• อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
ก้าวแรกสู่การนอนที่ดี
การตรวจการนอนหลับ
ง่ายกว่าที่คิด

ก้าวแรกสู่การนอนที่ดี

การตรวจการนอนหลับ
ง่ายกว่าที่คิด
Table of Contents

การตรวจการนอนหลับ คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจคุณภาพการนอนของตัวเองได้ลึกขึ้น การนอนหลับที่มีคุณภาพส่งผลโดยตรงต่อร่างกายและสมอง ทั้งความสดชื่น ระบบภูมิคุ้มกัน และการลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและเบาหวาน

การตรวจการนอนหลับ ช่วยให้เห็นถึงปัญหาการนอนที่อาจซ่อนอยู่ เช่น กรน เสียงหายใจสะดุด หยุดหายใจขณะนอนหลับ หรือการตื่นกลางดึก ปัจจุบันการตรวจการนอนหลับสามารถตรวจได้ที่บ้านด้วยอุปกรณ์ที่แม่นยำ ผลที่ได้ทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรม หรือการเทคโนโลยีรักษาการนอนกรนที่ทันสมัย เพียงก้าวเล็ก ๆ นี้ ก็ช่วยให้คุณนอนหลับสบายขึ้น สุขภาพดี และมีพลังในทุก ๆ วัน

ทำไมการนอนหลับที่ดีถึงสำคัญ ?

การนอนหลับที่มีคุณภาพไม่ใช่แค่เรื่องการพักผ่อน แต่เป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพทั้งร่างกายและสมอง การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ปรับสมดุลฮอร์โมน และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ การนอนดีช่วยให้ สมองทำงานเต็มประสิทธิภาพ ลดความเครียดและเพิ่มสมาธิ

ด้านสุขภาพนอนเพียงพอ (7–9 ชม.)นอนน้อย (<6 ชม.)
สมอง ความคิดสมาธิดี ความจำดีสมาธิลดลง ความจำสั้นลง
ระบบหัวใจหลอดเลือดความดันปกติ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจความดันสูง เสี่ยงโรคหัวใจเพิ่มขึ้น
ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ต้านเชื้อโรคได้ดีภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้อง่าย
น้ำหนัก / เมตาบอลิซึมควบคุมน้ำหนักได้ดีน้ำหนักเพิ่มง่าย เสี่ยงเบาหวาน
อารมณ์ / ความเครียดอารมณ์ดี เครียดน้อยอารมณ์แปรปรวน เครียดสูง
ฟื้นฟูร่างกายร่างกายซ่อมแซมดีร่างกายฟื้นตัวช้า

การตรวจการนอนหลับคืออะไร ?

Sleep Test คือการตรวจคุณภาพการนอนหลับโดยวัดหลายปัจจัยพร้อมกัน เช่น คลื่นสมอง ระดับออกซิเจน การเต้นของหัวใจ การหายใจ การเคลื่อนไหวของดวงตาและร่างกาย เพื่อหาความผิดปกติของการนอน เช่น นอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงได้

ที่ VitalSleep Clinic มีบริการตรวจที่บ้าน เพื่อให้ได้ผลใกล้เคียงกับการนอนจริงมากที่สุด การตรวจนี้ถือเป็น มาตรฐานสูงสุด (Gold Standard) ในการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ

สัญญาณเตือนว่าคุณควรตรวจการนอนหลับ

  1. กรนเสียงดังหรือหยุดหายใจขณะหลับ
    การกรนเป็นเรื่องปกติสำหรับบางคน แต่ถ้าเสียงกรนดังมาก หรือมีช่วงหยุดหายใจสั้นๆ ระหว่างนอน นั่นอาจเป็นสัญญาณของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ซึ่งอาจทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง และเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
  2. ตื่นกลางดึกหลายครั้ง หรือตื่นมาไม่สดชื่น
    การตื่นบ่อยในตอนกลางคืนทำให้คุณภาพการนอนลดลง ร่างกายและสมองไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ แม้จะนอนครบชั่วโมงที่แนะนำ ก็อาจรู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนล้าในวันถัดไป
  3. ง่วงระหว่างวันบ่อย หรือสมาธิลดลง
    นี่คือสัญญาณว่าการนอนหลับไม่ต่อเนื่อง การง่วงนอนระหว่างวันอาจส่งผลต่อการทำงาน การเรียน หรือความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ยังบ่งบอกว่าร่างกายไม่ได้ฟื้นฟูเต็มที่ขณะหลับ
  4. ปวดหัวตอนเช้า หรือมีความดันโลหิตสูง
    ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ(OSA) ทำให้สมองและร่างกายขาดออกซิเจนชั่วคราว การตื่นมาพร้อมอาการปวดหัวหรือมีความดันโลหิตสูงอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณควรตรวจการนอนหลับ
  5. เหนื่อยง่ายแม้พักผ่อนเพียงพอ
    ถ้าคุณนอนครบ 7–8 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังรู้สึกอ่อนล้า นั่นอาจหมายถึงคุณภาพการนอนไม่ดี การตรวจการนอนหลับสามารถช่วยวิเคราะห์ว่าเกิดจากการหยุดหายใจ การกรน หรือปัจจัยอื่นที่ทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อนเต็มที่

สัญญาณเหล่านี้แม้ดูเล็กน้อย แต่หากเกิดขึ้นบ่อย อาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ซึ่งควรได้รับการตรวจเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว

การตรวจการนอนหลับ

การตรวจนอนหลับที่ VitalSleep Clinic สะดวกสบาย ตรวจง่ายที่บ้าน

ที่ VitalSleep Clinic เรามีบริการ Home Sleep Test ที่ช่วยให้คุณตรวจคุณภาพการนอนหลับได้ง่าย ๆ ผู้เชี่ยวชาญจะเตรียมอุปกรณ์และสอนการใช้งานให้ครบถ้วน จากนั้นคุณสามารถนอนหลับตามปกติที่บ้านของตัวเอง เพื่อให้ผลการตรวจสะท้อนพฤติกรรมการนอนจริงอย่างใกล้เคียงที่สุด

ตรวจการนอนหลับ ก้าวเล็กๆ ที่คุณทำได้วันนี้ที่ VitalSleep Clinic

การตรวจการนอนหลับไม่จำเป็นต้องยากหรือซับซ้อน เพียงเริ่มก้าวเล็ก ๆ ด้วยกาตรวจการนอนหลับที่ VitalSleep Clinic คุณจะได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้และการตรวจที่เหมาะกับสภาพร่างกายและไลฟ์สไตล์ของคุณ พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำแนะนำ ตั้งแต่การตรวจเบื้องต้น การติดตามผล ไปจนถึงแนวทางการรักษาและปรับพฤติกรรมการนอน

สรุป

การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการดูแลสุขภาพ เพราะช่วยค้นหาปัญหาที่ซ่อนอยู่จากสัญญาณเตือนเล็กๆ เช่น การนอนกรน ง่วงผิดปกติ หรือปวดหัวตอนเช้า ผลการตรวจจะบอกได้ว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) หรือปัญหาอื่นๆ ที่กระทบการนอนหรือไม่ การเลือกวิธีตรวจที่เหมาะสมและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้วางแผนการรักษาได้ตรงจุด เพียงก้าวเล็กๆ นี้ อาจเปลี่ยนคุณภาพการนอนและสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจการนอนหลับ (Faqs)

1. ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนตรวจ ?

ควรนอนหลับตามเวลาปกติ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ

2. ผลตรวจใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะทราบ ?

หลังตรวจประมาณ 1–2 สัปดาห์ แพทย์จะวิเคราะห์ผลและให้คำแนะนำการรักษา

3. การตรวจการนอนหลับเหมาะกับใคร ?

เหมาะกับทุกคนที่อยากปรับปรุงคุณภาพการนอน โดยเฉพาะผู้ที่กรน หยุดหายใจขณะหลับ หรือรู้สึกเหนื่อยง่ายแม้พักผ่อนเพียงพอ

4. ผลตรวจการนอนหลับสามารถฟังผลกับทาง VitalSleep อย่างไรได้บ้าง?

