• อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
ใส่เฝือกฟัน แก้นอนกรน
ทางเลือกที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ

ใส่เฝือกฟัน แก้นอนกรน

ทางเลือกที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ
Table of Contents

หากใครจะคิดว่าแค่การกรนระหว่างนอนหลับจะกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าที่คิด? หลายคนอาจจะมองว่าเสียงกรนเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่จริง ๆ แล้วมันสะท้อนถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ เราจะพูดกันถึงวิธีการแก้ไขด้วย “เฝือกฟันแก้นอนกรน” ซึ่งไม่ใช่แค่ช่วยลดเสียงกรน แต่ยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นได้ด้วย

อาการนอนกรน ปัญหาสุขภาพที่หลายคนมองข้าม

เสียงนอนกรนไม่เพียงสร้างความรำคาญให้กับคนใกล้ตัว แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น

  1. อาการหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) เกิดจากทางเดินหายใจที่แคบลงจนเกิดการอุดกั้นชั่วคราว ทำให้คุณตื่นบ่อยในตอนกลางดึก
  2. คุณภาพการนอนหลับลดลง อาการกรนทำให้นอนหลับไม่ลึก ตื่นมาแล้วรู้สึกเพลีย ง่วงระหว่างวัน
  3. ผลกระทบต่อจิตใจ การพักผ่อนไม่เพียงพออาจนำไปสู่ความเครียดและภาวะซึมเศร้า

สาเหตุหลักของอาการนอนกรน

เสียงกรนมาจากอะไร? ส่วนใหญ่เกิดจากการสั่นของเนื้อเยื่อในทางเดินหายใจที่แคบลง ซึ่งมีปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิด เช่น

  • อายุที่เพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณลำคอเริ่มหย่อนคล้อย
  • โรคอ้วนหรือไขมันส่วนเกิน มากดทับทางเดินหายใจ
  • ลักษณะโครงสร้างร่างกาย เช่น เพดานปากหนา ลิ้นไก่ยาว

การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการค้นหาสาเหตุและวางแผนการรักษา

วิธีการทำงานของเฝือกฟันสำหรับแก้อาการนอนกรน

เฝือกฟันที่ใช้ในการรักษาอาการนอนกรน ทำงานด้วยการปรับตำแหน่งของขากรรไกรและฟัน ให้เหมาะสมระหว่างการนอนหลับ จะช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้น ลดการอุดกั้นที่เกิดจากเนื้อเยื่อในลำคอที่สั่นเมื่อหายใจ ลดอาการนอนกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีวิธีการทำงานดังนี้:

  1. การยืดขากรรไกร

การใส่เฝือกฟันจะช่วยดันขากรรไกรล่างให้ไปข้างหน้าหรือขึ้นด้านบนเล็กน้อยในขณะที่สวมใส่ ทำให้ทางเดินหายใจส่วนบนเปิดกว้างขึ้น ลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอและทางเดินหายใจในตอนกลางคืน ป้องกันการเกิดการอุดกั้นที่เป็นสาเหตุสำคัญของอาการกรน

  1. การลดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อในลำคอ

การปรับขากรรไกรให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องจะช่วยให้อากาศผ่านช่องทางเดินหายใจเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่สะดุด ซึ่งการที่เนื้อเยื่อในลำคอไม่สั่นสะเทือนจะช่วยลดเสียงกรนที่เกิดขึ้นได้

  1. ช่วยลดอาการหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)

นอกจากจะช่วยลดเสียงกรนได้แล้ว การใส่เฝือกฟันยังสามารถช่วยบรรเทาอาการหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ในระดับน้อยจนถึงปานกลางได้ โดยการทำให้ช่องทางเดินหายใจไม่ถูกอุดกั้น จึงช่วยลดการขาดออกซิเจนในระหว่างการนอนหลับ

  1. เสริมสร้างการหายใจที่ดีขึ้น

การปรับขากรรไกรและฟันจะช่วยให้การหายใจในระหว่างการนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น การที่ทางเดินหายใจเปิดกว้างและไม่มีการอุดกั้น ให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ทำให้การนอนหลับยาวนานขึ้นและมีคุณภาพที่ดีขึ้น

  1. ความสะดวกในการใช้งาน

เฝือกฟันถูกออกแบบให้มีขนาดพอดีกับปากของแต่ละคน ใส่และถอดได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อใช้งาน สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ต้องการลดอาการกรนโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่หรือวิธีการที่มีความซับซ้อน

