• อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
นอนกรนมาทั้งชีวิต รักษาอย่างไร
เรื้อรัง ยืดเยื้อ สุขภาพแย่
รักษาได้ ไม่ต้องผ่าตัด

นอนกรนมาทั้งชีวิต รักษาอย่างไร

เรื้อรัง ยืดเยื้อ สุขภาพแย่
รักษาได้ ไม่ต้องผ่าตัด
Table of Contents

นอนกรน ปัญหาใหญ่ที่ทำลายสุขภาพ

       ปัญหาอาการนอนกรน เป็นปัญหาที่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัยเกิดขึ้นได้ในทุกๆคน เเต่โดยเฉพาะในเพศชายมีอัตราของการเกิดภาวะนอนกรนที่สูงมากกว่าเพศหญิงถึง 2 เท่า โดยจากข้อมูลการศึกษาพบว่า ในช่วงวัยที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้ชายประมาณ 40% และ ผู้หญิงประมาณ 24% มีภาวะอาการนอนกรนเกิดขึ้นอย่างเป็นประจำ

       ซึ่งปัญหาของการนอนกรนไม่เพียงเเต่เป็นผลร้ายที่ส่งผลกระทบอันตรายต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว แต่ยังเป็นปัญหาที่ส่งเสียงดังรบกวนสร้างความน่ารำคาญให้กับผู้ที่นอนร่วมกัน หลายๆคนคงอาจเคยลองรักษาด้วยวิธีต่างๆมากมาย เเต่สุดท้ายก็ยังนอนกรนเสียงดังอยู่ดี จะต้องรักษาด้วยวิธีไหนจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น มาหาคำตอบได้ที่บทความนี้

นอนกรนเรื้อรัง

สาเหตุของการเกิด ภาวะนอนกรน

       สาเหตุของการเกิดอาการนอนกรนในเเต่ละบุคคลนั้น อาจมีสาเหตุและปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะขึ้นอย่างแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล เนื่องจากการนอนกรนสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยอาจแบ่งเป็น 2 สาเหตุหลักๆได้ดังนี้

1. โครงสร้างทางกายวิภาค

ความผิดปกติของโครงสร้างใบหน้า

       ปัญหาจากกระดูกขากรรไกรที่มีการเจริญเติบโตผิดปกติ มีลักษณะของขากรรไกรล่างที่มีขนาดเล็ก แคบเเละสั้นมากกว่าปกติ ซึ่งอาจสังเกตจากใบหน้าได้ว่าจะมีลักษณะ คางสั้น มากกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาจมูกคด หรือ จมูกเบี้ยว ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการนอนกรน

อ่านเพิ่มเติม ผ่าขากรรไกรแก้นอนกรน

เนื้อเยื่ออ่อนภายในลำคอ เเละ ช่องทางเดินหายใจ

       เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักๆที่ก่อให้เกิดภาวะนอนกรน เนื่องจากเมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อต่างๆภายในร่างกายก็มักจะเสื่อมสมรรถภาพลงตาม รวมไปถึงกล้ามเนื้อในส่วนบริเวณลำคอ และช่องทางเดินหายใจ เช่น กล้ามเนื้อโคนลิ้น เพดานอ่อน ที่เสื่อมสภาพลงและไม่สามารถตึงตัวอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องได้ เกิดการหย่อนคล้อยตัวลงในขณะนอนหลับ และอุดกั้นกีดขวางทางเดินหายใจ

ต่อมทอนซิลและอดีนอยด์โต

       เป็นปัญหาที่มักจะพบและเกิดขึ้นได้บ่อยในเด็ก เมื่อต่อมทอนซิลและต่อมอดีนอยด์โตขึ้น จากการติดเชื้อหรืออักเสบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการ คัดจมูก, น้ำมูกไหล , ไอ และมีอาการนอนกรน เนื่องจากตำแหน่งของต่อมทอนซิลและต่อมอดีนอยด์ จะอยู่ในบริเวณส่วนด้านหลังของโพรงจมูก เมื่อเกิดการอักเสบและมีขนาดใหญ่ขึ้น จึงเกิดการกีดขวางทางเดินหายใจ ส่งผลให้หายใจลำบากมากขึ้น และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กๆนอนกรน

2. พฤติกรรมส่วนตัว และ สภาพแวดล้อม

น้ำหนักตัวเกินค่ามาตรฐาน : มีปริมาณไขมันสะสม ในบริเวณช่วงรอบคอที่มากเกินไป จนกดทับทางเดินหายใจในขณะที่เอนตัวลงนอน ทำให้หายใจได้ลำบาก เเละเกิดการนอนกรน

