• อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
นอนกัดฟัน
กำลังทำร้ายฟันตัวเอง
ตอนนอนอยู่หรือเปล่า?

นอนกัดฟัน

กำลังทำร้ายฟันตัวเอง
ตอนนอนอยู่หรือเปล่า?
Table of Contents

การนอนกัดฟัน หรือ Bruxism เป็นภาวะที่หลายคนอาจไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมี เพราะเกิดขึ้นตอนนอนหลับ หรือบางคนอาจเกิดขณะตื่นในช่วงที่กำลังเครียดหรือจดจ่อกับอะไรบางอย่างมากเกินไป

โดยทั่วไปการนอนกัดฟันแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ

  • การนอนกัดฟันตอนหลับ (Sleep Bruxism)
    เกิดขึ้นระหว่างการนอนหลับ โดยที่ตัวเองมักจะไม่รู้ตัว แต่คนรอบข้างอาจได้ยินเสียงฟันเสียดสีกัน
  • การกัดฟันตอนตื่น (Awake Bruxism)
    มักเกิดขึ้นในช่วงที่มีความเครียด กังวล หรือกำลังใช้สมาธิสูง เช่น ทำงาน อ่านหนังสือ หรือตอนกำลังขับรถ

แม้จะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การกัดฟันเป็นประจำส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพช่องปาก กล้ามเนื้อใบหน้า ไปจนถึงคุณภาพการนอนและสุขภาพกายโดยรวมได้เลย

สาเหตุของการนอนกัดฟัน Bruxism

  1. ความเครียดและความกังวล
    หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คนเรานอนกัดฟันก็คือ ความเครียดสะสม ไม่ว่าจะมาจากการทำงาน ปัญหาส่วนตัว หรือการเรียน เมื่อสมองเครียด ร่างกายก็อาจแสดงออกผ่านการกัดฟันตอนนอนโดยไม่รู้ตัว
  1. โครงสร้างฟันและการสบฟันผิดปกติ
    หากฟันของเราสบกันไม่พอดี (Malocclusion) หรือมีฟันซ้อน ฟันเก ก็มีโอกาสทำให้เกิดแรงเสียดทานและกัดฟันมากกว่าคนปกติ
  1. ปัจจัยทางพันธุกรรม
    งานวิจัย Genome-Wide Association Study จากกลุ่มตัวอย่างกว่า 377,277 คน พบตัวแปรพันธุกรรมที่สำคัญ (SNP) ในยีน MYO3B ที่มีความสัมพันธ์กับภาวะนอนกัดฟัน (Probable Sleep Bruxism) และเชื่อมโยงกับโรคอื่น ๆ เช่น ปวดเรื้อรัง (Pain Diagnoses), Sleep Apnea, GERD ฯลฯ
  1. คาเฟอีน แอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
    การดื่มกาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง หรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน รวมถึงการสูบบุหรี่ สามารถกระตุ้นระบบประสาทให้ทำงานมากเกินไป และเพิ่มโอกาสเกิดการนอนกัดฟันได้สูงขึ้น
  1. ความผิดปกติของการนอน เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
    คนที่มี Obstructive Sleep Apnea (OSA) มักมีอัตราการนอนกัดฟันสูงกว่าคนทั่วไป เพราะการขาดอากาศหายใจทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียด และแสดงออกผ่านการสบฟัน

อาการที่บ่งบอกว่าคุณอาจนอนกัดฟัน

  • ปวดกรามและข้อต่อขากรรไกร
    ตื่นนอนแล้วรู้สึกเจ็บเมื่ออ้าปาก เคี้ยวอาหาร หรือหาวบ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกัดฟันแรงตอนหลับ
  • ฟันสึกหรือแตกหัก
    คนที่นอนกัดฟันบ่อย ๆ จะมีร่องรอยการสึกบนผิวฟัน เคลือบฟันบางลง หรือในบางกรณีอาจถึงขั้นฟันแตก
  • ปวดหัวตอนตื่นนอน
    การเกร็งกล้ามเนื้อขากรรไกรเป็นเวลานานทำให้เกิดอาการปวดหัว โดยเฉพาะบริเวณขมับ
  • เสียงดังรบกวนคนข้าง ๆ
    คู่สมรสหรือคนในครอบครัวอาจได้ยินเสียงฟันเสียดสีกันในตอนกลางคืน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาการชี้ชัดของการนอนกัดฟัน