ประเภทของเฝือกฟันที่ใช้ในการรักษานอนกรน

เฝือกฟันมีให้เลือกที่เหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. เฝือกฟันสำเร็จรูป (Stock Oral Appliance)
    • ราคาไม่แพง
    • ใช้ได้ทันที แต่อาจจะไม่ได้พอดีกับปาก 100%
  2. เฝือกฟันเฉพาะบุคคล (Custom-made Oral Appliance)
    • ทำขึ้นจากแบบพิมพ์ฟันของแต่ละคน
    • สวมใส่สบายและมีประสิทธิภาพสูงกว่า
    • เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว
ใส่เฝือกฟัน แก้นอนกรน ทางเลือกที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ

ข้อดีของการใส่เฝือกฟันแก้นอนกรน

ทำไม? เฝือกฟันถึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการแก้อาการนอนกรน

  1. สะดวกต่อการพกพา เฝือกฟันมีขนาดเล็ก ใช้งานง่ายกว่าการพกเครื่อง CPAP
  2. ไม่มีเสียงรบกวน ต่างจากเครื่องช่วยหายใจ CPAP ที่มีเสียงขณะใช้งาน
  3. ราคาเข้าถึงได้ แม้เฝือกฟันเฉพาะบุคคลจะมีราคาสูงกว่า แต่ก็ยังคุ้มค่าในระยะยาว

ใครบ้าง? ที่ควรใช้เฝือกฟันสำหรับแก้อาการนอนกรน

ใครเหมาะสำหรับใส่เฝือกฟัน

  • คนที่มีอาการกรนระดับน้อยถึงปานกลาง
  • คนที่ไม่สะดวกใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP
  • คนที่มีปัญหาการนอนกัดฟัน (Bruxism) ร่วมด้วย

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าเฝือกฟันเหมาะกับตัวเองไหม ลองเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ VitalSleep Clinic

ขั้นตอนการปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อใส่เฝือกฟัน

การปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้เฝือกฟันเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่จะช่วยให้การรักษาอาการนอนกรนได้ผลดีและปลอดภัย ช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุด ขั้นตอนการปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อใส่เฝือกฟัน มีดังนี้

1. การประเมินอาการและประวัติการนอนหลับ

ขั้นตอนแรกในการปรึกษา คือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการนอนกรนและประวัติการนอนหลับของคุณ เช่น ความถี่และความรุนแรงของอาการกรน, การตื่นกลางดึก, ความรู้สึกอ่อนเพลียในตอนเช้า, และหากมีอาการหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) หรือไม่

แพทย์จะสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคประจำตัว หรือการใช้ยาต่าง ๆ ที่อาจมีผลต่อการนอนหลับ เพื่อประเมินได้ว่าเฝือกฟันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณหรือไม่

2. การตรวจสอบการนอนหลับ (Sleep Test)

หากแพทย์เห็นว่าคุณอาจมีอาการหยุดหายใจขณะหลับหรืออาการกรนมีความรุนแรง อาจแนะนำให้ทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ก่อน โดยการตรวจนี้จะช่วยให้ทราบว่าอาการกรนของคุณเกิดจากสาเหตุอะไรและมีผลกระทบต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) สามารถทำได้ที่บ้าน จะช่วยให้การวางแผนการรักษามีความแม่นยำยิ่งขึ้น

3. การเลือกและออกแบบเฝือกฟันที่เหมาะสม

เมื่อได้รับข้อมูลทั้งหมดแล้ว แพทย์จะช่วยคุณเลือกเฝือกฟัน ที่เหมาะสมกับปัญหาการนอนกรนและช่องปากของคุณ เฝือกฟันที่ใช้จะมีการออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล เช่น การยืดขากรรไกร หรือการเปิดทางเดินหายใจที่ถูกต้อง

4. การปรับตัวและการติดตามผล

หลังจากการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการเลือกเฝือกฟันที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการติดตั้งเฝือกฟันในช่องปากของคุณ แพทย์จะทำการปรับแต่งใส่เฝือกฟันให้พอดีกับขากรรไกรและฟันของคุณเพื่อให้มีการปรับตำแหน่งที่ถูกต้องและจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการใส่เฝือกฟันในช่วงแรก เช่น วิธีการใช้และวิธีการดูแลรักษา ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะติดตามผลลัพธ์ในการใส่เฝือกฟัน เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาได้ผลตามแผนการรักษา

