Skip to content
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
นอนกรน เสี่ยง โรคใหลตาย
ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

นอนกรน เสี่ยง โรคใหลตาย

ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
Table of Contents

อาการนอนกรนไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่สร้างความรำคาญใจให้กับคนรอบข้างเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่อันตรายถึงชีวิต หนึ่งในโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับการนอนกรนคือ “โรคใหลตาย” หรือ “ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน” ตัวอย่างเช่น การเสียชีวิตของ “คุณแวว จ๊กมก” น้องสาวของ “คุณหม่ำ จ๊กมก” ที่ได้สร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายของภาวะนี้ ซึ่งผู้ป่วยอาจเสียชีวิตอย่างกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า

โรคใหลตายคืออะไร?

โรคใหลตายมีชื่อทางการแพทย์ว่า “กลุ่มอาการบรูกาดา” (Brugada Syndrome) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ผู้ป่วยอาจหมดสติและเสียชีวิตภายในเวลาสั้น ๆ โดยไม่มีโอกาสให้ผู้ป่วยหรือคนใกล้ชิดสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ทัน

อาการของโรคใหลตาย

ผู้ป่วยที่ประสบกับโรคใหลตายมักจะไม่มีอาการแจ้งเตือนมาก่อน เนื่องจากภาวะนี้เกิดขึ้นขณะหลับ การเสียชีวิตจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและมักเป็นช่วงเวลากลางคืน ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตโดยไม่มีโอกาสรู้ตัว หรือไม่มีใครสามารถช่วยได้ทัน

การทดสอบการนอนหลับ (Sleep test)

เป็นการตรวจวิเคราะห์ระบบต่าง ๆ ในร่างกายระหว่างการนอนหลับ การตรวจการนอนหลับนี้จะช่วยวิเคราะห์การทำงานของระบบหัวใจและปอด รวมทั้งการประเมินคุณภาพการนอนหลับ เป็นข้อมูลสำคัญในการตรวจหาภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่เกี่ยวข้องกับอาการนอนกรน

สาเหตุของโรคใหลตาย

โรคใหลตายมีสาเหตุหลักมาจากการทำงานผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ส่งผลให้เลือดไม่สามารถสูบฉีดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้เพียงพอ เมื่อขาดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง อาจทำให้ผู้ป่วยหมดสติและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว สาเหตุเหล่านี้ยังเกี่ยวข้องกับอาการนอนกรนในบางกรณี

สัญญาณอันตรายของโรคใหลตาย

โรคใหลตายมักมีสัญญาณอันตรายที่สามารถสังเกตได้ล่วงหน้า เช่น

  • รู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
  • เป็นลม หมดสติ หรือใจหวิว
  • รู้สึกเครียดง่ายและตื่นเต้นง่าย
  • เจ็บแน่นหน้าอกและเวียนศีรษะ

ความเกี่ยวข้องของการนอนกรนกับโรคใหลตาย

อาการนอนกรนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวฉับพลัน โดยเมื่ออากาศไม่สามารถไหลผ่านทางเดินหายใจได้เพียงพอ ระดับออกซิเจนในเลือดจะลดลง ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชยการขาดออกซิเจน การหยุดหายใจในระหว่างนอนหลับยังทำให้ผู้ป่วยสะดุ้งเฮือก ซึ่งกระทบต่อการทำงานของหัวใจอย่างรุนแรง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในทันทีจากโรคใหลตาย

วิธีการรักษาอาการนอนกรนเพื่อป้องกันโรคใหลตาย

แม้อาการนอนกรนจะดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่การรักษาอย่างทันท่วงทีสามารถลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ แพทย์เฉพาะทางแนะนำวิธีการรักษาการนอนกรนแบบไม่ผ่าตัดที่ได้ผลดี เช่น

  • เครื่องมือทันตกรรมรักษานอนกรน (Oral Appliance) เครื่องมือช่วยปรับตำแหน่งขากรรไกรและทางเดินหายใจให้เปิดโล่ง ลดอาการกรนและหยุดหายใจขณะหลับ
  • เครื่องช่วยหายใจ CPAP เครื่องนี้จะส่งแรงดันอากาศเข้าไปในทางเดินหายใจเพื่อป้องกันไม่ให้ปิดขณะนอนหลับ ซึ่งทำให้การหายใจเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว
  • การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RF) วิธีนี้ช่วยลดการหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อบริเวณโคนลิ้นและทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของเสียงกรน

การฟื้นฟูกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ (Myofunctional Therapy) การบริหารกล้ามเนื้อทางเดินหายใจช่วยเสริมความแข็งแรงและลดการหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อ ทำให้การหายใจดีขึ้นในระหว่างการนอนหลับ

