• อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
ตรวจการนอนหลับ
ราคาสบายใจ
เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีกว่าเดิม

ตรวจการนอนหลับ

ราคาสบายใจ
เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีกว่าเดิม
Table of Contents

ตรวจการนอนหลับ ราคาสบายใจเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หลายคนอาจเข้าใจว่าการ “นอนไม่พอ” แค่ทำให้รู้สึกง่วงในวันถัดไป แต่ความจริงแล้ว คุณภาพการนอนหลับ การนอนอย่างเต็มที่ ส่งผลลึกถึงสุขภาพร่างกาย จิตใจ และสมองในระยะยาว การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าใจรูปแบบการนอนของคุณอย่างแท้จริง เพื่อวางแผนรักษาและปรับพฤติกรรมให้หลับลึก หลับดีขึ้น และเพื่อสุขภาพที่ดี

ทำไมควรตรวจการนอนหลับ?

การนอนหลับไม่ดี หรือการนอนไม่พอ ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมันอาจเป็นสัญญาณของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) หรือปัญหาทางเดินหายใจอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อหัวใจ สมอง และระดับพลังงานในแต่ละวัน

คุณควรเข้ารับการตรวจการนอนหลับ หากมีอาการเหล่านี้ :

  • กรนเสียงดัง
  • มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA)
  • รู้สึกง่วงในตอนกลางวัน แม้นอนครบ 7–8 ชั่วโมง ก็ตาม
  • ปวดศีรษะตอนเช้า คอแห้ง หรือตื่นกลางดึกบ่อย
  • มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน หรือโรคหัวใจ
  • รู้สึกหลับไม่เต็มอิ่มติดต่อกันนานจนเกินไป

รู้หรือไม่? การนอนไม่พอเพิ่มโอกาสเกิดโรคหัวใจเกือบสองเท่า

งานวิจัยจาก Harvard Health Publishing ระบุว่า การนอนหลับไม่เพียงพอเพียง 5–6 ชั่วโมงต่อคืน อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคเบาหวานได้มากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่นอนหลับอย่างเพียงพอ (7–8 ชั่วโมงต่อคืน) โดยพบว่าการนอนน้อยส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ
และเพิ่มภาระการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว

ตรวจการนอนหลับ ราคาสบายใจ ที่ VitalSleep Clinic

ที่ VitalSleep Clinic เราเชื่อว่า “คุณภาพการนอน” คือรากฐานของสุขภาพที่ดีทุกด้าน เราจึงออกแบบบริการ ตรวจการนอนหลับราคาสบายใจ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการดูแลที่ได้มาตรฐานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

จุดเด่นของการตรวจการนอนกลับที่ VitalSleep Clinic :

  • เครื่องตรวจมาตรฐานการแพทย์ (Home Sleep Test)
  •  วิเคราะห์ผลโดยแพทย์เฉพาะทางด้าน Sleep Medicine
  • สะดวก ทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • มีการติดตามและให้คำแนะนำหลังตรวจ

ตรวจการนอนหลับ วัดค่าอะไรบ้าง?

การตรวจจะช่วยให้เข้าใจ “พฤติกรรมการนอน” และ “คุณภาพการหายใจ” ระหว่างหลับ ผ่านค่าต่าง ๆ เช่น

รายการตรวจ, รายละเอียดที่ได้จากผล Sleep Test

  • ระดับออกซิเจนในเลือด (O₂ Saturation) บอกว่าระหว่างนอน ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอหรือไม่
  • อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) ตรวจสอบความผิดปกติของหัวใจระหว่างหลับ
  • รูปแบบการหายใจ (Respiratory Effort) ตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)
  • การเคลื่อนไหวระหว่างนอน (Body Movement) ดูความกระสับกระส่าย ซึ่งอาจรบกวนการหลับลึก
  • เสียงกรน (Snoring Level), วัดความรุนแรงและความถี่ของเสียงกรน

ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์ เพื่อดูว่าคุณมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการดูแลหรือไม่

การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ต้องตรวจบ่อยแค่ไหน

สำหรับผู้ที่เคยทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) มาแล้ว แนะนำให้ ตรวจซ้ำทุก 2–3 ปี เพื่อประเมินผลการรักษาและติดตามพัฒนาการของคุณภาพการนอน ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยตรวจมาก่อน ควรพิจารณา เข้ารับการตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ทางเดินหายใจมักเกิดการย่อนคล้อยตามธรรมชาติ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการหายใจระหว่างนอนหลับ การตรวจอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สามารถรักษาและปรับปรุงสุขภาพการนอนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อคงคุณภาพการนอนและสุขภาพโดยรวมให้อยู่ในระดับดีที่สุด

จะเป็นอย่างไร ถ้าปล่อยให้การนอนไม่มีคุณภาพต่อไป?