5. การติดตามผลหลังการรักษา

หลังจากที่เริ่มใส่เฝือกฟัน ก็จะนัดหมายให้เข้ามาตรวจและติดตามผลการรักษา บางครั้งอาจมีการปรับเฝือกฟันเพื่อให้มีประสิทธิภาพขึ้น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการนอนหลับหรือรู้สึกไม่สบายในขณะใส่เฝือกฟัน ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยปรับแต่งหรือตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทำงานได้ตามที่ควร

วิธีการเลือกใส่เฝือกฟันที่เหมาะสม

สิ่งที่ควรคำนึงถึงการเลือกใส่เฝือกฟัน คือ

  • เลือกวัสดุคุณภาพสูง เพื่อความปลอดภัยและความทนทานกับการใช้งาน
  • ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้ได้เฝือกฟันที่เหมาะสมมากที่สุด
  • รับบริการจากสถานที่เชื่อถือได้ เช่น VitalSleep Clinic ที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการวางแผนการรักษา

การปรับตัวเมื่อเริ่มใส่เฝือกฟัน

ช่วงแรกที่ใส่เฝือกฟัน อาจมีความรู้สึกไม่ชิน เช่น มีน้ำลายเยอะหรือปวดเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลเพราะเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไป

เคล็ดลับ

  • ใส่เฝือกฟันวันละ 1-2 ชั่วโมงในช่วงแรก
  • ทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด

การดูแลรักษาเฝือกฟันเพื่อความยั่งยืน

การดูแลเฝือกฟันอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

  • ล้างด้วยน้ำอุ่นหลังใช้ทุกครั้ง เพื่อขจัดเศษอาหารหรือคราบพลัคที่อาจติดอยู่
  • หลีกเลี่ยงน้ำร้อนและสารเคมีรุนแรง
  • เก็บในกล่องที่สะอาดเพื่อป้องกันแบคทีเรีย

การเปรียบเทียบเฝือกฟันกับวิธีการรักษาอื่น

การรักษา ข้อดี ข้อเสีย
เฝือกฟัน พกพาสะดวก ราคาย่อมเยา ไม่เหมาะกับอาการนอนกรนรุนแรง
เครื่องช่วยหายใจ CPAP ประสิทธิภาพสูงสำหรับกรนรุนแรง ขนาดใหญ่ มีเสียงรบกวน
การผ่าตัด แก้ปัญหาได้ถาวร มีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายสูง

ผลการวิจัยที่สนับสนุนการใช้เฝือกฟันแก้นอนกรน

งานวิจัยชิ้นยืนยันว่า เฝือกฟันมีประสิทธิภาพในการช่วยลดอาการกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับในผู้ที่มีอาการระดับน้อยถึงปานกลาง เช่น

  • งานวิจัยในปี 2022 จาก American Academy of Dental Sleep Medicine พบว่าผู้ใช้อุปกรณ์เฝือกฟันกว่า 85% มีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้นภายใน 1 เดือนแรก
  • การศึกษาในประเทศญี่ปุ่นปี 2021 ชี้ว่าเฝือกฟันช่วยลดความดันโลหิตในผู้ที่มีปัญหาหยุดหายใจขณะหลับ เนื่องจากช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ

ผลการวิจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การใส่เฝือกฟันไม่เพียงแต่ช่วยลดเสียงกรนเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม เช่น การลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

สรุป

การแก้ปัญหาอาการนอนกรนในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีให้เลือก ตั้งแต่การใช้ ฟัน ยาง กัดฟัน ราคาประหยัด เป็นทางเลือกการใช้งานที่สะดวก ไปจนถึงการใช้เครื่องช่วยหายใจนอนกรน ราคาสูงที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารุนแรง เครื่องช่วยหายใจ แก้กรน ราคาสูงที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดอาการอุดกั้นทางเดินหายใจโดยเฉพาะ ทั้งนี้ การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมควรพิจารณาจากความรุนแรงของอาการและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว

หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาอาการกรนที่สะดวก ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพ “เฝือกฟัน” คือคำตอบที่เหมาะสมที่สุด นอกจากจะช่วยลดเสียงกรนแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเริ่มต้นปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ VitalSleep Clinic จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง พร้อมอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับคุณ เพราะสุขภาพการนอนที่ดีเริ่มต้นได้ง่าย ๆ แค่การดูแลที่ใส่ใจ

 