สรุป

โรคใหลตายเป็นภัยเงียบที่อันตราย ซึ่งเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่มักมีการนอนกรนร่วมด้วย หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการนอนกรน ควรเข้ารับการตรวจและรักษาโดยเร็วเพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นได้

Related Blogs and Articles
นอนกรน เสี่ยงมะเร็งจริงหรือ

หลายคนอาจคิดว่า “การนอนกรน” เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย แต่รู้หรือไม่ว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ซึ่งมักพบร่วมกับการกรน อาจมีความเชื่อมโยงกับ “โรคมะเร็ง”https://www.youtube.com/shorts/Qil5hs1gy5A ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ คืออะไร? ข้อมูลจากสถาบันโรคหัวใจ ปอด และโลหิตวิทยาแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NHLBI) ระบุว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นภาวะที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ จะมีช่วงที่หยุดหายใจและกลับมาหายใจซ้ำ ๆ ขณะนอนหลับ ทำให้หลับไม่สนิท นอนหลับไม่เต็มที่และรบกวนคุณภาพชีวิตในระยะยาวสาเหตุหลัก มาจากกล้ามเนื้อบริเวณลำคอที่หย่อนตัวผิดปกติ ทำให้ทางเดินหายใจอุดกั้น หากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่โรคร้ายต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง และที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ความเชื่อมโยงระหว่างการนอนกรนกับโรคมะเร็ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Athanasia Pataka จาก Aristotle University of Thessaloniki ประเทศกรีซ ได้เปิดเผยว่า ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือมีอาการกรนอย่างรุนแรง จะมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำระหว่างนอนหลับ ภาวะนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิด งานวิจัยที่ชี้ชัด มีการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างกว่า 19,000 คน (ชาย 13,767 คน หญิง 5,789 คน) พบว่าผู้ที่มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 90% ซ้ำ ๆ ในแต่ละคืน มีความเสี่ยงต่อมะเร็งมากขึ้นในกลุ่มนี้ มีผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งจำนวน 388 คน (ราว 2%)มะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงคือ มะเร็งเต้านม ส่วนผู้ชายคือ มะเร็งต่อมลูกหมากอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจคือ การหยุดหายใจขณะหลับมีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง ชัดเจนในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในคนที่มีอาการรุนแรง และมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำในช่วงกลางคืนนักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ปัจจัยทางชีววิทยาระหว่างเพศชายและหญิง เช่น ฮอร์โมน อาจเป็นตัวเร่งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง รวมถึงอิทธิพลของออกซิเจนต่ำในเลือด ซึ่งอาจกระตุ้นกระบวนการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย วิธีรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การรักษาจะเริ่มจาก การตรวจ Sleep Test เพื่อประเมินความรุนแรง จากนั้นแพทย์เฉพาะทางจะวางแผนการรักษา มีทั้งแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัดบทความที่เกี่ยวข้อง สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย การรักษาแบบไม่ผ่าตัด ยางครอบฟันช่วยเปิดทางเดินหายใจ (Oral Appliance)การทำบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ (Myofunctional Therapy)คลื่นความถี่วิทยุ RF Bot จี้โคนลิ้นและเยื่อบุจมูกการใช้ CPAP การรักษาแบบผ่าตัด การผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร (Maxillomandibular Advancement)การผ่าตัดตกแต่งเพดานอ่อนและลิ้นไก่ ทำไมต้องรักษาที่ VitalSleep Clinic? แพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญมีทีมแพทย์ที่ผ่านการอบรมจากสถาบันระดับโลก พร้อมใบรับรองด้านการรักษาความผิดปกติของกล้ามเนื้อช่องปาก ใบหน้าและทางเดินหายใจเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยครอบคลุมทั้งแนวทางแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัด รวมถึง Myosa® สำหรับผู้มีปัญหานอนกัดฟันหรือข้อต่อขากรรไกรใส่ใจ ดูแลรักษาได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาวะนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ หรือปัญหาข้อต่อขากรรไกร พร้อมดูแลอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง สรุป ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงมะเร็ง โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำขณะหลับ จึงควรตรวจ Sleep Test เพื่อประเมินอาการและเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัดที่ VitalSleep Clinic พร้อมดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ ฟรี!