ท่านอน : การนอนในท่าหงายหน้าขึ้น เป็นท่านอนที่เพิ่มโอกาสการเกิดภาวะนอนกรนที่มากขึ้น เนื่องจากการนอนหงายทำให้ลิ้นไก่ และ เพดานอ่อน มีโอกาสที่จะตกลงมาที่ด้านล่างเเละอุดกั้นทางเดินหายใจ

การสูบบุหรี่ : หากมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่อย่างเป็นประจำ สารเคมีที่มีอยู่ในบุหรี่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองกับเนื้อเยื่อบริเวณทางเดินหายใจ ส่งผลให้ช่องทางเดินหายใจเกิดการอักเสบ บวม และตีบแคบ

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมในช่วงก่อนนอน มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อภายในช่องคอ เเละทางเดินหายใจ ซึ่งเสี่ยงต่อการนอนกรน

อันตรายจากการนอนกรน

       การนอนกรนอย่างต่อเนื่องเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน ส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพร่างกายและสภาพจิตใจในระยะยาว โดยอันตรายของภาวะนอนกรน มักจะเกิดขึ้นจากการที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกิดขึ้นร่วมด้วย (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ซึ่งเป็นโรคที่มักจะเกิดขึ้นร่วมกับการนอนกรน โดยเป็นภาวะที่ทำให้เกิดปัญหาการหายใจที่ลำบากในขณะหลับ หรือ เกิดการหยุดหายใจเป็นช่วงๆพักๆระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อระบบต่างๆภายในร่างกาย ดังนี้

โรคเบาหวาน : การหยุดหายใจขณะหลับ ส่งผลให้ร่างกายเเละสมอง ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้ระดับของออกซิเจนในเลือดลดลง ส่งผลต่อร่างกายให้เกิดการปรับตัวต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการดึงน้ำตาลในร่างกายมาใช้งานเพิ่มมากขึ้น เป็นเหตุที่ทำให้ร่างกายเกิดความต้านทานต่ออินซูลินที่สูงขึ้น เเละเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงเกิด “โรคเบาหวาน”

โรคความดันโลหิตสูง : การหยุดหายใจขณะหลับ ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลง หัวใจเกิดการทำงานที่หนักมากขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือด และส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาความดันโลหิตสูงตามมา

โรคหลอดเลือดสมองตีบ,แตก : สมองได้รับออกซิเจนหล่อเลี้ยงลดน้อยลง และมีการขาดช่วงเป็นพักๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดการสะสมของคราบพลัคในหลอดเลือดแดง เสี่ยงเกิดหลอดเลือดสมองตีบตันมากขึ้น

โรคหัวใจวาย : กล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนักมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มีการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

ปัญหาทางเพศ : สมรรถภาพทางเพศลดลง ความต้องการทางเพศลดน้อยลง

ปัญหาทางด้านสุขภาพจิตใจและอารมณ์ : เกิดปัญหาอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เครียดบ่อย และอาจก่อให้เกิดปัญหาภาวะซึมเศร้า

ระบบสมองเกิดความเสียหาย : ระบบประมวลผลของสมอง (Cognitive skill) เกิดความเสียหาย เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนหล่อเลี้ยงในขณะหลับ ทำให้สมองเกิดการทำงานที่ผิดปกติ ทำงานได้ช้าลง ระบบการคิดวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพที่ต่ำลง

อ่านเพิ่มเติม การฝึกสมองสำคัญอย่างไร?

นอนกรนเรื้อรัง

นอนกรน รักษายังไงให้หาย

       การนอนกรนเกิดจากการที่อวัยวะกล้ามเนื้อต่างๆภายในช่องคอ และทางเดินหายใจส่วนต้น เกิดการหย่อนคล้อย ทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบลง ซึ่งวิธีการรักษาปัญหาอาการนอนกรนให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดี คือการรักษาปัญหาจากสาเหตุ เเก้ไขปัญหาที่ต้นตอ โดยสามารถแบ่งการรักษาออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้ดังนี้

1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

Myofunctional Therapy (การบำบัดกล้ามเนื้อบนใบหน้าเเละทางเดินหายใจส่วนต้น)

       เป็นการรักษาปัญหาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่เกิดขึ้นจากต้นเหตุเพียงวิธีเดียว ซึ่งการบำบัดกล้ามเนื้อจะมีเป้าหมายในการรักษาคือ เสริมสร้างความแข็งแรงและแก้ไขปัญหาการทำงานที่ผิดปกติในส่วนของกล้ามเนื้อโคนลิ้น, ขากรรไกร, เพดานอ่อน, และทางเดินหายใจส่วนต้น ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเดิม และมีความแข็งแรงที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อเกิดการหย่อนคล้อยตัวลงและอุดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการกรนและหยุดหายใจขณะหลับ 

Oral Appliance (เครื่องมือทันตกรรมรักษานอนกรน)