Related Blogs and Articles
เครื่องช่วยหายใจนอนกรน เเก้ไขอาการกรน คืออะไร

หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินถึงวิธีการรักษาอาการนอนกรนที่มีหลากหลายรูปแบบ ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงเครื่องช่วยหายใจสำหรับคนนอนกรน

3 วิธีแก้ปัญหานอนกรนแบบไม่ต้องผ่าตัด

หากจะพูดถึงของขวัญที่ดีที่สุด คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่า “สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง” โดยเฉพาะคุณภาพการนอนหลับที่ดี

Brain stimulation technology

โปรแกรม EXOMIND เทคโนโลยีกระตุ้นสมอง ที่ช่วยให้หลับง่าย หลับลึก หลับไว คุณเคยไหม?... ที่พยายามเข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม แต่ตาแข็งยันตีสอง? หรือแม้จะนอนได้แต่ตื่นมาก็ยังรู้สึกยังไม่สดชื่น เหมือนนอนไม่พอ EXOMIND อาจเป็นคำตอบใหม่สำหรับคนที่กำลังต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ ทำไม? การนอนหลับถึงสำคัญ หลับลึก (Deep Sleep) คืออะไร? Deep Sleep คือช่วงที่สมองของคุณพักผ่อนจริง ๆ เป็นช่วงที่ระบบซ่อมแซมร่างกายเริ่มทำงานเต็มที่ ฮอร์โมนเจริญเติบโตหลั่ง ระบบภูมิคุ้มกันรีเซ็ต และความจำระยะยาวเริ่มเก็บข้อมูล ถ้าคุณไม่มี Deep Sleep คุณจะเหนื่อยง่าย หลงลืม และรู้สึกไม่สดชื่นตลอดวัน ผลกระทบของการนอนไม่พอ ปัญหาการนอนที่คนไทยเจอกันบ่อย เรื่อง “การนอนหลับ” กลับมีคนไทยจำนวนไม่น้อย ที่กำลังเผชิญกับภาวะนอนไม่มีคุณภาพแบบไม่รู้ตัว ปัญหาการนอนหลับไม่ได้เป็นแค่เรื่องของ "ง่วงตอนกลางวัน" แต่ยังส่งผลลึกไปถึงสมอง หัวใจ อารมณ์ และประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตทุกด้าน โดยเฉพาะ 2 ปัญหาหลักที่พบบ่อย คือ นอนไม่หลับ และ หลับไม่ลึก นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก ถ้าคุณเข้านอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม หวังจะตื่นมาสดชื่นในวันพรุ่งนี้ แต่ดันนอนพลิกตัวไปมาเหมือนอยู่บนเตียง ตาแข็งจนถึงตีสอง บางคืนหลับได้ก็จริง แต่กลับตื่นขึ้นมาตอนตีสาม ตีสี่ แล้วนอนต่อไม่ได้อีกเลย อาการเหล่านี้เรียกว่า Insomnia หรือ ภาวะนอนไม่หลับ ในระยะสั้น การนอนไม่หลับอาจทำให้เราง่วง สมาธิสั้น อารมณ์แปรปรวน แต่ถ้านานวันเข้าจะเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ หลับไม่ลึก รู้สึกไม่สดชื่น บางคนหลับง่ายมาก ๆ แต่ตื่นเช้ามาแล้วกลับรู้สึก “เหนื่อยกว่าเดิม” เหมือนไม่ได้นอนเลย นั่นคือสัญญาณของภาวะหลับไม่ลึก (Poor Deep Sleep) ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่คนไทยมักมองข้าม การหลับไม่ลึกคือการที่ร่างกายไม่ได้เข้าสู่ช่วง Deep Sleep ที่เป็นช่วงที่สมองหลั่งโกรทฮอร์โมน ฟื้นฟูร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ และเคลียร์สารพิษที่สะสมในสมอง EXOMIND คืออะไร? โปรแกรม EXOMIND คือเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็ก (BTL Neurostimulation) โดยใช้หลักการของการกระตุ้นสมองผ่านสนามแม่เหล็กความเข้มต่ำ เพื่อปรับวงจรการนอนให้สมดุลมากขึ้น เทคโนโลยี BTL คือการใช้คลื่นแม่เหล็กระดับต่ำ (Low-Intensity Pulsed Electromagnetic Field หรือ PEMF) ที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระตุ้นสมองส่วน Prefrontal Cortex ที่เกี่ยวข้องกับการนอน การผ่อนคลาย และการฟื้นฟูจิตใจ โปรแกรม EXOMIND ช่วยการนอนหลับได้อย่างไร? กระตุ้นสมองส่วนลึกเพื่อปรับวงจรการนอน EXOMIND ช่วยให้สมองปรับคลื่นให้เข้าสู่โหมดพักผ่อนโดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องฝืน ไม่ต้องกดดันตัวเองให้นอน ช่วยให้เข้าสู่ Deep Sleep ได้ไวขึ้น คนที่เข้ารับการทำ EXOMIND อย่างต่อเนื่องจะพบว่าใช้เวลาน้อยลงในการเข้าสู่ระยะหลับลึก และตื่นมาพร้อมความรู้สึกสดชื่นมากขึ้น ใครบ้าง? ควรลองโปรแกรม EXOMIND คนที่มีปัญหาการนอนที่เรื้อรัง หรือเคยลองมาหลายวิธีแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้น หากกำลังสงสัยว่า "เราเหมาะกับโปรแกรมนี้ไหม?" มาดูประเภทของคนที่ควรลอง EXOMIND กัน สรุป ไม่ว่าจะเป็น "นอนไม่หลับ" หรือลงนอนแล้ว "หลับไม่ลึก" ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้จบที่ความง่วงตอนเช้า แต่มันสะท้อนถึงสมดุลภายในสมอง ระบบประสาท และสุขภาพโดยรวม ซึ่งการหาแนวทางช่วยฟื้นฟูการนอนตั้งแต่รากฐาน เช่น การใช้โปรแกรม EXOMIND จึงกลายเป็นทางเลือกที่คนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น FAQs คำถามที่พบบ่อย