นอนกรนเกิดจากอะไร เช็คด่วน ใครเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับบ้าง

นอนกรนเกิดจากอะไร? เกิดจากการหายใจผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบลงขณะนอนหลับ จากการอุดกั้นของกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในช่องปาก ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณคอ เช่น เพดานอ่อน ลิ้นไก่ และทอนซิล สั่นสะเทือนจนเกิดเป็นเสียงกรนในขณะที่นอนหลับอยู่ ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะทางเดินหายใจแคบลง ได้แก่ ระดับความรุนแรงของการนอนกรน อาการนอนกรนสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ตามความรุนแรงของอาการและผลกระทบที่เกิดขึ้น ดังนี้ ขอบคุณข้อมูลจาก: ใครบ้างที่เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่พบมากในกลุ่มต่อไปนี้ อันตรายจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การตรวจการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic กุญแจสู่การนอนหลับที่ดีขึ้น ข้อดีของการตรวจการนอนหลับกับ VitalSleep Clinic อ่านเพิ่มเติม: วิธีการรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ จาก VitalSleep Clinic ได้แก่ สรุป ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) เป็นภาวะที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ที่ VitalSleep Clinic เรามีแนวทางการรักษาที่ทันสมัยและหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ลดอาการนอนกรน เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ และลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน

คุณหมอเคลียร์ข้อสงสัย-สาเหตุ-อันตราย-วิธีรักษาการนอนกรนและ-โรคหยุดหายใจขณะหลับ

สาเหตุ อันตราย และวิธีการรักษาการนอนกรนและโรคหยุดหายใจขณะหลับ โดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ การนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นปัญหาที่หลายคนประสบ โดยเฉพาะผู้ที่สงสัยว่าตนเองอาจมีภาวะดังกล่าว วันนี้เราจะพูดคุยกับคุณหมอเกี่ยวกับสาเหตุ อันตราย และวิธีการรักษาการนอนกรน รวมถึงโรคหยุดหายใจขณะหลับ มาฟังกันเลยค่ะ ซีมง: ทำไมบางคนถึงมีอาการกรนแต่บางคนกลับไม่มีอาการกรนคะ?​ คุณหมอ: การกรนมี 2 แบบ สาเหตุของการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซีมง: ค่ะคุณหมอ…สรุปแล้ว โรคหยุดหายใจขณะหลับอันตรายยังไงบ้างคะ? คุณหมอ: อันตรายของภาวะหยุดหายใจขณะหลับนะคะ ก็ลองนึกสภาพนะคะว่า แค่ซีมงทำงานหนักๆ หรือว่างานเยอะ นอนตี 3 ตี 4 แล้วต้องตื่นมาทำงานแต่เช้า ก็จะรู้สึกไม่เฟรชเนอะ เพลียๆ ตื้อๆ ทั้งวัน ง่วงทั้งวัน ซีมง: เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นอยู่ (เสียงหัวเราะ) คุณหมอ: อ้าวจริงเหรอ (เสียงหัวเราะ) ก็คือการนอนหลับนะคะ เป็นสิ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิต มันเหมือนการ Recharge ถ้าเรานอนไม่ได้ เหมือนเราไม่ได้ Recharge พลังงานชีวิตเราจะลดลง ทีนี้พอคนไข้หายใจเข้าไม่ได้ เหมือนเราไม่มีออกซิเจน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หัวใจจะทำงานหนัก สัญญาณแรกๆที่โผล่มาก็คือ ความดันโลหิตสูง ส่งผลให้เป็นโรคหัวใจได้ อีกเรื่องนึงคือ เราจะตื่นมาไม่สดชื่น ก็จะเกิดอาการ “Daytime Sleepiness” ก็คือง่วงหงาวหาวนอนตลอดทั้งวันเลย ซีมง: เอาละค่ะ… วันนี้เราก็ได้รู้สาเหตุและอันตรายของการกรนและโรคหยุดหายใจขณะหลับไปแล้วนะคะ คุณหมอมีอะไรจะทิ้งท้ายกับคนที่ดูอยู่ไหมคะ คุณหมอ: ก่อนจบวันนี้นะคะ ขอฝากไว้ว่า ใครมีคนใกล้ชิดที่มีอาการนอนกรนเสียงดัง แล้วก็มีอาการหยุดหายใจไปแล้ว “เฮือกกก” กลับมาแบบนี้ ให้สันนิษฐานว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ก็พามาเลย ที่ Vital Sleep Clinic นะคะ ซีมง: ค่ะ วันนี้เราก็ได้ความรู้ไปมากมาย ใครที่สนใจอยากรู้วิธีรักษาการนอนกรนเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามชมได้ใน EP ต่อไปเลยค่ะ ก็ทราบกันไปแล้วนะคะว่า สาเหตุของการนอนกรนมาจากไหน อาการหยุดหายใจขณะหลับมีลักษณะยังไง ถ้าอยากรู้ว่าคุณหมอจะมีวิธีแก้นอนกรนยังไง สามารถติดตามต่อได้ใน EP ต่อไปนะคะ อันตรายของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การหยุดหายใจขณะหลับส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม เพราะในระหว่างที่หายใจไม่ได้ ร่างกายจะขาดออกซิเจน ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น และผลที่ตามมาก็คือ การนอนหลับอย่างมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นกระบวนการที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย หากร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนเพียงพอ พลังงานชีวิตจะลดลง ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลงเรื่อย ๆ วิธีการรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับความรุนแรงของภาวะ โดยที่ Vital Sleep Clinic มีการรักษาแบบครบวงจร ทั้งการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด พร้อมด้วยการบำบัดฟื้นฟูกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ เช่น Myofunction Therapy และจำหน่ายอุปกรณ์ช่วยลดการกรน เช่น Myosa® นอกจากนี้ ทีมแพทย์ที่ Vital Sleep Clinic เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองจากสถาบันนานาชาติ มีประสบการณ์และความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับกล้ามเนื้อใบหน้าและการรักษาภาวะนอนกรน จึงมั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด สรุป การนอนกรนและโรคหยุดหายใจขณะหลับมีทั้งแบบที่ไม่อันตรายและแบบที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากการตีบแคบของทางเดินหายใจ ซึ่งส่งผลให้หัวใจทำงานหนักขึ้น และอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ หากคุณพบว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาและคำแนะนำที่เหมาะสม