ผลตรวจการนอนหลับสามารถฟังผลได้ทั้งกับแพทย์ที่คลินิกหรือผ่าน Telemedicine ตามความสะดวก

Related Blogs and Articles
7 วิธีรักษานอนกรน

วิธีรักษานอนกรนที่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังมองหาวิธีที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ เพื่อจะได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพและตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นในทุก ๆ เช้า อาการนอนกรนที่เกิดขึ้น นอกจากจะเป็นปัญหากับคนที่อยู่รอบตัวคุณแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวของคุณเองอีกด้วย ลองมาดู 7 วิธี ที่สามารถช่วยลดอาการนอนกรนได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ ​ทั้ง 7 วิธีที่แนะนำจาก Sleep Foundation เป็นเพียงวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้น แต่หากคุณทำตามแล้วยังมีอาการนอนกรนอยู่ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจการนอนหลับ Sleep Test และรับการรักษาอย่างถูกวิธี​ สัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ควรสังเกต หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อทำการวินิจฉัยและได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เพราะภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นอันตรายที่อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว การรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่ VitalSleep Clinic เรามีวิธีการรักษาอาการนอนกรนโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้ผลดี 4 วิธี ได้แก่ เป็นนวัตกรรมการรักษาที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและทางเดินหายใจให้แข็งแรง เป็นวิธีที่แพทย์แนะนำเพราะช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้ เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้นในขณะที่นอนหลับ โดยจะช่วยดันขากรรไกรล่างไปข้างหน้าเล็กน้อย ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการลดอาการนอนกรน และที่ VitalSleep Clinic คุณมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์ เพราะผลิตจากห้องแล็บที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจาก American Board of Dental Sleep Medicine จะสำหรับคนที่มีอาการกรนจากการหย่อนของกล้ามเนื้อบริเวณโคนลิ้นหรือเยื่อบุจมูก ทำให้ลมหายใจไหลเวียนได้สะดวกขึ้น โดยการรักษานี้จะต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น เครื่องช่วยหายใจนี้ ป้องกันทางเดินหายใจไม่ให้ปิดกั้นในขณะนอนหลับ ทำให้คุณรับออกซิเจนได้อย่างเพียงพอ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่เดินทางบ่อยหรือไม่สะดวกในการพกพาเครื่อง CPAP แพทย์อาจแนะนำการใช้เครื่องมือทันตกรรมแทนเพื่อความสะดวกกับคนไข้ สรุป วิธีลดอาการนอนกรนและแนวทางรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่แนะนำโดยแพทย์เฉพาะทาง โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรม เช่น การลดน้ำหนัก, หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่, นอนหลับให้เพียงพอ, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และ เลี่ยงยาที่ทำให้กล้ามเนื้อลำคอหย่อนตัว หากอาการยังคงอยู่ ควรเข้ารับการตรวจและรักษาโดยแพทย์ เช่น การใช้เครื่องมือทันตกรรม (Oral Appliance), เครื่องช่วยหายใจ CPAP, การทำ Myofunctional Therapy หรือ การใช้คลื่นวิทยุ RF ซึ่งช่วยแก้ไขต้นเหตุของอาการ ที่ VitalSleep Clinic ยังมีเทคโนโลยีทันสมัยและแพทย์เฉพาะทางที่สามารถให้คำแนะนำและรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาว

Brain stimulation technology

โปรแกรม EXOMIND เทคโนโลยีกระตุ้นสมอง ที่ช่วยให้หลับง่าย หลับลึก หลับไว คุณเคยไหม?... ที่พยายามเข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม แต่ตาแข็งยันตีสอง? หรือแม้จะนอนได้แต่ตื่นมาก็ยังรู้สึกยังไม่สดชื่น เหมือนนอนไม่พอ EXOMIND อาจเป็นคำตอบใหม่สำหรับคนที่กำลังต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ ทำไม? การนอนหลับถึงสำคัญ หลับลึก (Deep Sleep) คืออะไร? Deep Sleep คือช่วงที่สมองของคุณพักผ่อนจริง ๆ เป็นช่วงที่ระบบซ่อมแซมร่างกายเริ่มทำงานเต็มที่ ฮอร์โมนเจริญเติบโตหลั่ง ระบบภูมิคุ้มกันรีเซ็ต และความจำระยะยาวเริ่มเก็บข้อมูล ถ้าคุณไม่มี Deep Sleep คุณจะเหนื่อยง่าย หลงลืม และรู้สึกไม่สดชื่นตลอดวัน ผลกระทบของการนอนไม่พอ ปัญหาการนอนที่คนไทยเจอกันบ่อย เรื่อง “การนอนหลับ” กลับมีคนไทยจำนวนไม่น้อย ที่กำลังเผชิญกับภาวะนอนไม่มีคุณภาพแบบไม่รู้ตัว ปัญหาการนอนหลับไม่ได้เป็นแค่เรื่องของ "ง่วงตอนกลางวัน" แต่ยังส่งผลลึกไปถึงสมอง หัวใจ อารมณ์ และประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตทุกด้าน โดยเฉพาะ 2 ปัญหาหลักที่พบบ่อย คือ นอนไม่หลับ และ หลับไม่ลึก นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก ถ้าคุณเข้านอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม หวังจะตื่นมาสดชื่นในวันพรุ่งนี้ แต่ดันนอนพลิกตัวไปมาเหมือนอยู่บนเตียง ตาแข็งจนถึงตีสอง บางคืนหลับได้ก็จริง แต่กลับตื่นขึ้นมาตอนตีสาม ตีสี่ แล้วนอนต่อไม่ได้อีกเลย อาการเหล่านี้เรียกว่า Insomnia หรือ ภาวะนอนไม่หลับ ในระยะสั้น การนอนไม่หลับอาจทำให้เราง่วง สมาธิสั้น อารมณ์แปรปรวน แต่ถ้านานวันเข้าจะเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ หลับไม่ลึก รู้สึกไม่สดชื่น บางคนหลับง่ายมาก ๆ แต่ตื่นเช้ามาแล้วกลับรู้สึก “เหนื่อยกว่าเดิม” เหมือนไม่ได้นอนเลย นั่นคือสัญญาณของภาวะหลับไม่ลึก (Poor Deep Sleep) ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่คนไทยมักมองข้าม การหลับไม่ลึกคือการที่ร่างกายไม่ได้เข้าสู่ช่วง Deep Sleep ที่เป็นช่วงที่สมองหลั่งโกรทฮอร์โมน ฟื้นฟูร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ และเคลียร์สารพิษที่สะสมในสมอง EXOMIND คืออะไร? โปรแกรม EXOMIND คือเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็ก (BTL Neurostimulation) โดยใช้หลักการของการกระตุ้นสมองผ่านสนามแม่เหล็กความเข้มต่ำ เพื่อปรับวงจรการนอนให้สมดุลมากขึ้น เทคโนโลยี BTL คือการใช้คลื่นแม่เหล็กระดับต่ำ (Low-Intensity Pulsed Electromagnetic Field หรือ PEMF) ที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระตุ้นสมองส่วน Prefrontal Cortex ที่เกี่ยวข้องกับการนอน การผ่อนคลาย และการฟื้นฟูจิตใจ โปรแกรม EXOMIND ช่วยการนอนหลับได้อย่างไร? กระตุ้นสมองส่วนลึกเพื่อปรับวงจรการนอน EXOMIND ช่วยให้สมองปรับคลื่นให้เข้าสู่โหมดพักผ่อนโดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องฝืน ไม่ต้องกดดันตัวเองให้นอน ช่วยให้เข้าสู่ Deep Sleep ได้ไวขึ้น คนที่เข้ารับการทำ EXOMIND อย่างต่อเนื่องจะพบว่าใช้เวลาน้อยลงในการเข้าสู่ระยะหลับลึก และตื่นมาพร้อมความรู้สึกสดชื่นมากขึ้น ใครบ้าง? ควรลองโปรแกรม EXOMIND คนที่มีปัญหาการนอนที่เรื้อรัง หรือเคยลองมาหลายวิธีแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้น หากกำลังสงสัยว่า "เราเหมาะกับโปรแกรมนี้ไหม?" มาดูประเภทของคนที่ควรลอง EXOMIND กัน สรุป ไม่ว่าจะเป็น "นอนไม่หลับ" หรือลงนอนแล้ว "หลับไม่ลึก" ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้จบที่ความง่วงตอนเช้า แต่มันสะท้อนถึงสมดุลภายในสมอง ระบบประสาท และสุขภาพโดยรวม ซึ่งการหาแนวทางช่วยฟื้นฟูการนอนตั้งแต่รากฐาน เช่น การใช้โปรแกรม EXOMIND จึงกลายเป็นทางเลือกที่คนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น FAQs คำถามที่พบบ่อย