       อุปกรณ์ทันตกรรมที่ใช้สำหรับใส่ครอบฟันในขณะหลับ โดยมีหน้าที่สำคัญในการช่วยขยายช่องทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น ป้องกันกล้ามเนื้อโคนลิ้นและกล้ามเนื้อภายในช่องคอหย่อนคล้อยตัวลงอุดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งตัวอุปกรณ์จะช่วยในการจัดตำแหน่งของขากรรไกรและลิ้น ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องขณะหลับ ทำให้สามารถหายใจได้สะดวกในขณะหลับ  ลดการนอนกรนและลดอัตราการหยุดหายใจขณะหลับ

       ตัวอุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาอาการนอนกรนเเละภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ที่ต้องการเเก้ไขปัญหานอนกรนด้วยวิธีที่มีความสะดวกสบาย เนื่องจากตัวอุปกรณ์มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถพกพาได้ง่าย ทำให้สามารถใช้ได้ในทุกๆคืน อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน จึงเป็นหนึ่งในวิธีการรักษานอนกรนที่เป็นที่นิยมอย่างมาก

RF Bot (คลื่นความถี่วิทยุแก้อาการนอนกรน)

       เป็นวิธีการรักษานอนกรนด้วยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ ส่งผ่านพลังงานและเปลี่ยนกลายเป็นความร้อนไปยังบริเวณเพดานอ่อน หรือ บริเวณโคนลิ้น เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจนของเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ให้เกิดการยกกระชับตัวที่มากขึ้น ลดการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ

       ซึ่งจะมีผลลัพธ์ในการรักษาที่แตกต่างจากการใช้เลเซอร์แก้นอนกรนคือ การใช้คลื่นความถี่วิทยุ RF Bot สามารถรักษาได้ทั้งอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ในขณะที่เลเซอร์นอนกรนไม่ได้ช่วยรักษาปัญหาการหยุดหายใจขณะหลับ อีกทั้งการใช้คลื่นความถี่วิทยุ ยังใช้ระยะเวลาในการทำที่น้อยกว่า และมีผลลัพธ์การรักษาที่อยู่ได้นานกว่า

2. การรักษาแบบผ่าตัด

ผ่าตัดตกเเต่งเพดานอ่อน หรือ ลิ้นไก่ ด้วยเลเซอร์

       เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาด้วยการใช้เลเซอร์ โดยจะนำเอาเนื้อเยื่อบริเวณเพดานอ่อนและลิ้นไก่ที่มีความหย่อนคล้อยกีดขวางทางเดินหายใจออก  เพื่อเป็นการขยายช่องทางเดินหายใจให้กว้างมากขึ้น เเละสามารถหายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้นในขณะหลับ

การผ่าตัดผนังกั้นช่องจมูกคด

       การรักษาด้วยวิธีนี้เป็นการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผนังกั้นช่องจมูกคด มีความผิดปกติแต่โดยกำเนิด หรือเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งการผ่าตัดจะช่วยเเก้ไขปัญหาของช่องจมูกที่คดเเละมีความผิดปกติ ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติมากที่สุด เพื่อช่วยให้การหายใจเป็นปกติและลดอาการกรน

ผ่าตัดเลื่อนกระดูกขากรรไกร

       เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาอาการนอนกรนที่เกิดขึ้นจากโครงสร้างของใบหน้าขากรรไกรมีลักษณะที่ผิดปกติ เช่น ขากรรไกรล่างถอยไปด้านหลังมากเกินไป หรือ ขากรรไกรล่างมีขนาดที่เล็กและแคบมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้ขนาดของช่องทางเดินหายใจส่วนต้นมีขนาดที่เล็กลงตาม การผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรจึงจะช่วยให้ทางเดินหายใจส่วนต้นมีขนาดที่กว้างขยายมากขึ้น

สรุป

       การรักษานอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการรักษามากที่สุดคือ การรักษาปัญหาจากต้นเหตุของอาการที่เกิดขึ้นของตนเอง ด้วยวิธีการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งสามารถตรวจหาสาเหตุการนอนกรนที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ด้วยการตรวจ Sleep Test

       โดยที่ VitalSleep Clinic เรามีบริการตรวจสุขภาพการนอนหลับที่ส่งตรงถึงบ้าน โดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทาง หรือเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการนอนหลับ สามารถตรวจได้จากที่บ้านของตัวเอง ด้วยโปรเเกรม Home Sleep Test โดยมีเเพทย์เฉพาะทางในการรักษาปัญหานอนกรน เป็นผู้อ่านผลตรวจสุขภาพการนอนหลับเพื่อวินิจฉัยถึงสาเหตุของการนอนกรน และใช้เป็นแนวทางการวางแผนรักษาที่เหมาะสมสำหรับอาการที่เกิดขึ้นในแต่ละบุคคล

Related Blogs and Articles
นอนกัดฟันรักษายังไง

ในบางครั้งคนที่นอนกัดฟันเองก็อาจไม่รู้ตัวจนกระทั่งเกิดอาการปวดฟัน ปวดกราม หรือมีคนรอบข้างสังเกตเห็นเสียงกัดฟันในเวลานอนตอนกลางคืน นอนกัดฟันรักษาได้!