การนอนหลับไม่ดีอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดผลเสียดังนี้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ป่วยง่ายความดันโลหิตสูง และหัวใจทำงานหนัก สมาธิลดลง ความจำเสื่อมเสี่ยงโรคเบาหวาน น้ำหนักเพิ่มภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และอารมณ์แปรปรวน จากรายงานของ Harvard Health ผู้ที่นอนไม่พอ 24 ชั่วโมง มีสมรรถนะทางสมองเทียบเท่าคนที่มีแอลกอฮอล์ในเลือด 0.10%

เมื่อการนอนหลับดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น

การนอนที่มีคุณภาพช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่สมองปลอดโปร่ง อารมณ์มั่นคง ระบบหัวใจแข็งแรง และยังช่วยควบคุมน้ำหนักและระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ผลการนอนหลับที่ดีจึงหมายถึง “สุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น” เริ่มต้นง่าย ๆ แค่ตรวจการนอนหลับ เพื่อเข้าใจร่างกายตัวเองให้มากขึ้น

ผลกระทบเมื่อร่างกายไม่ได้รับการผักผ่อนอย่างเต็มที่

ลักษณะการนอนผลกระทบต่อร่างกายผลกระทบต่อสมองและอารมณ์ผลกระทบระยะยาว
อดนอน 24 ชั่วโมงขึ้นไปความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติสมองล้า การตัดสินใจช้าลง สมาธิสั้น เหมือนอาการเมาเสี่ยงอุบัติเหตุสูง ภูมิคุ้มกันลดลง
นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน ร่างกายสะสม “หนี้การนอน” อ่อนเพลียเรื้อรังความจำสั้นลง อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า วิตกกังวลเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน
นอนหลับไม่ลึก / หลับๆ ตื่นๆฮอร์โมนเมลาโทนินหลั่งไม่เพียงพอ ร่างกายไม่ฟื้นฟูเต็มที่สมาธิและความคิดสร้างสรรค์ลดลงเสี่ยงภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และการอักเสบในร่างกาย
เวลานอนผิดช่วง (นอนดึกเป็นประจำ)นาฬิกาชีวภาพเสียสมดุล ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงผิดปกติอารมณ์หงุดหงิดง่าย เครียดสะสมเพิ่มโอกาสเกิดภาวะเมตาบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome)
นอนไม่มีคุณภาพจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)ออกซิเจนในเลือดต่ำ หัวใจทำงานหนักตื่นกลางคืนบ่อย ง่วงตอนกลางวันเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉียบพลัน

สรุป

“การนอนหลับ” ไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่คือกระบวนการฟื้นฟูที่สำคัญที่สุดของชีวิต การตรวจการนอนหลับราคาสบายใจที่ VitalSleep Clinic จึงเป็นก้าวแรกในการเข้าใจสุขภาพของคุณอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้หลับดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น และมีชีวิตที่เต็มพลังทุกวัน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: การตรวจการนอนหลับต้องไปตรวจที่ Clinic อย่างเดียวไหม ?
 A: ไม่จำเป็น สามารถตรวจการนอนหลับได้ที่บ้าน

Q: ตรวจการนอนหลับ เหมาะกับใคร?
 A: เหมาะกับผู้ที่กรน ง่วงตอนกลางวัน หรือสงสัยว่าตัวเองมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

Q: ถ้าพบว่ามีปัญหาต้องทำอย่างไร?
 A: แพทย์จะให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล เช่น การปรับท่านอน ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ (CPAP) หรืออุปกรณ์ในช่องปาก (Oral Appliance)