อุปกรณ์รักษานอนกรน

พามาเจาะลึกอุปกรณ์รักษานอนกรน จาก VitalSleep Clinic ว่ามีอะไรบ้าง ใช้อย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง เพื่อให้คุณกลับมามีการนอนที่เงียบสงบ

โรคแทรกซ้อนจากการนอนกรน

การนอนกรนสามารถเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดร่วมกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA)

Snoring increases the risk of cancer

หลายคนอาจคิดว่า “การนอนกรน” เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย แต่รู้หรือไม่ว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ซึ่งมักพบร่วมกับการกรน อาจมีความเชื่อมโยงกับ “โรคมะเร็ง”https://www.youtube.com/shorts/Qil5hs1gy5A ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ คืออะไร? ข้อมูลจากสถาบันโรคหัวใจ ปอด และโลหิตวิทยาแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NHLBI) ระบุว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นภาวะที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ จะมีช่วงที่หยุดหายใจและกลับมาหายใจซ้ำ ๆ ขณะนอนหลับ ทำให้หลับไม่สนิท นอนหลับไม่เต็มที่และรบกวนคุณภาพชีวิตในระยะยาว​สาเหตุหลัก มาจากกล้ามเนื้อบริเวณลำคอที่หย่อนตัวผิดปกติ ทำให้ทางเดินหายใจอุดกั้น หากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่โรคร้ายต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง และที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ความเชื่อมโยงระหว่างการนอนกรนกับโรคมะเร็ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Athanasia Pataka จาก Aristotle University of Thessaloniki ประเทศกรีซ ได้เปิดเผยว่า ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือมีอาการกรนอย่างรุนแรง จะมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำระหว่างนอนหลับ ภาวะนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิด งานวิจัยที่ชี้ชัด มีการศึกษาจาก Medical News Today ในกลุ่มตัวอย่างกว่า 19,000 คน (ชาย 13,767 คน หญิง 5,789 คน) พบว่า​ผู้ที่มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 90% ซ้ำ ๆ ในแต่ละคืน มีความเสี่ยงต่อมะเร็งมากขึ้นในกลุ่มนี้ มีผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งจำนวน 388 คน (ราว 2%)มะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงคือ มะเร็งเต้านม ส่วนผู้ชายคือ มะเร็งต่อมลูกหมากที่น่าสนใจคือ การหยุดหายใจขณะหลับมีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง ชัดเจนในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในคนที่มีอาการรุนแรง และมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำในช่วงกลางคืนนักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ปัจจัยทางชีววิทยาระหว่างเพศชายและหญิง เช่น ฮอร์โมน อาจเป็นตัวเร่งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง รวมถึงอิทธิพลของออกซิเจนต่ำในเลือด ซึ่งอาจกระตุ้นกระบวนการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย วิธีรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การรักษาจะเริ่มจาก การตรวจ Sleep Test เพื่อประเมินความรุนแรง จากนั้นแพทย์เฉพาะทางจะวางแผนการรักษา มีทั้งแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัด| บทความที่เกี่ยวข้อง อาการเสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อันตรายแค่ไหน?​ สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย การรักษาแบบไม่ผ่าตัด ยางครอบฟันช่วยเปิดทางเดินหายใจ (Oral Appliance)การทำบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ (Myofunctional Therapy)คลื่นความถี่วิทยุ RF จี้โคนลิ้นและเยื่อบุจมูกการใช้ CPAP การรักษาแบบผ่าตัด การผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร (Maxillomandibular Advancement)การผ่าตัดตกแต่งเพดานอ่อนและลิ้นไก่ ทำไมต้องรักษาที่ VitalSleep Clinic? แพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญมีทีมแพทย์ที่ผ่านการอบรมจากสถาบันระดับโลก พร้อมใบรับรองด้านการรักษาความผิดปกติของกล้ามเนื้อช่องปาก ใบหน้าและทางเดินหายใจเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยครอบคลุมทั้งแนวทางแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัด รวมถึง Myosa® สำหรับผู้มีปัญหานอนกัดฟันหรือข้อต่อขากรรไกรใส่ใจ ดูแลรักษาได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาวะนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ หรือปัญหาข้อต่อขากรรไกร พร้อมดูแลอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง สรุป ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงมะเร็ง โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำขณะหลับ จึงควรตรวจ Sleep Test เพื่อประเมินอาการและเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัดที่ VitalSleep Clinic พร้อมดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ ฟรี!