นอนกรนเรื้อรัง_นอนกรนเรื้อรัง รักษายังไงก็ไม่หาย ต้องลองวิธีนี้!

นอนกรนรักษามาตั้งหลายวิธีก็ไม่เห็นผล สุดท้ายก็ยังนอนกรนเสียงดังอยู่ดี ต้องรักษาด้วยวิธีไหนจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น มาหาคำตอบวิธีการรักษา

เครื่อง BiPAP คืออะไร BiPAP กับ CPAP ต่างกันยังไง

BiPAP และ CPAP เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้การหายใจขัดข้องในช่วงนอนหลับ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาการหายใจอุดกั้น ทั้ง BiPAP และ CPAP เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหานี้ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าทั้งสองเครื่องนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของเครื่อง BiPAP และ CPAP รวมถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละเครื่อง เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกใช้เครื่องที่เหมาะสมกับตัวเอง ข้อควรรู้ก่อนใช้เครื่อง CPAP CPAP คืออะไร? CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) คือเครื่องช่วยหายใจที่ใช้สำหรับการบำบัดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หลักการของ CPAP คือการสร้างแรงดันอากาศที่คงที่และส่งผ่านท่อเข้าสู่หน้ากากซึ่งครอบไปที่ปากและจมูกของผู้ใช้ แรงดันนี้จะช่วยเปิดทางเดินหายใจและป้องกันไม่ให้เกิดการอุดกั้นระหว่างการนอนหลับ ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจ CPAP จึงเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในผู้ป่วยที่มีปัญหาการหายใจขณะหลับ หลักการทำงานของ CPAP CPAP ทำงานโดยการสร้างแรงดันอากาศที่คงที่ ส่งผ่านท่ออากาศเข้าสู่หน้ากากที่ครอบปากและจมูก ความดันที่เกิดขึ้นจะช่วยเปิดทางเดินหายใจที่อาจถูกบีบอัดหรืออุดตันในช่วงเวลาที่นอนหลับ แรงดันอากาศนี้จะถูกควบคุมให้คงที่ตลอดคืน ไม่ว่าคนไข้จะหายใจเข้าออกในจังหวะใดก็ตาม สิ่งนี้ทำให้การไหลเวียนของอากาศในระบบทางเดินหายใจเป็นปกติ ช่วยลดความเสี่ยงของการหยุดหายใจขณะหลับอย่างมีประสิทธิภาพ ใครบ้าง? ที่ควรใช้ CPAP CPAP เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ซึ่งเกิดจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบนในช่วงเวลาที่หลับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับทารกที่มีปัญหาปอดพัฒนาไม่สมบูรณ์หรือผู้ที่มีภาวะการหายใจไม่เพียงพอระหว่างหลับ CPAP ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ ทำให้คนไข้รู้สึกสดชื่นและมีพลังงานในช่วงกลางวัน รับคำปรึกษา ฟรี! ขนาดและการพกพาของเครื่อง CPAP เครื่อง CPAP มีหลายขนาดให้เลือก สามารถเลือกตามความเหมาะสมของการใช้งานแต่ละคนได้เลย หากคุณใช้ที่บ้าน ขนาดของเครื่อง CPAP ที่ใหญ่กว่าอาจไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องเดินทางบ่อย การเลือกเครื่อง CPAP ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก ข้อควรรู้ก่อนใช้เครื่อง BiPAP BiPAP คืออะไร? BiPAP (Bilevel Positive Airway Pressure) เป็นเครื่องช่วยหายใจที่มีหลักการทำงานคล้ายกับ CPAP แต่มีความแตกต่างสำคัญในเรื่องของการปรับแรงดันอากาศระหว่างการหายใจเข้าและหายใจออก BiPAP ถูกออกแบบมาให้สามารถสร้างแรงดันอากาศที่แตกต่างกันในจังหวะหายใจเข้าและหายใจออก ในขณะที่เครื่อง CPAP ให้แรงดันคงที่ตลอดเวลา การทำงานนี้ทำให้ BiPAP เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการแรงดันอากาศที่แตกต่างกันระหว่างหายใจเข้าและออก หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบการหายใจซับซ้อน เช่น ผู้ป่วยโรคปอดและโรคทางระบบประสาท หลักการทำงานของ BiPAP เครื่อง BiPAP จะทำงานโดยการส่งแรงดันอากาศ 2 ระดับระดับหนึ่งสำหรับการหายใจเข้า (IPAP: Inspiratory Positive Airway Pressure)ระดับสำหรับการหายใจออก (EPAP: Expiratory Positive Airway Pressure)ความแตกต่างของแรงดันนี้ช่วยให้คนไข้ที่มีปัญหาหายใจเข้าและออกได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อบกพร่อง ทำให้การหายใจกลับมาเป็นปกติ ใครควรใช้ BiPAP? BiPAP เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการหายใจที่ซับซ้อน เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อที่ทำให้การหายใจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่มีปัญหาการหายใจแบบซับซ้อนที่ CPAP ไม่สามารถช่วยได้ BiPAP เป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยให้การหายใจกลับมาสู่ภาวะปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขนาดและการใช้งานของเครื่อง BiPAP เครื่อง BiPAP มักจะมีขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกับเครื่อง CPAP แต่การออกแบบส่วนใหญ่จะเน้นที่การทำงานเงียบและให้ความสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ หลายรุ่นของ BiPAP ยังมีตัวเพิ่มความชื้นในอากาศที่ส่งผ่านท่อหายใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เยื่อเมือกในจมูกแห้ง ทำให้การใช้งานรู้สึกสบายขึ้น ความแตกต่างระหว่าง BiPAP และ CPAP ในขณะที่ CPAP ใช้แรงดันอากาศคงที่ในการช่วยรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ BiPAP มีความสามารถในการปรับแรงดันอากาศสองระดับสำหรับการหายใจเข้าและออก ความแตกต่างนี้ทำให้ BiPAP เหมาะกับคนไข้ที่มีภาวะการหายใจที่ซับซ้อนหรือมีโรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น โรคปอดหรือปัญหาทางระบบประสาทนอกจากนี้ เครื่อง BiPAP ยังมีการทำงานที่ซับซ้อนกว่าซึ่งส่งผลให้ ราคาของ BiPAP มักจะสูงกว่า CPAP อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีปัญหาการหายใจรุนแรง ที่ไม่สามารถปรับตัวกับการใช้ CPAP ได้ BiPAP จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากช่วยให้หายใจได้สะดวกและเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหายใจออกที่ BiPAP จะใช้แรงดันที่น้อยกว่าในช่วงหายใจเข้า สรุป CPAP และ BiPAP ต่างก็เป็นเครื่องช่วยหายใจที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) ทั้งสองมีหลักการทำงานที่คล้ายกัน แต่มีข้อแตกต่างหลักในเรื่องของแรงดันอากาศที่ใช้ระหว่างการหายใจเข้าและออก CPAP ให้แรงดันคงที่ตลอดเวลา ในขณะที่ BiPAP สามารถปรับแรงดันอากาศตามความต้องการของผู้ป่วยได้BiPAP เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการหายใจที่ซับซ้อน หรือมีภาวะทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ส่วน CPAP เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับทั่วไป การเลือกใช้เครื่องใดเครื่องหนึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้การรักษาที่ตรงกับความต้องการของผู้ป่วย การเลือกเครื่องที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้นและลดความเสี่ยงที่เกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สะดุ้งตื่นกลางดึกบ่อย อย่านิ่งนอนใจ

