบบไหน?การเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการนอนกรน หากคุณพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการนอนกรนที่เป็นปัญหา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย สรุป การนอนกรนในผู้หญิงไม่ใช่แค่เรื่องรบกวนคนข้าง ๆ แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของร่างกาย โดยเฉพาะ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ที่พบได้บ่อยกว่าที่คิด และอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้าหลายคนอาจไม่รู้ว่าการนอนกรนในผู้หญิงมักไม่มีอาการชัดเจนเหมือนผู้ชาย เช่น อาจไม่มีเสียงกรนดัง แต่จะมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงกลางวัน ขี้ลืม หงุดหงิดง่าย หรือแม้แต่ปัญหาทางเพศ ทำให้ถูกมองข้ามและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

Snoring, sleep apnea

นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับการนอนหลับ เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยไม่รู้ตัว หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการ นอนกรนร่วมกับหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) มันไม่ใช่แค่เรื่องของเสียงรบกวนระหว่างหลับเท่านั้น แต่เป็นโรคร้ายที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเสียชีวิตอย่างเงียบ ๆ โดยที่คุณไม่รู้ตัวhttps://www.youtube.com/watch?v=O6cvnSTn7lA ภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ คืออะไร? นอนกรนเกิดจากการสั่นของเนื้อเยื่อในลำคอ อากาศที่ผ่านช่องทางเดินหายใจที่ตีบแคบในระหว่างหลับ อาจเกิดจากเพดานอ่อน โคนลิ้น หรือกล้ามเนื้อคอที่หย่อนคล้อยมาขวางลม การหายใจอาจหยุดลงชั่วขณะ และเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ตลอดคืน เรียกว่า "ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น" ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง สมองและหัวใจต้องทำงานหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัวบทความที่เกี่ยวข้อง นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ ทำไมถึงอันตราย? การหยุดหายใจซ้ำ ๆ ตลอดทั้งคืน ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนเป็นระยะ ส่งผลเสียร้ายแรงหลายด้าน เช่น- ทำให้นอนหลับไม่เต็มที่ ตื่นกลางดึก และรู้สึกไม่สดชื่นแม้จะนอนนาน- เพิ่มความเสี่ยงของ โรคร้ายแทรกซ้อน เช่นหัวใจล้มเหลว (เสี่ยงมากขึ้นถึง 140%)หลอดเลือดสมองตีบ (เสี่ยงเพิ่ม 30%)โรคหลอดเลือดหัวใจ (เพิ่มความเสี่ยง 60%)เบาหวานชนิดที่ 2 (เพิ่มความเสี่ยง 6 เท่า)ภาวะซึมเศร้า (พบในผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ2%)สมองเสื่อม (ความจำเสื่อมเร็วจากขาดออกซิเจนในสมอง)ขอบคุณข้อมูลจาก The University of Queensland​ ใครบ้างที่เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกิดได้กับทุกคน แต่มีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้บางคนมีแนวโน้มมากกว่าคนอื่น เช่นน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนไขมันรอบคออาจกดทับทางเดินหายใจ ขัดขวางการหายใจขณะหลับ (น้ำหนักขึ้นเพียง 10% เพิ่มความเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับถึง 32%)อายุที่มากขึ้นอายุมากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อในลำคอและใบหน้าหย่อนตัว เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจเพศชายมีแนวโน้มหยุดหายใจขณะหลับ มากกว่าเพศหญิงถึง 5-6 เท่า เนื่องจากโครงสร้างทางกายภาพและฮอร์โมนที่แตกต่างกันโครงสร้างใบหน้าผิดปกติคนที่มีคางเล็ก คางถอย หรือคางสั้น มีพื้นที่ช่องคอน้อยลง เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจได้มากขึ้นโรคประจำตัวคนที่เป็นเบาหวาน ความดัน หลอดเลือดหัวใจ หรือสมองเสื่อม มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปมาก โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเผชิญภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? อาการที่พบบ่อยและควรสังเกต ได้แก่นอนกรนเสียงดังเป็นประจำหายใจติดขัดหรือหยุดหายใจขณะหลับ (สังเกตได้จากคนข้าง ๆ)ตื่นกลางดึกบ่อย มีอาการหายใจแรงหรือสะดุ้งง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวันปวดหัวตอนเช้า ไม่สดชื่นแม้นอนนานหงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน หรือมีปัญหาความจำ รับคำปรึกษา ฟรี! อย่ารอให้อันตรายมาเยือนโดยไม่รู้ตัว การนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับไม่ควรถูกมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกถึงโรคร้ายแรงในอนาคต โดยเฉพาะในคนที่มีปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมาการเข้ารับ การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นวิธีที่แม่นยำและปลอดภัยในการวินิจฉัยโรคนี้ และถ้าพบว่ามีปัญหา ก็สามารถเริ่มรักษาได้อย่างตรงจุดตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่อง CPAP, Oral Appliance, การฝึกหายใจหรือปรับพฤติกรรมการนอน และการบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย สรุป "นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ" ไม่ใช่แค่ปัญหาเสียงน่ารำคาญตอนกลางคืน แต่คือภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพโดยรวมของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ สมอง หรือคุณภาพชีวิต การใส่ใจและรับการวินิจฉัยตั้งแต่ต้น คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยรักษาชีวิตและอนาคตของคุณไว้