Q: เด็กสามารถตรวจการนอนหลับได้ไหม?
 A: ได เด็กที่มีอาการนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ หรือมีพฤติกรรมง่วงผิดปกติในตอนกลางวัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจแนะนำให้ตรวจเพื่อประเมินภาวะทางเดินหายใจและพัฒนาการ

Related Blogs and Articles
ลูกหายใจทางปาก

ลูกหายใจทางปาก อาจดูเหมือนไม่อันตราย แต่จริง ๆ แล้วเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาการนอน การเจริญเติบโต และพัฒนาการสมองของเด็ก

Sex เสื่อมเพราะนอนกรน

Sex เสื่อมเพราะนอนกรน หลายคนอาจเคยเจอกับปัญหาคู่รักนอนกรน มักจะถูกมองข้าม เพราะหลายคนคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่น่ามีผลกระทบที่สำคัญต่อสุขภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าอาการนอนกรนสามารถเป็นสัญญาณเตือนของโรคอื่น ๆ ที่ร้ายแรงได้ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และสามารถส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศได้ การหาวิธีรักษาการนอนกรนจึงไม่ใช่แค่เพื่อคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น แต่ยังช่วยรักษาความสัมพันธ์และสุขภาพทางเพศของคู่รักได้อีกด้วย การนอนกรนในผู้ชายและผู้หญิง หลายคนอาจเข้าใจว่าผู้ชายมีแนวโน้มที่จะมีอาการนอนกรนที่มากกว่าผู้หญิง แต่งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงก็สามารถนอนกรนได้เหมือนผู้ชายเช่นเดียวกัน จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Sleep Medicine ในปี 2008 ที่ศึกษาการนอนกรนในประชากรวัยทำงานของประเทศสวีเดน พบว่า 24.5% ของผู้หญิงมีอาการนอนกรน มีอัตราที่ใกล้เคียงกับผู้ชาย ที่มีอัตราการนอนกรนอยู่ที่ 30.3% อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้การนอนกรนแตกต่างกันไป อาจเกี่ยวข้องกับลักษณะทางร่างกาย ฮอร์โมน และการใช้ชีวิต ​การนอนกรนมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศหรือไม่?​ มีงานวิจัย Erectile dysfunction in patient with obstructive sleep apnea ที่ว่าภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางเพศ โดยเฉพาะภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ในผู้ชาย การหยุดหายใจขณะหลับอาจส่งผลให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง การผลิตไนตริกออกไซด์ลดลง การไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณอวัยวะเพศบกพร่อง ผลมาจากการขาดออกซิเจนระหว่างการนอนหลับ นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าและง่วงนอนในระหว่างวัน ซึ่งทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงไม่เฉพาะในผู้ชายเท่านั้น แต่ยังอาจกระทบถึงเพศหญิงได้เช่นกัน​ สาเหตุของการนอนกรน การนอนกรนสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้วิธีการรักษาอาการนอนกรนในผู้ชายและผู้หญิงอาจแตกต่างกันไปหลายปัจจัย ได้แก่ วิธีแก้ปัญหานอนกรนด้วยตนเอง แม้ว่าจะไม่มีวิธีที่สามารถรักษาอาการนอนกรนได้ด้วยตัวเองแบบรับประกัน 100% ว่าจะหายนอนกรนได้ แต่ก็มีวิธีการปรับเปลี่ยนวิธีการชีวิตที่สามารถช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการนอนกรนได้ วิธีการรักษานอนกรนที่ VitalSleep Clinic มีวิธีการรักษาทั้งแบบไม่ต้องผ่าตัดและการผ่าตัด โดยวิธีรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด ได้แก่ การบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจ (Myofunctional Therapy) การใช้เครื่องมือทันตกรรม (Oral Appliance) การใช้คลื่นความถี่ความถี่สูง (Radiofrequency) และการใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก (CPAP) สำหรับคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่รุนแรงมาก การผ่าตัดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อขยายทางเดินหายใจ การผ่าตัดขากรรไกร (Maxillomandibular advancement, MMA) เคลื่อนขากรรไกรไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ทางเดินหายใจ สิ่งสำคัญคือต้องรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของแต่ละคน เพราะการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณในระยะยาว การได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณและคนที่คุณรักสามารถนอนหลับได้ดี สรุป การนอนกรนไม่ใช่แค่ปัญหาเล็กน้อยที่รบกวนการนอนหลับของคุณหรือคู่รักเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย สมรรถภาพทางเพศ และสุขภาพจิตได้ด้วย อาการนอนกรนอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ร้ายแรงกว่าที่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ตรวจการนอนหลับ