Snoring, sleep apnea

นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับการนอนหลับ เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยไม่รู้ตัว หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการ นอนกรนร่วมกับหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) มันไม่ใช่แค่เรื่องของเสียงรบกวนระหว่างหลับเท่านั้น แต่เป็นโรคร้ายที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเสียชีวิตอย่างเงียบ ๆ โดยที่คุณไม่รู้ตัวhttps://www.youtube.com/watch?v=O6cvnSTn7lA ภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ คืออะไร? นอนกรนเกิดจากการสั่นของเนื้อเยื่อในลำคอ อากาศที่ผ่านช่องทางเดินหายใจที่ตีบแคบในระหว่างหลับ อาจเกิดจากเพดานอ่อน โคนลิ้น หรือกล้ามเนื้อคอที่หย่อนคล้อยมาขวางลม การหายใจอาจหยุดลงชั่วขณะ และเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ตลอดคืน เรียกว่า "ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น" ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง สมองและหัวใจต้องทำงานหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัวบทความที่เกี่ยวข้อง นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ ทำไมถึงอันตราย? การหยุดหายใจซ้ำ ๆ ตลอดทั้งคืน ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนเป็นระยะ ส่งผลเสียร้ายแรงหลายด้าน เช่น- ทำให้นอนหลับไม่เต็มที่ ตื่นกลางดึก และรู้สึกไม่สดชื่นแม้จะนอนนาน- เพิ่มความเสี่ยงของ โรคร้ายแทรกซ้อน เช่นหัวใจล้มเหลว (เสี่ยงมากขึ้นถึง 140%)หลอดเลือดสมองตีบ (เสี่ยงเพิ่ม 30%)โรคหลอดเลือดหัวใจ (เพิ่มความเสี่ยง 60%)เบาหวานชนิดที่ 2 (เพิ่มความเสี่ยง 6 เท่า)ภาวะซึมเศร้า (พบในผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ2%)สมองเสื่อม (ความจำเสื่อมเร็วจากขาดออกซิเจนในสมอง)ขอบคุณข้อมูลจาก https://shorturl.asia/24zEk, https://shorturl.asia/7vtOc, https://shorturl.asia/6ICHZ, https://shorturl.asia/JGftQ, https://shorturl.asia/6T2yV, https://shorturl.asia/JGftQ ใครบ้างที่เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกิดได้กับทุกคน แต่มีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้บางคนมีแนวโน้มมากกว่าคนอื่น เช่นน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนไขมันรอบคออาจกดทับทางเดินหายใจ ขัดขวางการหายใจขณะหลับ (น้ำหนักขึ้นเพียง 10% เพิ่มความเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับถึง 32%)อายุที่มากขึ้นอายุมากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อในลำคอและใบหน้าหย่อนตัว เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจเพศชายมีแนวโน้มหยุดหายใจขณะหลับ มากกว่าเพศหญิงถึง 5-6 เท่า เนื่องจากโครงสร้างทางกายภาพและฮอร์โมนที่แตกต่างกันโครงสร้างใบหน้าผิดปกติคนที่มีคางเล็ก คางถอย หรือคางสั้น มีพื้นที่ช่องคอน้อยลง เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจได้มากขึ้นโรคประจำตัวคนที่เป็นเบาหวาน ความดัน หลอดเลือดหัวใจ หรือสมองเสื่อม มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปมาก โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเผชิญภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? อาการที่พบบ่อยและควรสังเกต ได้แก่นอนกรนเสียงดังเป็นประจำหายใจติดขัดหรือหยุดหายใจขณะหลับ (สังเกตได้จากคนข้าง ๆ)ตื่นกลางดึกบ่อย มีอาการหายใจแรงหรือสะดุ้งง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวันปวดหัวตอนเช้า ไม่สดชื่นแม้นอนนานหงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน หรือมีปัญหาความจำ รับคำปรึกษา ฟรี! อย่ารอให้อันตรายมาเยือนโดยไม่รู้ตัว การนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับไม่ควรถูกมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกถึงโรคร้ายแรงในอนาคต โดยเฉพาะในคนที่มีปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมาการเข้ารับ การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นวิธีที่แม่นยำและปลอดภัยในการวินิจฉัยโรคนี้ และถ้าพบว่ามีปัญหา ก็สามารถเริ่มรักษาได้อย่างตรงจุดตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่อง CPAP, Oral Appliance, การฝึกหายใจหรือปรับพฤติกรรมการนอน และการบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย สรุป "นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ" ไม่ใช่แค่ปัญหาเสียงน่ารำคาญตอนกลางคืน แต่คือภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพโดยรวมของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ สมอง หรือคุณภาพชีวิต การใส่ใจและรับการวินิจฉัยตั้งแต่ต้น คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยรักษาชีวิตและอนาคตของคุณไว้