7 วิธีแก้นอนกรน

การนอนกรนไม่ใช่แค่ปัญหากวนใจของคนรอบข้างเท่านั้น แต่ยังเป็น “สัญญาณเตือน” ถึงภาวะอันตรายที่ซ่อนอยู่ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันสูง และการเสียชีวิตขณะนอนหลับได้https://youtu.be/IiQ1cbbtrOs?si=a2rxjjKPPIQWLdtu ล่าสุดในวิดีโอสัมภาษณ์โดยคุณซีมง ที่ได้เชิญคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนจาก VitalSleep Clinic มาให้ความรู้แบบเข้าใจง่าย มาอธิบายถึง 7 วิธีรักษาอาการนอนกรน ที่ได้ผลจริงปลอดภัย วิธีการรักษาทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด สรุปมาไว้ที่นี่แล้ว ก่อนรักษา ต้องเริ่มจากการ “ตรวจการนอนหลับ (Sleep Test)” คุณหมอย้ำว่าก่อนจะรักษาอาการนอนกรน ต้องเข้ารับการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นการนอนกรนแบบธรรมดาหรือมีภาวะหยุดหายใจร่วมด้วยเมื่อได้ผลตรวจการนอนหลับแล้ว แพทย์เฉพาะทางจะอ่านผล เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมอ่านข้อมูลเพิ่มเติม สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย 7 วิธีรักษานอนกรน จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 1. CPAP (Continuous Positive Airway Pressure)เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก เป็นมาตรฐานในการรักษาอาการนอนกรนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)หลักการทำงาน CPAP จะพ่นลมอย่างต่อเนื่องผ่านหน้ากากครอบจมูกหรือทั้งจมูกและปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจไม่ให้ฟีบในขณะที่กำลังหลับ ช่วยลดการสั่นของเพดานปากและการอุดกั้นที่ทำให้เกิดเสียงกรนหรือหยุดหายใจข้อดีรักษานอนกรนตั้งแต่ระดับปานกลางถึงรุนแรงได้ผลดีลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ ความดันสูง หลอดเลือดสมองเหมาะกับใครคนที่มีอาการกรนระดับเบาถึงปานกลาง หรือคนที่มี OSAอ่านเพิ่มเติม2. Oral Appliance (โปรแกรมทันตกรรมรักษานอนกรน)เครื่องมือทันตกรรมที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ใส่ในปากขณะนอนหลับหลักการทำงาน ดันขากรรไกรล่างไปด้านหน้า ช่วยเปิดพื้นที่ด้านหลังลิ้น ลดการอุดกั้นทางเดินหายใจข้อดีพกพาสะดวก ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าใช้งานง่าย น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ใช้ CPAP แล้วไม่ประสบความสำเร็จเหมาะกับใครคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับรุนแรง หรือมีโรคร่วมที่ต้องการควบคุมอาการให้แน่นอน3. Myofunctional Therapy (กายภาพกล้ามเนื้อช่องปากและใบหน้า)การบำบัดกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจและการกลืนหลักการทำงาน ฝึกกล้ามเนื้อลิ้น ริมฝีปาก เพดานอ่อน และใบหน้า เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและการควบคุมให้กับกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงข้อดีเป็นการรักษาแบบไม่ใช้เครื่อง ไม่ผ่าตัดเสริมประสิทธิภาพการใช้ Oral Appliance หรือหลังผ่าตัดป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้นในอนาคตเหมาะกับใครเด็กที่มีปัญหาหายใจทางปาก มีโครงสร้างใบหน้าผิดปกติ และผู้ใหญ่ที่เริ่มมีภาวะกรนหรือมีภาวะหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อจากอายุ4. Radio Frequency (RF) คลื่นความถี่วิทยุเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานความร้อนควบคุมระดับในการกระตุ้นเนื้อเยื่อให้หดตัวหลักการทำงาน กระตุ้นให้เพดานอ่อนและโคนลิ้นหดตัว เพิ่มความกระชับของเนื้อเยื่อ ลดการสั่นของเนื้อเยื่อขณะนอนหลับข้อดีใช้เวลาทำไม่นาน ฟื้นตัวเร็วรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัดใช้ร่วมกับ Oral Appliance หรือ CPAP เพื่อเสริมประสิทธิภาพเหมาะกับใครคนที่มีปัญหาเพดานอ่อนหย่อน พลิ้ว สั่นง่าย และมีนอนกรนไม่รุนแรง5. การผ่าตัดแก้ไขผนังกั้นโพรงจมูกคด (Septoplasty)จัดแนวผนังกั้นจมูกให้ตรง เปิดทางเดินหายใจหลักการทำงาน ผ่าตัดปรับโครงสร้างจมูกที่คดหรือมีเนื้องอกกีดขวาง เพื่อให้หายใจสะดวกขึ้นข้อดีเพิ่มประสิทธิภาพของ CPAP และการหายใจทางจมูกแก้ปัญหาการนอนอ้าปากจากการหายใจทางปากเหมาะกับใครคนที่มีโพรงจมูกตีบ จมูกคด หรือมีปัญหาหายใจทางจมูกลำบากเรื้อรัง6. การผ่าตัดเพดานอ่อนผ่าตัดเปิดทางเดินหายใจบริเวณเพดานอ่อนหลักการทำงาน ตัดหรือเย็บยกเพดานอ่อนให้กระชับขึ้น และเปิดช่องทางให้ลมหายใจผ่านสะดวกข้อดีช่วยลดเสียงกรนเหมาะกับคนที่มีโครงสร้างเพดานอ่อนหย่อนอย่างชัดเจนเหมาะกับใครคนที่แพทย์ตรวจพบว่าเกิดการอุดกั้นจากเพดานอ่อนเป็นหลัก7. การผ่าตัดขากรรไกร (Maxillomandibular Advancement หรือ MMA)ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรบน ล่าง และคางไปด้านหน้าหลักการทำงาน ขยายพื้นที่ทางเดินหายใจส่วนบน เพิ่มความตึงของกล้ามเนื้อโดยรอบ ช่วยป้องกันการยุบตัวของทางเดินหายใจขณะหลับข้อดีเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะคนที่มีโครงสร้างใบหน้าผิดปกติให้ผลลัพธ์ของการรักษาที่ยั่งยืนเหมาะกับใครคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับรุนแรง และไม่ตอบสนองต่อวิธีรักษาอื่น ๆ รวมถึงคนที่มีโครงสร้างใบหน้าร่นเล็กผิดปกติ สรุป ปัญหานอนกรนไม่ใช่แค่เสียงรบกวน แต่เป็นสัญญาณเตือนสุขภาพที่อาจซ่อนโรคอันตรายไว้เบื้องหลัง เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อารมณ์แปรปรวน ไปจนถึงสมรรถภาพทางเพศถดถอย7 วิธีรักษานอนกรน ที่ VitalSleep Clinic แนะนำ เป็นการดูแลแบบองค์รวม โดยแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการนอนหลับ ที่จะประเมินจากโครงสร้างทางเดินหายใจ พฤติกรรมการนอน ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงผลตรวจการนอนหลับ Sleep Test เพื่อออกแบบการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ปรึกษาวิธีการรักษากับเเพทย์เฉพาะทาง!