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการนอนกัดฟัน

จากข้อมูลใน Sleep Foundation ระบุว่าในประเทศไทยจะยังมีข้อมูลเชิงสถิติที่ชัดเจนเกี่ยวกับภาวะ นอนกัดฟัน (Bruxism) ค่อนข้างจำกัด แต่สามารถใช้ข้อมูลจากต่างประเทศมาเปรียบเทียบเพื่อประเมินแนวโน้มได้

  • วัยรุ่น (Teenagers) มีอัตราการนอนกัดฟันสูงถึงประมาณ 15%
  • วัยทำงานหรือวัยกลางคน (Middle-aged adults) อยู่ที่ราว 8%
  • ส่วนผู้สูงอายุ (Older adults) ลดลงเหลือเพียง 3%

ข้อมูลนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า นอนกัดฟันไม่ใช่เรื่องไกลตัวและพบได้ในหลายช่วงวัย แต่กลุ่มเสี่ยงหลักคือวัยรุ่นและวัยทำงาน ควรได้รับการดูแลและตรวจเช็กอย่างต่อเนื่อง

วิธีรักษาและบรรเทาการนอนกัดฟัน

1. ปรับพฤติกรรม (Behavioral Modification)

การปรับพฤติกรรม แพทย์เฉพาะทางให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีเฝ้าสังเกตพฤติกรรมการนอนกัดฟัน เช่น การสังเกตขณะตื่นหรือในช่วงกลางคืน เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น พฤติกรรมเกร็งขากรรไกร ช่วยลดการกัดฟันโดยไม่รู้ตัว

2. ใส่เฝือกสบฟัน (Splint)

ใช้ Splint ทำแบบเฉพาะบุคคล ให้ครอบบริเวณฟันบนหรือฟันล่าง

  • ป้องกันไม่ให้ฟันบน-ล่างสัมผัสกันโดยตรง
  • ลดแรงบดขบ ทำให้ลดปัญหาฟันสึก ฟันแตก หรือปวดข้อต่อขากรรไกร
  • ช่วยลดเสียงคลิกหรือความเสียหายของข้อต่อขากรรไกรในระยะยาว
นอนกัดฟัน กำลังทำร้ายฟันตัวเองตอนนอนอยู่หรือเปล่า

3. การทำ Myofunctional Therapy

การฝึกกล้ามเนื้อในช่องปากและลิ้น เพื่อปรับสมดุลการทำงานของระบบหายใจและลดการกัดฟัน เป็นการบำบัดที่ใช้การฝึกกล้ามเนื้อรอบบริเวณขากรรไกร ลิ้น และปาก ช่วยลดแรงกดที่เกิดจากการกัดฟันในขณะที่กำลังนอนหลับ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการเจ็บบริเวณขากรรไกรและฟัน

สรุป

นอนกัดฟันอาจฟังดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่จริง ๆ แล้วส่งผลต่อทั้งสุขภาพช่องปาก คุณภาพการนอน และสุขภาพโดยรวม การใส่ใจหาสาเหตุและเข้ารับการรักษาตั้งแต่แรก คือทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยป้องกันความเสียหายในระยะยาว

FAQs คำถามที่พบบ่อย

1. นอนกัดฟันอันตรายไหม?

ใช่ เพราะอาจทำให้ฟันสึก ปวดกราม และส่งผลต่อสุขภาพจิตใจในระยะยาว

2. เด็กนอนกัดฟันจำเป็นต้องรักษาหรือไม่?

บางรายหายเองเมื่อโตขึ้น แต่หากกัดแรงจนฟันสึก ควรปรึกษาทันตแพทย์

3. แก้นอนกัดฟันได้ถาวรไหม?

ขึ้นอยู่กับสาเหตุ หากเกิดจากความเครียด การปรับพฤติกรรมช่วยได้ แต่บางคนอาจต้องใช้เฝือกสบฟันควบคู่กัน

4. การดื่มกาแฟเกี่ยวข้องกับนอนกัดฟันไหม?