การนอนสะดุ้งตื่นกลางดึกแม้จะเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปและไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตโดยตรง แต่หากเกิดขึ้นบ่อย ๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพการนอนหลับ

ทำไมการตรวจการนอนหลับ ถึงสำคัญต่อสุขภาพของเรา

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมในบางคืนเราถึงนอนหลับไม่สนิท ตื่นเช้าขึ้นมาก็ยังรู้สึกเหนื่อย หรือบางคนอาจตื่นมากลางดึกบ่อย ๆ จนทำให้รู้สึกนอนไม่พอ

นอนกัดฟัน แก้ด้วย Splint

“นอนกัดฟัน” หรือ Bruxism ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะมันส่งผลต่อทั้งสุขภาพช่องปาก ข้อต่อขากรรไกร รวมไปถึงคุณภาพการนอนหลับโดยตรง หลายคนคงอาจคิดว่าใส่ Splint ฟัน ก็เพียงพอแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว การรักษาอาการนี้มีได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการhttps://youtu.be/gMdIP1i56ZQ?si=0ipz3OKFiweiis9_ สาเหตุของการนอนกัดฟัน หลายคนอาจไม่รู้ว่าการนอนกัดฟัน ไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับระบบร่างกาย จิตใจ และโครงสร้างฟันโดยตรง ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อย มีดังนี้ความเครียดสะสมเมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียด ไม่ว่าจะมาจากการทำงาน ความสัมพันธ์ หรือปัญหาส่วนตัว—กล้ามเนื้อทั่วร่างกายจะเกร็งตัว รวมถึงกล้ามเนื้อกรามและกล้ามเนื้อบดเคี้ยวด้วย การเกร็งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นระหว่างการนอนหลับโดยไม่รู้ตัว และแสดงออกมาในรูปแบบของการกัดฟันภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มักมีปัญหาทางเดินหายใจแคบลงหรืออุดตัน ส่งผลให้สมองสั่งการให้ร่างกายตอบสนองเพื่อเปิดทางเดินหายใจอีกครั้ง หนึ่งในปฏิกิริยาทางร่างกายที่เกิดขึ้นคือ “การกัดฟัน” เพื่อพยายามดันขากรรไกรให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติการสบฟันที่ผิดปกติฟันที่เรียงตัวไม่ดี หรือสบกันไม่พอดี อาจทำให้กล้ามเนื้อบดเคี้ยวต้องทำงานหนักเกินไปเพื่อให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินจำเป็น จึงเกิดการเกร็งสะสม และกลายเป็นพฤติกรรมกัดฟันในเวลานอนได้ในที่สุด อ่านเพิ่มเติม นอนกัดฟัน ปัญหาจุกจิก อาจเป็นเรื่องใหญ่ ปล่อยไว้นานอันตราย รักษาได้ ไม่ต้องผ่าตัด เช็กอาการเสี่ยงนอนกัดฟัน หากคุณนอนคนเดียวหรือไม่แน่ใจว่าตัวเองมีอาการนอนกัดฟันขณะหลับไหม สังเกตตัวเองได้จากอาการเหล่านี้ ที่เป็นสัญญาณบอกว่าคุณอาจกำลังมีปัญหานี้อยู่ตื่นมาแล้วปวดหรือเมื่อยกรามปวดหัว ปวดบริเวณหน้าหู (โดยเฉพาะช่วงเช้าหลังจากตื่นนอน)มีอาการเสียวฟัน หรือปวดฟันเวลาทานของร้อน/เย็นมีกระดูกนูนบริเวณมุมกราม ใบหน้าเริ่มดูเหลี่ยมขึ้นอ้าปากกว้างไม่ได้ รู้สึกค้างหรือเจ็บขากรรไกรอ่านเพิ่มเติม ปรึกษาปัญหานอนกัดฟัน ฟรี! ผลเสียของการนอนกัดฟัน ฟันบิ่น ฟันแตก เพราะเนื้อฟันสึกจากการบดหรือกดทับซ้ำ ๆข้อต่อขากรรไกรอักเสบ (TMD) อาจทำให้เจ็บเวลาพูด เคี้ยว หรืออ้าปากโครงหน้าผิดรูป กระดูกมุมกรามนูน ใบหน้าดูเหลี่ยมกว่าปกตินอนหลับไม่มีคุณภาพ สมองตื่นตัวบ่อย ส่งผลให้ร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่รบกวนคนรอบ ๆ ข้าง เสียงบดฟันทำให้คู่ชีวิตหลับไม่สนิท และอาจกระทบความสัมพันธ์ในระยะยาว วิธีรักษานอนกัดฟัน อาการนี้สามารถรักษาได้ และควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน1. การใช้ Splint ฟัน (Occlusal Splint)ช่วยป้องกันการสึกหรอของเนื้อฟัน โดยกระจายแรงกดขณะกัดฟัน และลดอาการเมื่อยกล้ามเนื้อกรามข้อควรระวัง: สำหรับเด็ก การใช้ Splint อาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของขากรรไกร และในช่วงแรกอาจทำให้นอนหลับยากขึ้นอ่านเพิ่มเติม2.  การฝึกกล้ามเนื้อด้วย Myofunctional Therapyเป็นการบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น ซึ่งสามารถใช้รักษาการนอนกรน และอาการนอนกัดฟันได้พร้อมกันอ่านเพิ่มเติมจุดเด่นของ Myofunctional Therapyช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบดเคี้ยวปรับสมดุลกล้ามเนื้อและการสบฟันแก้ปัญหาต้นเหตุอย่างแท้จริง การรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีควรทำร่วมกัน ทางที่ดีที่สุดคือการใช้ Splint ฟัน เพื่อป้องกันฟันสึกในระยะสั้น ควบคู่กับ การทำ Myofunctional Therapy เพื่อจัดการที่ต้นเหตุของปัญหาอย่างแท้จริง และควรตรวจการนอนหลับ Sleep Test เพื่อประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น การหยุดหายใจขณะหลับ (OSA)การวางแผนรักษาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง และทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น แพทย์ด้านการนอนหลับ และนักกายภาพบำบัด เพื่อให้การรักษาเหมาะสมกับแต่ละบุคคลและปลอดภัยที่สุด ปรึกษาวิธีการรักษากับเเพทย์เฉพาะทาง! สรุป การนอนกัดฟันไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ เพราะอาจนำไปสู่อาการปวดเรื้อรัง ฟันสึก ขากรรไกรอักเสบ และปัญหาโครงหน้าในระยะยาว หากสงสัยว่าตัวเองมีพฤติกรรมนอนกัดฟัน ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางหรือทันตแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมก่อนที่อาการจะลุกลาม

