อุปกรณ์แก้กรน หลายคนมองว่าการนอนกรนเป็นเรื่องปกติ แค่เสียงดังรบกวนคนข้าง ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ที่ส่งผลต่อหัวใจ ความดัน และสมองโดยตรง
ผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และภาวะหัวใจวาย
- ความดันโลหิตสูง
- เส้นเลือดอุดตัน และหลอดเลือดสมอง
- สมรรถภาพทางสมองลดลงจากออกซิเจนไม่เพียงพอ
อุปกรณ์แก้กรนคืออะไร & หลักการทำงาน
อุปกรณ์แก้กรนเป็นเครื่องมือช่วยเปิดทางเดินหายใจ ลดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อในลำคอ หลักการทำงานอาจเป็น…
- ลดการอุดกั้น ด้วยการดันกรามล่างไปข้างหน้า
- รักษาความดันอากาศให้ทางเดินเปิด (CPAP)
- ดึงลิ้นเพื่อไม่ให้อุดทางเดินหายใจ
- กระตุ้นกล้ามเนื้อคอด้วยคลื่นไฟฟ้า
- การเปลี่ยนท่านอนให้ตัวเองไม่นอนหงาย

ประเภทของอุปกรณ์แก้กรน
- Oral Appliances (ASA)
เป็นอุปกรณ์ที่ทันตแพทย์ออกแบบให้เพื่อเลื่อนกรามล่างไปข้างหน้า ช่วยเปิดทางเดินหายใจ - CPAP แรงดันอากาศบวก
ปล่อยแรงดันอากาศให้ทางเดินคงตัว ไม่ปิดกั้นระหว่างคืนขณะนอนหลับ - อุปกรณ์พยุงลิ้น (Tongue Retaining Device)
ดึงลิ้นไว้ด้านหน้า ป้องกันการตกไปอุดทางเดินหายใจ - หมอน & อุปกรณ์ปรับท่านอน
จาก BioMed Central กล่าวว่าสามารถช่วยป้องกันการนอนหงาย เช่น หมอนเฉียง หรือเตียงยกหัว - อุปกรณ์กระตุ้นไฟฟ้า / คลื่นกลาง (Mid-frequency device)
มีงานวิจัยทดลองจาก World J Clin Cases ที่ใช้กับผู้ป่วย OSA ระดับปานกลาง พบว่าสามารถเพิ่มขนาดทางเดินอากาศในส่วน soft palate & retrolingual ได้
งานวิจัยที่สนับสนุนประสิทธิภาพอุปกรณ์แก้กรน
Oral Appliance ลดกรน (Long-term) การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน PMC พบว่าอุปกรณ์ Oral Appliance สามารถลดอัตราการกรนได้ดี โดยความยาวของตัวบีบลิ้น (Tongue Compressor) ที่ 2.5 ซม. ให้ผลดีที่สุดในกลุ่มคนที่ใช้
ในงานนี้ คนที่เข้าร่วมใช้หลายขนาด (0.5–3.5 ซม.) ผลพบว่า 2.5 ซม. มีผลลดอัตราการกรนสูงสุด
| CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) | Oral Appliance – ASA |
|---|---|
| ใช้เครื่องเป่าลมแรงดันบวกคงที่ผ่านหน้ากาก เพื่อเปิดทางเดินหายใจ | ดันขากรรไกรล่างและลิ้นไปด้านหน้า เพื่อเปิดทางเดินหายใจ |
| ได้ผลดีที่สุดในการรักษา OSA ทุกระดับ โดยเฉพาะระดับรุนแรง | เหมาะกับคนที่เป็น OSA ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง มีงานวิจัยรองรับว่าสามารถลด AHI ได้อย่างชัดเจน |
| ต้องใส่หน้ากากและใช้เครื่องตลอดคืน พกพาลำบาก | ขนาดเล็ก พกพาง่าย ใส่คล้ายเฝือกฟัน ใช้งานสะดวก |
| บางคนอาจนอนไม่สบายเพราะเสียงเครื่องหรือหน้ากาก | ปรับตัวง่ายกว่า แต่ช่วงแรกอาจมีอาการตึงขากรรไกร |