ใช่ คาเฟอีนสามารถกระตุ้นระบบประสาทและเพิ่มโอกาสกัดฟัน

5. ถ้าไม่รักษานอนกัดฟันจะเกิดอะไรขึ้น?

อาจทำให้ฟันสึก ฟันแตก ปวดกรามเรื้อรัง และนอนหลับไม่สนิท

Related Blogs and Articles
นอนกัดฟัน อันตรายไหม

แม้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการนอนกัดฟันที่แน่ชัดได้ แต่งานวิจัยพบว่า "ความเครียด" และ "ความวิตกกังวล" เป็นปัจจัยหลักของอาการนี้ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเรื้อรังและการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะการกระตุ้นแกน HPA (Hypothalamic-Pituitary-Adrenal axis) ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มระดับคอร์ติซอลในน้ำลาย และอาจทำให้เกิดพฤติกรรมกัดฟันซ้ำๆ ขณะนอนหลับ ข้อมูลงานวิจัยจาก PubMed Central (PMC) นอนกัดฟัน คืออะไร? นอนกัดฟัน (Bruxism) คือพฤติกรรมที่เกิดขึ้นขณะนอนหลับ โดยผู้ป่วยจะขบฟันหรือบดฟันไปมาโดยไม่รู้ตัว อาจมีเสียงกัดฟันดังจนคนข้าง ๆ สะดุ้งตื่นกลางดึก ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และคุณภาพการนอน คนที่นอนกัดฟันมักมีอาการปวดกราม ปวดข้อต่อขากรรไกรหรือปวดศีรษะตอนตื่นนอน บางรายอาจมีพฤติกรรมนอนกัดฟันมากกว่า 100 ครั้งต่อคืนด้วย เช็กอาการ จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณนอนกัดฟัน? เพราะอาการมักเกิดขณะนอนหลับโดยที่เราไม่รู้ตัว วิธีที่ดีที่สุดในการวินิจฉัย คือ “การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test)” สามารถตรวจจับการทำงานของกล้ามเนื้อขณะนอนหลับได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตอาการต่อไปนี้ได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ ผลเสียจากการนอนกัดฟัน แม้อาการจะดูไม่รุนแรงมากในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น วิธีรักษาอาการนอนกัดฟันแบบเฉพาะทางที่ VitalSleep Clinic ที่ VitalSleep Clinic เราใช้แนวทางวินิจฉัยอย่างครอบคลุม พร้อมวิธีรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อหยุดพฤติกรรมกัดฟันขณะหลับอย่างได้ผล 1. ใช้อุปกรณ์ครอบฟันกันกัดฟันเฉพาะบุคคล (Splint) หากพบว่าการนอนกัดฟันไม่ได้เกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แพทย์เฉพาะทางจะทำ Splint หรือ Night Guard แบบเฉพาะบุคคล ให้พอดีกับฟันและขากรรไกรของผู้ป่วย อ่านเพิ่มเติม 2. Myofunctional Therapy หากการนอนกัดฟันเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการกลืนผิดปกติหรือลิ้นตกขณะนอน แพทย์เฉพาะทางอาจแนะนำให้บำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจและใบหน้า (Myofunctional Therapy) อ่านเพิ่มเติม สรุป นอนกัดฟันไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ ที่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลต่อทั้งสุขภาพช่องปาก รูปหน้า ความสัมพันธ์ และคุณภาพชีวิต หากสงสัยว่าตัวเองมีอาการนอนกัดฟัน ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับ เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างตรงจุด ก่อนที่อาการจะลุกลามรุนแรงมากขึ้น