หลับ ๆ ตื่น ๆ นอนไม่พอ เราขอแนะนำตรวจ Sleep Test

การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากคุณหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือนอนไม่พอ ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ

นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ โรคร้ายที่อาจพรากชีวิตโดยไม่รู้ตัว

นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับการนอนหลับ เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยไม่รู้ตัว หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการ นอนกรนร่วมกับหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) มันไม่ใช่แค่เรื่องของเสียงรบกวนระหว่างหลับเท่านั้น แต่เป็นโรคร้ายที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเสียชีวิตอย่างเงียบ ๆ โดยที่คุณไม่รู้ตัวhttps://www.youtube.com/watch?v=O6cvnSTn7lA ภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ คืออะไร? นอนกรนเกิดจากการสั่นของเนื้อเยื่อในลำคอ อากาศที่ผ่านช่องทางเดินหายใจที่ตีบแคบในระหว่างหลับ อาจเกิดจากเพดานอ่อน โคนลิ้น หรือกล้ามเนื้อคอที่หย่อนคล้อยมาขวางลม การหายใจอาจหยุดลงชั่วขณะ และเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ตลอดคืน เรียกว่า "ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น" ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง สมองและหัวใจต้องทำงานหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัวบทความที่เกี่ยวข้อง นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ ทำไมถึงอันตราย? การหยุดหายใจซ้ำ ๆ ตลอดทั้งคืน ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนเป็นระยะ ส่งผลเสียร้ายแรงหลายด้าน เช่น- ทำให้นอนหลับไม่เต็มที่ ตื่นกลางดึก และรู้สึกไม่สดชื่นแม้จะนอนนาน- เพิ่มความเสี่ยงของ โรคร้ายแทรกซ้อน เช่นหัวใจล้มเหลว (เสี่ยงมากขึ้นถึง 140%)หลอดเลือดสมองตีบ (เสี่ยงเพิ่ม 30%)โรคหลอดเลือดหัวใจ (เพิ่มความเสี่ยง 60%)เบาหวานชนิดที่ 2 (เพิ่มความเสี่ยง 6 เท่า)ภาวะซึมเศร้า (พบในผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ2%)สมองเสื่อม (ความจำเสื่อมเร็วจากขาดออกซิเจนในสมอง)ขอบคุณข้อมูลจาก https://shorturl.asia/24zEk, https://shorturl.asia/7vtOc, https://shorturl.asia/6ICHZ, https://shorturl.asia/JGftQ, https://shorturl.asia/6T2yV, https://shorturl.asia/JGftQ ใครบ้างที่เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกิดได้กับทุกคน แต่มีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้บางคนมีแนวโน้มมากกว่าคนอื่น เช่นน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนไขมันรอบคออาจกดทับทางเดินหายใจ ขัดขวางการหายใจขณะหลับ (น้ำหนักขึ้นเพียง 10% เพิ่มความเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับถึง 32%)อายุที่มากขึ้นอายุมากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อในลำคอและใบหน้าหย่อนตัว เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจเพศชายมีแนวโน้มหยุดหายใจขณะหลับ มากกว่าเพศหญิงถึง 5-6 เท่า เนื่องจากโครงสร้างทางกายภาพและฮอร์โมนที่แตกต่างกันโครงสร้างใบหน้าผิดปกติคนที่มีคางเล็ก คางถอย หรือคางสั้น มีพื้นที่ช่องคอน้อยลง เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจได้มากขึ้นโรคประจำตัวคนที่เป็นเบาหวาน ความดัน หลอดเลือดหัวใจ หรือสมองเสื่อม มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปมาก โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเผชิญภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? อาการที่พบบ่อยและควรสังเกต ได้แก่นอนกรนเสียงดังเป็นประจำหายใจติดขัดหรือหยุดหายใจขณะหลับ (สังเกตได้จากคนข้าง ๆ)ตื่นกลางดึกบ่อย มีอาการหายใจแรงหรือสะดุ้งง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวันปวดหัวตอนเช้า ไม่สดชื่นแม้นอนนานหงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน หรือมีปัญหาความจำ รับคำปรึกษา ฟรี! อย่ารอให้อันตรายมาเยือนโดยไม่รู้ตัว การนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับไม่ควรถูกมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกถึงโรคร้ายแรงในอนาคต โดยเฉพาะในคนที่มีปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมาการเข้ารับ การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นวิธีที่แม่นยำและปลอดภัยในการวินิจฉัยโรคนี้ และถ้าพบว่ามีปัญหา ก็สามารถเริ่มรักษาได้อย่างตรงจุดตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่อง CPAP, Oral Appliance, การฝึกหายใจหรือปรับพฤติกรรมการนอน และการบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย สรุป "นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ" ไม่ใช่แค่ปัญหาเสียงน่ารำคาญตอนกลางคืน แต่คือภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพโดยรวมของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ สมอง หรือคุณภาพชีวิต การใส่ใจและรับการวินิจฉัยตั้งแต่ต้น คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยรักษาชีวิตและอนาคตของคุณไว้