หยุดหายใจขณะหลับ ระวัง

อาการที่ร่างกายหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ระหว่างการนอนหลับ โดยไม่รู้ตัว ปัญหานี้เกิดจากทางเดินหายใจส่วนบนถูกปิดกั้น

เสียงกรนไม่ใช่แค่เรื่องของผู้ชาย

ผู้หญิงก็มีแนวโน้มที่จะนอนกรนได้ไม่แพ้ผู้ชาย! แม้เสียงกรนอาจเบากว่า หรือพบได้น้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยจากภาวะนี้

เด็กเล็ก นอนกรน

เด็กเล็ก นอนกรน เป็นประจำ อาจไม่ใช่เรื่องปกติอย่างที่คิด เพราะอาการนอนกรนอาจเป็นสัญญาณของปัญหาการหายใจที่ส่งผลต่อหัวใจและสุขภาพโดยรวม

Why choose VitalSleep and Wellness
ตรวจคุณภาพการนอนหลับได้จากที่บ้าน

ตรวจการหลับ Sleep Test ที่ VitalSleep and Wellness สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดิน ทาง มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปติดตั้ง ให้ถึงที่บ้าน อ่านผลการตรวจ โดยแพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine

ลดเสียงกรนด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ที่ VitalSleep and Wellness นําเสนอแนวทางการรักษานอนกรน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ออกแบบ เฉพาะบุคคล รักษาได้ทั้ง แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด และการรักษาครอบคลุมไปถึงการรักษาอาการนอน กัดฟัน และข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ค้นหา และรักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ

เน้นการตรวจเชิงลึกหลายแนวทาง เพื่อค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุการรักษาที่แท้จริง มุ่งเน้นรักษาและบําบัดสาเหตุของการกรนที่ต้นเหตุ คือ กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ด้วย Myofunctional Therapy

แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ผสมผสาน

นําเสนอการรักษาที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคล เน้นการรักษาแบบผสมผสาน การรักษาหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครอบคลุมทุกความแตกต่างของแต่ละบุคคล

ทพ. ดร. อมรพงษ์ วชิรมน

Medical Director
แพทย์เฉพาะทางรักษานอนกรน

VitalSleep and Wellness
ดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง และนักกายภาพบําบัดวิชาชีพ
  • Polysomnography - Sleep Test ตรวจการนอนหลับ
  • เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน
  • เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก รักษานอนกรน
  • รักษาอาการ นอนกัดฟัน
  • รักษาอาการ ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ขากรรไกรมีเสียงคลิก
  • บำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น
  • ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร รักษานอนกรน
…and much more!