การหยุดหายใจขณะหลับ อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นภาวะผิดปกติที่สามารถนำไปสู่ภาวะสุขภาพที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีปัญหานอนกรน

เครื่องช่วยหายใจนอนกรน เเก้ไขอาการกรน คืออะไร

หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินถึงวิธีการรักษาอาการนอนกรนที่มีหลากหลายรูปแบบ ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงเครื่องช่วยหายใจสำหรับคนนอนกรน

ทำไมการตรวจการนอนหลับ ถึงสำคัญต่อสุขภาพของเรา

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมในบางคืนเราถึงนอนหลับไม่สนิท ตื่นเช้าขึ้นมาก็ยังรู้สึกเหนื่อย หรือบางคนอาจตื่นมากลางดึกบ่อย ๆ จนทำให้รู้สึกนอนไม่พอ

7 วิธีรักษานอนกรน

วิธีรักษานอนกรนที่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังมองหาวิธีที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ เพื่อจะได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพและตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นในทุก ๆ เช้า อาการนอนกรนที่เกิดขึ้น นอกจากจะเป็นปัญหากับคนที่อยู่รอบตัวคุณแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวของคุณเองอีกด้วย ลองมาดู 7 วิธี ที่สามารถช่วยลดอาการนอนกรนได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก ทั้ง 7 วิธีที่แนะนำนี้เป็นเพียงวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้น แต่หากคุณทำตามแล้วยังมีอาการนอนกรนอยู่ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจการนอนหลับ Sleep Test และรับการรักษาอย่างถูกวิธี สัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ควรสังเกต หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อทำการวินิจฉัยและได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เพราะภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นอันตรายที่อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว การรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่ VitalSleep Clinic เรามีวิธีการรักษาอาการนอนกรนโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้ผลดี 4 วิธี ได้แก่ เป็นนวัตกรรมการรักษาที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและทางเดินหายใจให้แข็งแรง เป็นวิธีที่แพทย์แนะนำเพราะช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้ อ่านเพิ่มเติม: เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้นในขณะที่นอนหลับ โดยจะช่วยดันขากรรไกรล่างไปข้างหน้าเล็กน้อย ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการลดอาการนอนกรน อ่านเพิ่มเติม: และที่ VitalSleep Clinic คุณมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์ เพราะผลิตจากห้องแล็บที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจาก American Board of Dental Sleep Medicine จะสำหรับคนที่มีอาการกรนจากการหย่อนของกล้ามเนื้อบริเวณโคนลิ้นหรือเยื่อบุจมูก ทำให้ลมหายใจไหลเวียนได้สะดวกขึ้น โดยการรักษานี้จะต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น อ่านเพิ่มเติม: เครื่องช่วยหายใจนี้ ป้องกันทางเดินหายใจไม่ให้ปิดกั้นในขณะนอนหลับ ทำให้คุณรับออกซิเจนได้อย่างเพียงพอ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับอย่างรุนแรง อ่านเพิ่มเติม: อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่เดินทางบ่อยหรือไม่สะดวกในการพกพาเครื่อง CPAP แพทย์อาจแนะนำการใช้เครื่องมือทันตกรรมแทนเพื่อความสะดวกกับคนไข้ สรุป วิธีลดอาการนอนกรนและแนวทางรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่แนะนำโดยแพทย์เฉพาะทาง โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรม เช่น การลดน้ำหนัก, หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่, นอนหลับให้เพียงพอ, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และ เลี่ยงยาที่ทำให้กล้ามเนื้อลำคอหย่อนตัว หากอาการยังคงอยู่ ควรเข้ารับการตรวจและรักษาโดยแพทย์ เช่น การใช้เครื่องมือทันตกรรม (Oral Appliance), เครื่องช่วยหายใจ CPAP, การทำ Myofunctional Therapy หรือ การใช้คลื่นวิทยุ RF ซึ่งช่วยแก้ไขต้นเหตุของอาการ ที่ VitalSleep Clinic ยังมีเทคโนโลยีทันสมัยและแพทย์เฉพาะทางที่สามารถให้คำแนะนำและรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาว

sudden death silent danger

นอนกรน ใครจะคิดว่า “เสียงกรน” ที่ดูเหมือนเรื่องธรรมดา อาจกลายเป็นภัยเงียบที่พรากชีวิตคนที่คุณรักไปอย่างไม่รู้ตัว “ใหลตาย” (Sudden Unexpected Nocturnal Death Syndrome หรือ SUNDS) คือหนึ่งในภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในอาการนอนกรน โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (OSA) เข้าใจ “ใหลตาย” ภัยเงียบที่พรากชีวิตในยามหลับ “ใหลตาย” คือภาวะเสียชีวิตอย่างกะทันหันในขณะนอนหลับ โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดภายหลังชันสูตร มักเกิดในคนที่ดูเหมือนสุขภาพแข็งแรงดี ในกลุ่มชายวัยหนุ่มสาวในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ลาว เวียดนาม และฟิลิปปินส์สาเหตุของอาการใหลตายยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่จากการศึกษาในปัจจุบันพบว่า ผู้เสียชีวิตจำนวนมากมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ที่มีจุดร่วมสำคัญคือ “การนอนกรน” งานวิจัยที่มีความเชื่อมโยง “ใหลตาย” งานวิจัยในประเทศไทยโดย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พบว่าในกลุ่มผู้ป่วยใหลตายที่รอดชีวิต มีสัดส่วนมากถึง 80% ที่มีอาการหยุดหายใจขณะหลับขอบคุณข้อมูลจากในประเทศฟิลิปปินส์ มีรายงานว่าชายหนุ่มวัยทำงานเสียชีวิตจากอาการใหลตาย จำนวนมากมีประวัติ “นอนกรนเสียงดัง” และ “หายใจติดขัดกลางดึก”ขอบคุณข้อมูลจากการศึกษาจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ก็พบว่า OSA เพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหัวใจอย่างเฉียบพลัน รวมถึงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงในขณะหลับขอบคุณข้อมูลจาก สัญญาณที่บ่งชี้ว่าอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ กรนเสียงดังหยุดหายใจเงียบ ๆ ชั่วครู่ แล้วเฮือกสะดุ้งตื่นกลางดึก หายใจไม่ทันตื่นนอนแล้วรู้สึกไม่สดชื่นง่วงตอนกลางวัน สมาธิสั้น อารมณ์แปรปรวนปวดหัวตอนเช้า ความดันสูง เบาหวานหรือโรคหัวใจ ปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ ฟรี! https://www.youtube.com/shorts/VQlGzDh6-_Q ทำไมภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ถึงเสี่ยงต่อ “ใหลตาย”? ออกซิเจนต่ำซ้ำซากการหยุดหายใจหลายครั้งต่อคืน ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ ส่งผลต่อหัวใจและสมองอย่างรุนแรงหัวใจเต้นผิดจังหวะภาวะ OSA เพิ่มความเสี่ยงหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบventricular fibrillation ที่อาจนำไปสู่หัวใจหยุดเต้นในขณะหลับกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติภาวะออกซิเจนต่ำกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเธติก ทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจผันผวนอย่างรุนแรงสมองขาดออกซิเจนการขาดออกซิเจนในสมองซ้ำซาก อาจทำให้เกิดการชักหรือสูญเสียการควบคุมระบบสำคัญในร่างกาย แนวทางการรักษาอาการกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับเพื่อป้องกัน “ใหลตาย” การรักษาที่เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงใหลตายได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยแนวทางการรักษาแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก1. การรักษาแบบไม่ใช้เครื่องมือปรับพฤติกรรม เช่น ลดน้ำหนัก งดแอลกอฮอล์ งดยานอนหลับ นอนตะแคงฝึกการหายใจ และกล้ามเนื้อในช่องปาก (Myofunctional Therapy) ช่วยกระชับกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ2. การรักษาด้วยอุปกรณ์CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก ที่ถือเป็นมาตรฐานทองในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับOral Appliance (เครื่องมือทันตกรรม) ช่วยดันขากรรไกรล่างไปด้านหน้า เปิดทางเดินหายใจ เหมาะกับคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง3. การรักษาแบบผ่าตัดและหัตถการผ่าตัดช่องทางเดินหายใจ เช่น ตัดต่อมทอนซิล ผ่าตัดเพดานอ่อนผ่าตัดขากรรไกร (Maxillomandibular Advancement)รักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency)เลเซอร์ หรือร้อยไหมยกเพดานอ่อน สำหรับกรณีมีอาการนอนกรนที่ไม่ซับซ้อนอย่าปล่อยให้ “กรน” กลายเป็นคำบอกลาสุดท้ายเสียงกรนอาจไม่ใช่แค่เรื่องกวนใจของคนข้างเตียง แต่มันคือ “สัญญาณเตือน” โดยเฉพาะในคนที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น น้ำหนักเกิน มีคอหนา เป็นเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงการตรวจ Sleep Test คือกุญแจสำคัญ ในการวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และวางแผนรักษาได้อย่างแม่นยำบทความที่เกี่ยวข้อง สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย

CoolSwiss ลดกรนแบบไม่ต้องผ่าตัด

CoolSwiss หลายคนอาจคุ้นชื่อในนวัตกรรมด้านความงาม แต่คุณรู้ไหมว่า…สำหรับคนที่นอนกรนโดยเฉพาะจากสาเหตุ ไขมันสะสมบริเวณลำคอ

7 วิธีแก้นอนกรน

การนอนกรนไม่ใช่แค่ปัญหากวนใจของคนรอบข้างเท่านั้น แต่ยังเป็น “สัญญาณเตือน” ถึงภาวะอันตรายที่ซ่อนอยู่ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันสูง และการเสียชีวิตขณะนอนหลับได้https://youtu.be/IiQ1cbbtrOs?si=a2rxjjKPPIQWLdtu ล่าสุดในวิดีโอสัมภาษณ์โดยคุณซีมง ที่ได้เชิญคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนจาก VitalSleep Clinic มาให้ความรู้แบบเข้าใจง่าย มาอธิบายถึง 7 วิธีรักษาอาการนอนกรน ที่ได้ผลจริงปลอดภัย วิธีการรักษาทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด สรุปมาไว้ที่นี่แล้ว ก่อนรักษา ต้องเริ่มจากการ “ตรวจการนอนหลับ (Sleep Test)” คุณหมอย้ำว่าก่อนจะรักษาอาการนอนกรน ต้องเข้ารับการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นการนอนกรนแบบธรรมดาหรือมีภาวะหยุดหายใจร่วมด้วยเมื่อได้ผลตรวจการนอนหลับแล้ว แพทย์เฉพาะทางจะอ่านผล เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมอ่านข้อมูลเพิ่มเติม สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย 7 วิธีรักษานอนกรน จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 1. CPAP (Continuous Positive Airway Pressure)เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก เป็นมาตรฐานในการรักษาอาการนอนกรนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)หลักการทำงาน CPAP จะพ่นลมอย่างต่อเนื่องผ่านหน้ากากครอบจมูกหรือทั้งจมูกและปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจไม่ให้ฟีบในขณะที่กำลังหลับ ช่วยลดการสั่นของเพดานปากและการอุดกั้นที่ทำให้เกิดเสียงกรนหรือหยุดหายใจข้อดีรักษานอนกรนตั้งแต่ระดับปานกลางถึงรุนแรงได้ผลดีลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ ความดันสูง หลอดเลือดสมองเหมาะกับใครคนที่มีอาการกรนระดับเบาถึงปานกลาง หรือคนที่มี OSAอ่านเพิ่มเติม2. Oral Appliance (โปรแกรมทันตกรรมรักษานอนกรน)เครื่องมือทันตกรรมที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ใส่ในปากขณะนอนหลับหลักการทำงาน ดันขากรรไกรล่างไปด้านหน้า ช่วยเปิดพื้นที่ด้านหลังลิ้น ลดการอุดกั้นทางเดินหายใจข้อดีพกพาสะดวก ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าใช้งานง่าย น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ใช้ CPAP แล้วไม่ประสบความสำเร็จเหมาะกับใครคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับรุนแรง หรือมีโรคร่วมที่ต้องการควบคุมอาการให้แน่นอน3. Myofunctional Therapy (กายภาพกล้ามเนื้อช่องปากและใบหน้า)การบำบัดกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจและการกลืนหลักการทำงาน ฝึกกล้ามเนื้อลิ้น ริมฝีปาก เพดานอ่อน และใบหน้า เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและการควบคุมให้กับกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงข้อดีเป็นการรักษาแบบไม่ใช้เครื่อง ไม่ผ่าตัดเสริมประสิทธิภาพการใช้ Oral Appliance หรือหลังผ่าตัดป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้นในอนาคตเหมาะกับใครเด็กที่มีปัญหาหายใจทางปาก มีโครงสร้างใบหน้าผิดปกติ และผู้ใหญ่ที่เริ่มมีภาวะกรนหรือมีภาวะหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อจากอายุ4. Radio Frequency (RF) คลื่นความถี่วิทยุเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานความร้อนควบคุมระดับในการกระตุ้นเนื้อเยื่อให้หดตัวหลักการทำงาน กระตุ้นให้เพดานอ่อนและโคนลิ้นหดตัว เพิ่มความกระชับของเนื้อเยื่อ ลดการสั่นของเนื้อเยื่อขณะนอนหลับข้อดีใช้เวลาทำไม่นาน ฟื้นตัวเร็วรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัดใช้ร่วมกับ Oral Appliance หรือ CPAP เพื่อเสริมประสิทธิภาพเหมาะกับใครคนที่มีปัญหาเพดานอ่อนหย่อน พลิ้ว สั่นง่าย และมีนอนกรนไม่รุนแรง5. การผ่าตัดแก้ไขผนังกั้นโพรงจมูกคด (Septoplasty)จัดแนวผนังกั้นจมูกให้ตรง เปิดทางเดินหายใจหลักการทำงาน ผ่าตัดปรับโครงสร้างจมูกที่คดหรือมีเนื้องอกกีดขวาง เพื่อให้หายใจสะดวกขึ้นข้อดีเพิ่มประสิทธิภาพของ CPAP และการหายใจทางจมูกแก้ปัญหาการนอนอ้าปากจากการหายใจทางปากเหมาะกับใครคนที่มีโพรงจมูกตีบ จมูกคด หรือมีปัญหาหายใจทางจมูกลำบากเรื้อรัง6. การผ่าตัดเพดานอ่อนผ่าตัดเปิดทางเดินหายใจบริเวณเพดานอ่อนหลักการทำงาน ตัดหรือเย็บยกเพดานอ่อนให้กระชับขึ้น และเปิดช่องทางให้ลมหายใจผ่านสะดวกข้อดีช่วยลดเสียงกรนเหมาะกับคนที่มีโครงสร้างเพดานอ่อนหย่อนอย่างชัดเจนเหมาะกับใครคนที่แพทย์ตรวจพบว่าเกิดการอุดกั้นจากเพดานอ่อนเป็นหลัก7. การผ่าตัดขากรรไกร (Maxillomandibular Advancement หรือ MMA)ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรบน ล่าง และคางไปด้านหน้าหลักการทำงาน ขยายพื้นที่ทางเดินหายใจส่วนบน เพิ่มความตึงของกล้ามเนื้อโดยรอบ ช่วยป้องกันการยุบตัวของทางเดินหายใจขณะหลับข้อดีเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะคนที่มีโครงสร้างใบหน้าผิดปกติให้ผลลัพธ์ของการรักษาที่ยั่งยืนเหมาะกับใครคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับรุนแรง และไม่ตอบสนองต่อวิธีรักษาอื่น ๆ รวมถึงคนที่มีโครงสร้างใบหน้าร่นเล็กผิดปกติ สรุป ปัญหานอนกรนไม่ใช่แค่เสียงรบกวน แต่เป็นสัญญาณเตือนสุขภาพที่อาจซ่อนโรคอันตรายไว้เบื้องหลัง เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อารมณ์แปรปรวน ไปจนถึงสมรรถภาพทางเพศถดถอย7 วิธีรักษานอนกรน ที่ VitalSleep Clinic แนะนำ เป็นการดูแลแบบองค์รวม โดยแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการนอนหลับ ที่จะประเมินจากโครงสร้างทางเดินหายใจ พฤติกรรมการนอน ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงผลตรวจการนอนหลับ Sleep Test เพื่อออกแบบการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ปรึกษาวิธีการรักษากับเเพทย์เฉพาะทาง!