| จมูกแห้ง ระคายเคืองผิวหนังจากหน้ากาก หลุดตอนนอน | ขากรรไกรตึง น้ำลายมากขึ้นช่วงแรก ต้องดูแลทำความสะอาด |
| คนที่เป็น OSA ทุกระดับ โดยเฉพาะระดับปานกลางถึงรุนแรง | คนที่มีอาการกรน หรือ OSA เล็กน้อยถึงปานกลาง และในคนที่ไม่สะดวกใช้ CPAP หรือเดินทางบ่อย |
| มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง เช่น หน้ากาก ฟิลเตอร์ | ดูแลรักษาง่ายกว่า |
วิธีเลือกใช้อุปกรณ์แก้กรน ตามแนวทางของ VitalSleep Clinic
VitalSleep Clinic เป็นคลินิกเฉพาะทางที่เน้น “การรักษาแบบองค์รวม โดยไม่ผ่าตัด” (Holistic Non-Surgical Approach) และออกแบบการรักษาโดยอิงกับการตรวจ Sleep Test, Myofunctional Therapy และอุปกรณ์ทันตกรรมเฉพาะบุคคล
- ตรวจ Sleep Test ประเมินระดับอาการก่อนเลือกอุปกรณ์
- พิจารณาสภาพโครงสร้างช่องปากและขากรรไกร
- เลือกรูปแบบอุปกรณ์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความสะดวก
- ประเมินประสิทธิภาพ ติดตามผลและปรับแต่งอุปกรณ์
สรุป
อุปกรณ์แก้กรนเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับผู้ที่มีอาการกรนและ OSA แต่การเลือกใช้ควรอิงจากงานวิจัย ประเภทของอุปกรณ์ และโครงสร้างส่วนบุคคล ที่ VitalSleep Clinic ย้ำแนวคิด “รักษาที่ต้นเหตุ” ผ่านการตรวจการนอนหลับเองได้จากที่บ้าน การบำบัดกล้ามเนื้อทางช่องปาก Myofunctional Therapy และการออกแบบอุปกรณ์เฉพาะบุคคล
งานวิจัยหลายชิ้นสนับสนุนประสิทธิภาพของ Oral Appliance, Mid-frequency device และวิธีการเสริมอื่น ๆ แต่ก็ต้องเข้าใจข้อจำกัดการใช้งานและข้อจำกัดของแต่ละอุปกรณ์ ที่สำคัญที่สุดคือ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญ
FAQs คำถามที่พบบ่อย
- งานวิจัยใดพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ Oral Appliance ลดกรนได้จริง?
มีงานวิจัยหลายชิ้น เช่น การศึกษาของ Chiang et al. พบว่า LOA ลดอัตราการกรนได้ โดยความยาวตัวบีบลิ้น ~2.5 ซม. ให้ผลดีที่สุด และงาน Novel Oral Device ก็แสดงผลลดกรนเช่นกัน
- VitalSleep Clinic แตกต่างจากคลินิกทั่วไปอย่างไร?
VitalSleep Clinic ให้บริการแบบครบวงจร – ตรวจการนอนที่บ้าน, อุปกรณ์ทันตกรรม, Myofunctional Therapy และออกแบบแผนรักษาเฉพาะบุคคลตามโครงสร้างร่างกาย - อุปกรณ์ใดเหมาะสำหรับคนที่ทน CPAP ไม่ได้?
Oral Appliance (ASA) ถือเป็นทางเลือกที่แนะนำ โดยเฉพาะในคนที่มี OSA ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง - ถ้าใช้เครื่องมือแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไร?
ควรกลับไปประเมินโดยแพทย์ ตรวจ Sleep Test ใหม่ หรือพิจารณาอุปกรณ์/วิธีรักษาอื่น เช่น CPAP, ผ่าตัด หรือวิธีเสริมอื่น ๆ