แก้นอนกรน ด้วย Myofunctional Therapy

การนอนกรน เป็นปัญหาการนอนที่พบได้บ่อยและส่งผลต่อทั้งคนที่นอนกรนและคนรอบข้าง แม้ว่าจะมีวิธีการรักษานอนกรนหลายรูปแบบ แต่ Myofunctional Therapy

Sex เสื่อมเพราะนอนกรน

Sex เสื่อมเพราะนอนกรน หลายคนอาจเคยเจอกับปัญหาคู่รักนอนกรน มักจะถูกมองข้าม เพราะหลายคนคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่น่ามีผลกระทบที่สำคัญต่อสุขภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าอาการนอนกรนสามารถเป็นสัญญาณเตือนของโรคอื่น ๆ ที่ร้ายแรงได้ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และสามารถส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศได้ การหาวิธีรักษาการนอนกรนจึงไม่ใช่แค่เพื่อคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น แต่ยังช่วยรักษาความสัมพันธ์และสุขภาพทางเพศของคู่รักได้อีกด้วย การนอนกรนในผู้ชายและผู้หญิง หลายคนอาจเข้าใจว่าผู้ชายมีแนวโน้มที่จะมีอาการนอนกรนที่มากกว่าผู้หญิง แต่งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงก็สามารถนอนกรนได้เหมือนผู้ชายเช่นเดียวกัน จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Sleep Medicine ในปี 2008 ที่ศึกษาการนอนกรนในประชากรวัยทำงานของประเทศสวีเดน พบว่า 24.5% ของผู้หญิงมีอาการนอนกรน มีอัตราที่ใกล้เคียงกับผู้ชาย ที่มีอัตราการนอนกรนอยู่ที่ 30.3% อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้การนอนกรนแตกต่างกันไป อาจเกี่ยวข้องกับลักษณะทางร่างกาย ฮอร์โมน และการใช้ชีวิต อ่านเพิ่มเติม การนอนกรนมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศหรือไม่? มีงานวิจัยที่ว่าภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางเพศ โดยเฉพาะภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ในผู้ชาย การหยุดหายใจขณะหลับอาจส่งผลให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง การผลิตไนตริกออกไซด์ลดลง การไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณอวัยวะเพศบกพร่อง ผลมาจากการขาดออกซิเจนระหว่างการนอนหลับ นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าและง่วงนอนในระหว่างวัน ซึ่งทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงไม่เฉพาะในผู้ชายเท่านั้น แต่ยังอาจกระทบถึงเพศหญิงได้เช่นกัน ขอบคุณข้อมูลจาก สาเหตุของการนอนกรน การนอนกรนสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้วิธีการรักษาอาการนอนกรนในผู้ชายและผู้หญิงอาจแตกต่างกันไปหลายปัจจัย ได้แก่ วิธีแก้ปัญหานอนกรนด้วยตนเอง แม้ว่าจะไม่มีวิธีที่สามารถรักษาอาการนอนกรนได้ด้วยตัวเองแบบรับประกัน 100% ว่าจะหายนอนกรนได้ แต่ก็มีวิธีการปรับเปลี่ยนวิธีการชีวิตที่สามารถช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการนอนกรนได้ วิธีการรักษานอนกรนที่ VitalSleep Clinic มีวิธีการรักษาทั้งแบบไม่ต้องผ่าตัดและการผ่าตัด โดยวิธีรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด ได้แก่ การบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ (Myofunctional Therapy) การใช้เครื่องมือทันตกรรม (Oral Appliance) การใช้คลื่นความถี่ความถี่สูง (Radiofrequency) และการใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก (CPAP) สำหรับคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่รุนแรงมาก การผ่าตัดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อขยายทางเดินหายใจ การผ่าตัดขากรรไกร (Maxillomandibular advancement, MMA) เคลื่อนขากรรไกรไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ทางเดินหายใจ สิ่งสำคัญคือต้องรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของแต่ละคน เพราะการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณในระยะยาว การได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณและคนที่คุณรักสามารถนอนหลับได้ดี สรุป การนอนกรนไม่ใช่แค่ปัญหาเล็กน้อยที่รบกวนการนอนหลับของคุณหรือคู่รักเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย สมรรถภาพทางเพศ และสุขภาพจิตได้ด้วย อาการนอนกรนอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ร้ายแรงกว่าที่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ผู้หญิงนอนกรน สาเหตุและวิธีแก้นอนกรนในผู้หญิง