เหนื่อยแม้นอนเต็มคืน อาจเกิดจากคุณภาพการนอนที่ไม่สมดุล วงจรหลับลึกและ REM Sleep สั้นลง ตรวจการนอนหลับช่วยค้นหาสาเหตุได้

ตรวจการนอนหลับ คืออะไร?

“คุณภาพการนอน” มีผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และแม้แต่ภาวะซึมเศร้าได้

ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น

การนอนกรนเป็นอาการที่หลายคนอาจมองข้าม ที่จริงแล้วมันเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาทางสุขภาพที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

แก้นอนกรน ด้วย myofunctional therapy

การนอนกรน เป็นปัญหาการนอนที่พบได้บ่อยและส่งผลต่อทั้งคนที่นอนกรนและคนรอบข้าง แม้ว่าจะมีวิธีการรักษานอนกรนหลายรูปแบบ แต่ Myofunctional Therapy

sudden death silent danger

นอนกรน ใครจะคิดว่า “เสียงกรน” ที่ดูเหมือนเรื่องธรรมดา อาจกลายเป็นภัยเงียบที่พรากชีวิตคนที่คุณรักไปอย่างไม่รู้ตัว “ใหลตาย” (Sudden Unexpected Nocturnal Death Syndrome หรือ SUNDS) คือหนึ่งในภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในอาการนอนกรน โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (OSA) เข้าใจ “ใหลตาย” ภัยเงียบที่พรากชีวิตในยามหลับ “ใหลตาย” คือภาวะเสียชีวิตอย่างกะทันหันในขณะนอนหลับ โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดภายหลังชันสูตร มักเกิดในคนที่ดูเหมือนสุขภาพแข็งแรงดี ในกลุ่มชายวัยหนุ่มสาวในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ลาว เวียดนาม และฟิลิปปินส์สาเหตุของอาการใหลตายยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่จากการศึกษาในปัจจุบันพบว่า ผู้เสียชีวิตจำนวนมากมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ที่มีจุดร่วมสำคัญคือ “การนอนกรน” งานวิจัยที่มีความเชื่อมโยง “ใหลตาย” งานวิจัยในประเทศไทยโดย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พบว่าในกลุ่มผู้ป่วยใหลตายที่รอดชีวิต มีสัดส่วนมากถึง 80% ที่มีอาการหยุดหายใจขณะหลับ​ในประเทศฟิลิปปินส์ มีวิจัยจาก PubMed รายงานว่าชายหนุ่มวัยทำงานเสียชีวิตจากอาการใหลตาย จำนวนมากมีประวัติ “นอนกรนเสียงดัง” และ “หายใจติดขัดกลางดึก”​การศึกษาจาก JACC Journals ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ก็พบว่า OSA เพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหัวใจอย่างเฉียบพลัน รวมถึงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงในขณะหลับ สัญญาณที่บ่งชี้ว่าอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ กรนเสียงดังหยุดหายใจเงียบ ๆ ชั่วครู่ แล้วเฮือกสะดุ้งตื่นกลางดึก หายใจไม่ทันตื่นนอนแล้วรู้สึกไม่สดชื่นง่วงตอนกลางวัน สมาธิสั้น อารมณ์แปรปรวนปวดหัวตอนเช้า ความดันสูง เบาหวานหรือโรคหัวใจ ปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ ฟรี! https://www.youtube.com/shorts/VQlGzDh6-_Q ทำไมภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ถึงเสี่ยงต่อ “ใหลตาย”? ออกซิเจนต่ำซ้ำซากการหยุดหายใจหลายครั้งต่อคืน ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ ส่งผลต่อหัวใจและสมองอย่างรุนแรงหัวใจเต้นผิดจังหวะภาวะ OSA เพิ่มความเสี่ยงหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบventricular fibrillation ที่อาจนำไปสู่หัวใจหยุดเต้นในขณะหลับกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติภาวะออกซิเจนต่ำกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเธติก ทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจผันผวนอย่างรุนแรงสมองขาดออกซิเจนการขาดออกซิเจนในสมองซ้ำซาก อาจทำให้เกิดการชักหรือสูญเสียการควบคุมระบบสำคัญในร่างกาย แนวทางการรักษาอาการกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับเพื่อป้องกัน “ใหลตาย” การรักษาที่เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงใหลตายได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยแนวทางการรักษาแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก1. การรักษาแบบไม่ใช้เครื่องมือปรับพฤติกรรม เช่น ลดน้ำหนัก งดแอลกอฮอล์ งดยานอนหลับ นอนตะแคงฝึกการหายใจ และกล้ามเนื้อในช่องปาก (Myofunctional Therapy) ช่วยกระชับกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ2. การรักษาด้วยอุปกรณ์CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก ที่ถือเป็นมาตรฐานทองในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับOral Appliance (เครื่องมือทันตกรรม) ช่วยดันขากรรไกรล่างไปด้านหน้า เปิดทางเดินหายใจ เหมาะกับคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง3. การรักษาแบบผ่าตัดและหัตถการผ่าตัดช่องทางเดินหายใจ เช่น ตัดต่อมทอนซิล ผ่าตัดเพดานอ่อนผ่าตัดขากรรไกร (Maxillomandibular Advancement)รักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency)เลเซอร์ หรือร้อยไหมยกเพดานอ่อน สำหรับกรณีมีอาการนอนกรนที่ไม่ซับซ้อนอย่าปล่อยให้ “กรน” กลายเป็นคำบอกลาสุดท้ายเสียงกรนอาจไม่ใช่แค่เรื่องกวนใจของคนข้างเตียง แต่มันคือ “สัญญาณเตือน” โดยเฉพาะในคนที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น น้ำหนักเกิน มีคอหนา เป็นเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงการตรวจ Sleep Test คือกุญแจสำคัญ ในการวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และวางแผนรักษาได้อย่างแม่นยำ สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย

อาการผีอำ

เคยไหม…นอนอยู่ดี ๆ แล้วรู้สึกเหมือนมีบางอย่างทับอยู่บนอก ขยับตัวไม่ได้ หายใจก็อึดอัด นั่นแหละที่เราเรียกกันว่า “ผีอำ” อาการนี้ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ

Why choose VitalSleep and Wellness
ตรวจคุณภาพการนอนหลับได้จากที่บ้าน

ตรวจการหลับ Sleep Test ที่ VitalSleep and Wellness สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดิน ทาง มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปติดตั้ง ให้ถึงที่บ้าน อ่านผลการตรวจ โดยแพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine

ลดเสียงกรนด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ที่ VitalSleep and Wellness นําเสนอแนวทางการรักษานอนกรน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ออกแบบ เฉพาะบุคคล รักษาได้ทั้ง แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด และการรักษาครอบคลุมไปถึงการรักษาอาการนอน กัดฟัน และข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ค้นหา และรักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ

เน้นการตรวจเชิงลึกหลายแนวทาง เพื่อค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุการรักษาที่แท้จริง มุ่งเน้นรักษาและบําบัดสาเหตุของการกรนที่ต้นเหตุ คือ กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ด้วย Myofunctional Therapy

แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ผสมผสาน

นําเสนอการรักษาที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคล เน้นการรักษาแบบผสมผสาน การรักษาหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครอบคลุมทุกความแตกต่างของแต่ละบุคคล

ทพ. ดร. อมรพงษ์ วชิรมน

Medical Director
แพทย์เฉพาะทางรักษานอนกรน

VitalSleep and Wellness
ดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง และนักกายภาพบําบัดวิชาชีพ
  • Polysomnography - Sleep Test ตรวจการนอนหลับ
  • เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน
  • เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก รักษานอนกรน
  • รักษาอาการ นอนกัดฟัน
  • รักษาอาการ ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ขากรรไกรมีเสียงคลิก
  • บำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น
  • ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร รักษานอนกรน
…and much more!