Why choose VitalSleep and Wellness
ตรวจคุณภาพการนอนหลับได้จากที่บ้าน

ตรวจการหลับ Sleep Test ที่ VitalSleep and Wellness สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดิน ทาง มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปติดตั้ง ให้ถึงที่บ้าน อ่านผลการตรวจ โดยแพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine

ลดเสียงกรนด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ที่ VitalSleep and Wellness นําเสนอแนวทางการรักษานอนกรน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ออกแบบ เฉพาะบุคคล รักษาได้ทั้ง แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด และการรักษาครอบคลุมไปถึงการรักษาอาการนอน กัดฟัน และข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ค้นหา และรักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ

เน้นการตรวจเชิงลึกหลายแนวทาง เพื่อค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุการรักษาที่แท้จริง มุ่งเน้นรักษาและบําบัดสาเหตุของการกรนที่ต้นเหตุ คือ กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ด้วย Myofunctional Therapy

แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ผสมผสาน

นําเสนอการรักษาที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคล เน้นการรักษาแบบผสมผสาน การรักษาหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครอบคลุมทุกความแตกต่างของแต่ละบุคคล

ทพ. ดร. อมรพงษ์ วชิรมน

Medical Director
แพทย์เฉพาะทางรักษานอนกรน

VitalSleep and Wellness
ดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง และนักกายภาพบําบัดวิชาชีพ
  • Polysomnography - Sleep Test ตรวจการนอนหลับ
  • เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน
  • เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก รักษานอนกรน
  • รักษาอาการ นอนกัดฟัน
  • รักษาอาการ ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ขากรรไกรมีเสียงคลิก
  • บำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น
  • ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร รักษานอนกรน
…and much more!

Promotion Sleep Test

ตรวจคุณภาพการนอนหลับ

สะดวก ง่าย ทำได้จากที่บ้าน

แพทย์เฉพาะทางอ่านผล

พิเศษ 6,900 บาท

(ปกติ 10,000 บาท)