การนอนกรนไม่ใช่เรื่องน่าอายขนาดนั้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่คิดที่จะแก้ไข อาจทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในผู้หญิงหลายคนอาจจะรู้สึกเขินอาย หรือไม่กล้าบอกว่าตัวเองมีอาการนอนกรน และไม่รู้ว่าจะหาวิธีแก้ปัญหานี้อย่างไรให้ได้ผล แต่การนอนกรนในผู้หญิงก็เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ และหากไม่ให้ความสำคัญกับการหาทางแก้ไขอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิตขณะนอนหลับได้ก่อนที่จะหาคำตอบว่า ทำไม? ผู้หญิงถึงนอนกรน เราควรทำความเข้าใจว่าอาการนอนกรนคืออะไร? อาการนอนกรนคืออะไร? อาการนอนกรนเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อในลำคอผ่อนคลายระหว่างการนอนหลับ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง เมื่ออากาศผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบนี้ จะทำให้เนื้อเยื่อในลำคอ เช่น ทอนซิล เพดานอ่อน หรือลิ้นไก่สั่น จะทำให้เกิดเสียงกรน และยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลงหรืออุดตัน เช่น ต่อมทอนซิลโต น้ำหนักตัวที่มากเกินไป หรือลิ้นที่โตขึ้น ก็อาจทำให้เกิดอาการนอนกรนได้ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) คืออะไร? การนอนกรนไม่ใช่แค่การสร้างเสียงรบกวนระหว่างการนอนหลับ แต่ยังสามารถนำไปสู่การหยุดหายใจขณะหลับได้อีกด้วย เมื่อเนื้อเยื่อในลำคอหรือที่ลิ้นหย่อนลงไปปิดทางเดินหายใจ ทำให้ไม่สามารถหายใจได้ตามปกติ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนในขณะที่นอนหลับ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะไหลตายได้https://www.youtube.com/shorts/1RcpD_hJKcw สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงนอนกรน แม้ว่าปกติผู้ชายจะมีแนวโน้มที่จะนอนกรนมากกว่าผู้หญิง แต่ในผู้หญิงก็สามารถนอนกรนได้เช่นกัน โดยสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงนอนกรนมักจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพ น้ำหนักเกิน หรือการเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่เกิดจากอายุหรือการตั้งครรภ์ เช่นอายุ เมื่อผู้หญิงอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ปัญหาการนอนกรนจะเริ่มเพิ่มขึ้นวัยหมดประจำเดือน หลังจากหมดประจำเดือน ในผู้หญิงบางรายอาจมีแนวโน้มทำให้นอนกรนมากขึ้นน้ำหนักเกิน อาจทำให้มีไขมันสะสมที่หบริเวณลำคอ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงได้การตั้งครรภ์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายและระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการนอนกรนได้ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ถึงแม้จะพบได้น้อยในผู้หญิง แต่ยังคงเป็นปัญหาที่ควรให้ความสนใจอ่านเพิ่มเติม ปรึกษาปัญหานอนกรน ฟรี! สาเหตุอื่น ๆ ของการนอนกรน ในกรณีทั่วไป การนอนกรนอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่นคนอ้วน การสะสมของไขมันในบริเวณคอผู้สูงอายุ การเสื่อมของกล้ามเนื้อที่ทำให้ทางเดินหายใจแคบลงโรคภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบ ทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร อาจทำให้เกิดอาการนอนกรน วิธีแก้ไขการนอนกรนผู้หญิง การรักษาอาการนอนกรนเริ่มต้นด้วยการหาสาเหตุที่แท้จริง โดยการทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อตรวจหาว่าคุณมีปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หลังจากนั้นสามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งแบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ แบบผ่าตัดและแบบไม่ผ่าตัดบทความที่เกี่ยวข้องการเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการนอนกรน หากคุณพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการนอนกรนที่เป็นปัญหา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย สรุป การนอนกรนในผู้หญิงไม่ใช่แค่เรื่องรบกวนคนข้าง ๆ แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของร่างกาย โดยเฉพาะ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ที่พบได้บ่อยกว่าที่คิด และอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้าหลายคนอาจไม่รู้ว่าการนอนกรนในผู้หญิงมักไม่มีอาการชัดเจนเหมือนผู้ชาย เช่น อาจไม่มีเสียงกรนดัง แต่จะมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงกลางวัน ขี้ลืม หงุดหงิดง่าย หรือแม้แต่ปัญหาทางเพศ ทำให้ถูกมองข้ามและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