Why choose VitalSleep and Wellness
ตรวจคุณภาพการนอนหลับได้จากที่บ้าน

ตรวจการหลับ Sleep Test ที่ VitalSleep and Wellness สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดิน ทาง มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปติดตั้ง ให้ถึงที่บ้าน อ่านผลการตรวจ โดยแพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine

ลดเสียงกรนด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ที่ VitalSleep and Wellness นําเสนอแนวทางการรักษานอนกรน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ออกแบบ เฉพาะบุคคล รักษาได้ทั้ง แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด และการรักษาครอบคลุมไปถึงการรักษาอาการนอน กัดฟัน และข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ค้นหา และรักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ

เน้นการตรวจเชิงลึกหลายแนวทาง เพื่อค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุการรักษาที่แท้จริง มุ่งเน้นรักษาและบําบัดสาเหตุของการกรนที่ต้นเหตุ คือ กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ด้วย Myofunctional Therapy

แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ผสมผสาน

นําเสนอการรักษาที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคล เน้นการรักษาแบบผสมผสาน การรักษาหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครอบคลุมทุกความแตกต่างของแต่ละบุคคล

ทพ. ดร. อมรพงษ์ วชิรมน

Medical Director
แพทย์เฉพาะทางรักษานอนกรน

VitalSleep and Wellness
ดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง และนักกายภาพบําบัดวิชาชีพ
  • Polysomnography - Sleep Test ตรวจการนอนหลับ
  • เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน
  • เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก รักษานอนกรน
  • รักษาอาการ นอนกัดฟัน
  • รักษาอาการ ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ขากรรไกรมีเสียงคลิก
  • บำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น
  • ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร รักษานอนกรน
…and much more!

Promotion Sleep Test

ตรวจคุณภาพการนอนหลับ

สะดวก ง่าย ทำได้จากที่บ้าน

แพทย์เฉพาะทางอ่านผล

พิเศษ 6,900 บาท

(ปกติ 10,000 บาท)