Sleep Test ราคาประหยัด

การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นวิธีการที่สำคัญในการวิเคราะห์ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่กำลังนอนหลับ เกี่ยวข้องกับระบบการทำงานของร่างกายหลาย ๆ ด้าน

Why choose VitalSleep and Wellness
ตรวจคุณภาพการนอนหลับได้จากที่บ้าน

ตรวจการหลับ Sleep Test ที่ VitalSleep and Wellness สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดิน ทาง มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปติดตั้ง ให้ถึงที่บ้าน อ่านผลการตรวจ โดยแพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine

ลดเสียงกรนด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ที่ VitalSleep and Wellness นําเสนอแนวทางการรักษานอนกรน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ออกแบบ เฉพาะบุคคล รักษาได้ทั้ง แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด และการรักษาครอบคลุมไปถึงการรักษาอาการนอน กัดฟัน และข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ค้นหา และรักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ

เน้นการตรวจเชิงลึกหลายแนวทาง เพื่อค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุการรักษาที่แท้จริง มุ่งเน้นรักษาและบําบัดสาเหตุของการกรนที่ต้นเหตุ คือ กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ด้วย Myofunctional Therapy

แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ผสมผสาน

นําเสนอการรักษาที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคล เน้นการรักษาแบบผสมผสาน การรักษาหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครอบคลุมทุกความแตกต่างของแต่ละบุคคล

ทพ. ดร. อมรพงษ์ วชิรมน

Medical Director
แพทย์เฉพาะทางรักษานอนกรน

VitalSleep and Wellness
ดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง และนักกายภาพบําบัดวิชาชีพ
  • Polysomnography - Sleep Test ตรวจการนอนหลับ
  • เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน
  • เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก รักษานอนกรน
  • รักษาอาการ นอนกัดฟัน
  • รักษาอาการ ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ขากรรไกรมีเสียงคลิก
  • บำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น
  • ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร รักษานอนกรน
…and much more!

Promotion Sleep Test

ตรวจคุณภาพการนอนหลับ

สะดวก ง่าย ทำได้จากที่บ้าน

แพทย์เฉพาะทางอ่านผล

พิเศษ 6,900 บาท

(ปกติ 10,000 บาท)