นอนกรนภัยเงียบที่ควรระวัง

นอนกรน ใครจะคิดว่า “เสียงกรน” ที่ดูเหมือนเรื่องธรรมดา อาจกลายเป็นภัยเงียบที่พรากชีวิตคนที่คุณรักไปอย่างไม่รู้ตัว “ใหลตาย” (Sudden Unexpected Nocturnal Death Syndrome หรือ SUNDS) คือหนึ่งในภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในอาการนอนกรน โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (OSA) เข้าใจ “ใหลตาย” ภัยเงียบที่พรากชีวิตในยามหลับ “ใหลตาย” คือภาวะเสียชีวิตอย่างกะทันหันในขณะนอนหลับ โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดภายหลังชันสูตร มักเกิดในคนที่ดูเหมือนสุขภาพแข็งแรงดี ในกลุ่มชายวัยหนุ่มสาวในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ลาว เวียดนาม และฟิลิปปินส์สาเหตุของอาการใหลตายยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่จากการศึกษาในปัจจุบันพบว่า ผู้เสียชีวิตจำนวนมากมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ที่มีจุดร่วมสำคัญคือ “การนอนกรน” งานวิจัยที่มีความเชื่อมโยง “ใหลตาย” งานวิจัยในประเทศไทยโดย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พบว่าในกลุ่มผู้ป่วยใหลตายที่รอดชีวิต มีสัดส่วนมากถึง 80% ที่มีอาการหยุดหายใจขณะหลับขอบคุณข้อมูลจากในประเทศฟิลิปปินส์ มีรายงานว่าชายหนุ่มวัยทำงานเสียชีวิตจากอาการใหลตาย จำนวนมากมีประวัติ “นอนกรนเสียงดัง” และ “หายใจติดขัดกลางดึก”ขอบคุณข้อมูลจากการศึกษาจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ก็พบว่า OSA เพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหัวใจอย่างเฉียบพลัน รวมถึงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงในขณะหลับขอบคุณข้อมูลจาก สัญญาณที่บ่งชี้ว่าอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ กรนเสียงดังหยุดหายใจเงียบ ๆ ชั่วครู่ แล้วเฮือกสะดุ้งตื่นกลางดึก หายใจไม่ทันตื่นนอนแล้วรู้สึกไม่สดชื่นง่วงตอนกลางวัน สมาธิสั้น อารมณ์แปรปรวนปวดหัวตอนเช้า ความดันสูง เบาหวานหรือโรคหัวใจ ปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ ฟรี! https://www.youtube.com/shorts/VQlGzDh6-_Q ทำไมภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ถึงเสี่ยงต่อ “ใหลตาย”? ออกซิเจนต่ำซ้ำซากการหยุดหายใจหลายครั้งต่อคืน ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ ส่งผลต่อหัวใจและสมองอย่างรุนแรงหัวใจเต้นผิดจังหวะภาวะ OSA เพิ่มความเสี่ยงหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบventricular fibrillation ที่อาจนำไปสู่หัวใจหยุดเต้นในขณะหลับกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติภาวะออกซิเจนต่ำกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเธติก ทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจผันผวนอย่างรุนแรงสมองขาดออกซิเจนการขาดออกซิเจนในสมองซ้ำซาก อาจทำให้เกิดการชักหรือสูญเสียการควบคุมระบบสำคัญในร่างกาย แนวทางการรักษาอาการกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับเพื่อป้องกัน “ใหลตาย” การรักษาที่เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงใหลตายได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยแนวทางการรักษาแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก1. การรักษาแบบไม่ใช้เครื่องมือปรับพฤติกรรม เช่น ลดน้ำหนัก งดแอลกอฮอล์ งดยานอนหลับ นอนตะแคงฝึกการหายใจ และกล้ามเนื้อในช่องปาก (Myofunctional Therapy) ช่วยกระชับกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ2. การรักษาด้วยอุปกรณ์CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก ที่ถือเป็นมาตรฐานทองในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับOral Appliance (เครื่องมือทันตกรรม) ช่วยดันขากรรไกรล่างไปด้านหน้า เปิดทางเดินหายใจ เหมาะกับคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง3. การรักษาแบบผ่าตัดและหัตถการผ่าตัดช่องทางเดินหายใจ เช่น ตัดต่อมทอนซิล ผ่าตัดเพดานอ่อนผ่าตัดขากรรไกร (Maxillomandibular Advancement)รักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency)เลเซอร์ หรือร้อยไหมยกเพดานอ่อน สำหรับกรณีมีอาการนอนกรนที่ไม่ซับซ้อนอย่าปล่อยให้ “กรน” กลายเป็นคำบอกลาสุดท้ายเสียงกรนอาจไม่ใช่แค่เรื่องกวนใจของคนข้างเตียง แต่มันคือ “สัญญาณเตือน” โดยเฉพาะในคนที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น น้ำหนักเกิน มีคอหนา เป็นเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงการตรวจ Sleep Test คือกุญแจสำคัญ ในการวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และวางแผนรักษาได้อย่างแม่นยำบทความที่เกี่ยวข้อง สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย

Why choose VitalSleep and Wellness
ตรวจคุณภาพการนอนหลับได้จากที่บ้าน

ตรวจการหลับ Sleep Test ที่ VitalSleep and Wellness สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดิน ทาง มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปติดตั้ง ให้ถึงที่บ้าน อ่านผลการตรวจ โดยแพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine

ลดเสียงกรนด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ที่ VitalSleep and Wellness นําเสนอแนวทางการรักษานอนกรน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ออกแบบ เฉพาะบุคคล รักษาได้ทั้ง แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด และการรักษาครอบคลุมไปถึงการรักษาอาการนอน กัดฟัน และข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ค้นหา และรักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ

เน้นการตรวจเชิงลึกหลายแนวทาง เพื่อค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุการรักษาที่แท้จริง มุ่งเน้นรักษาและบําบัดสาเหตุของการกรนที่ต้นเหตุ คือ กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ด้วย Myofunctional Therapy

แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ผสมผสาน

นําเสนอการรักษาที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคล เน้นการรักษาแบบผสมผสาน การรักษาหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครอบคลุมทุกความแตกต่างของแต่ละบุคคล

ทพ. ดร. อมรพงษ์ วชิรมน

Medical Director
แพทย์เฉพาะทางรักษานอนกรน

VitalSleep and Wellness
ดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง และนักกายภาพบําบัดวิชาชีพ
  • Polysomnography - Sleep Test ตรวจการนอนหลับ
  • เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน
  • เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก รักษานอนกรน
  • รักษาอาการ นอนกัดฟัน
  • รักษาอาการ ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ขากรรไกรมีเสียงคลิก
  • บำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น
  • ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร รักษานอนกรน
…and much more!

Promotion Sleep Test

ตรวจคุณภาพการนอนหลับ

สะดวก ง่าย ทำได้จากที่บ้าน

แพทย์เฉพาะทางอ่านผล

พิเศษ 6,900 บาท

(ปกติ 10,000 บาท)