แก้นอนกรนแบบไม่ผ่าตัด 2025

แก้นอนกรนแบบไม่ผ่าตัดในปัจจุบัน การรักษาแก้ปัญหาอาการนอนกรนมีหลากหลายวิธีที่ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัด ซึ่งสามารถรักษาได้หลายวิธีพร้อมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม คือ การใช้เครื่องมือทันตกรรมสำหรับรักษานอนกรน (Oral Appliance) ที่ช่วยขยายช่องทางเดินหายใจในขณะหลับ ร่วมกับการบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าและทางเดินหายใจส่วนต้น (Myofunctional Therapy) ที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อย การรักษานี้ช่วยขยายช่องทางเดินหายใจไม่ให้แคบลง เป็นการรักษาอาการนอนกรนจากต้นเหตุ ที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาวได้อีกด้วย สาเหตุของอาการนอนกรน การนอนกรนมักมีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุ โดยสาเหตุหลักที่พบบ่อย มีดังนี้ อาจเกิดจากโครงสร้างใบหน้าที่ผิดปกติ เช่น คางสั้น กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้นไม่แข็งแรง ทำให้ลิ้นหย่อนลงไปอุดช่องทางเดินหายใจ มีไขมันสะสมบริเวณใต้คางหรือเหนียง สามารถทำให้ช่องทางเดินหายใจถูกกดทับในขณะที่กำลังนอนหลับ ทำให้เกิดอาการหยุดหายใจชั่วคราวและมีเสียงกรนเกิดขึ้น แอลกอฮอล์ทำให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนต้นและกล้ามเนื้อโคนลิ้น ช่องทางเดินหายใจก็จะเกิดการอุดกั้นที่ทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) และเสียงกรนได้ ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก อาการเสี่ยงต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาการเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าคุณอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ที่ทำให้เกิดปัญหาการนอนกรน และควรได้รับการตรวจสอบและรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญ การตรวจและการรักษานอนกรน การตรวจหาสาเหตุและระดับความรุนแรงของการนอนกรนสามารถทำได้ผ่านการตรวจการนอนหลับ Sleep Test เป็นการวัดค่าและเก็บข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับของคุณ เช่น ตรวจการนอนหลับที่บ้านกับ VitalSleep Clinic สะดวก ปลอดภัย แม่นยำ หลังจากการตรวจการนอนหลับ Sleep Test แล้ว แพทย์เฉพาะทางจะนำผลการตรวจมาใช้ในการวินิจฉัย วางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล วิธีการรักษาแก้นอนกรนแบบไม่ผ่าตัด อ่านเพิ่มเติม รักษานอนกรน แบบไม่ผ่าตัด Update 2025 ข้อด้อยของการผ่าตัดแก้นอนกรน การผ่าตัดแก้นอนกรนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ข้อดีของการรักษานอนกรนแบบไม่ผ่าตัด วิธีการรักษาแก้นอนกรนแบบไม่ผ่าตัดมีหลายทางเลือก แพทย์เฉพาะทางจะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามอาการของแต่ละบุคคล สามารถใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อรักษาได้ทั้งต้นเหตุและปลายเหตุ เช่น การใช้เครื่อง CPAP เพื่อช่วยขยายทางเดินหายใจร่วมกับการบำบัดกล้ามเนื้อ Myofunctional Therapy การรักษาที่ถูกต้องยังเป็นผลดีต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดสมอง ในกรณีที่สงสัยว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) ควรเข้ารับการตรวจการนอนหลับ Sleep Test และปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้นและส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม “รักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ Better Sleep for Better Tomorrow” สรุป วิธีการรักษาแก้นอนกรนแบบไม่ผ่าตัดในปี 2025 มีความหลากหลายและมีประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือทันตกรรม การบำบัดกล้ามเนื้อ การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ หรือการใช้เครื่อง CPAP ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีเฉพาะที่ตอบโจทย์ปัญหาอาการนอนกรนในแต่ละกรณี การเข้ารับการตรวจ Sleep Test เพื่อตรวจหาสาเหตุและระดับความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการรักษา สุขภาพการนอนที่ดีมีผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของเรา ดังนั้น หากคุณมีปัญหาการนอนกรน ควรรีบหาทางแก้ไขเพื่อสุขภาพที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

World Sleep Day 2025

World Sleep Day หรือ วันนอนหลับโลก เกิดขึ้นภายใต้สมาคมการแพทย์เพื่อการนอนหลับโลก (World Association of Sleep Medicine: WASM) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการนอนหลับที่มีคุณภาพ และตระหนักรู้ถึงความอันตรายของปัญหาการนอนหลับ เป็นการสื่อสารไปสู่ผู้คนในวงกว้างด้วยความพยายามที่จะป้องกันและบรรเทาปัญหาการนอนของคนทั้งโลก และรณรงค์ให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการหลับที่มีคุณภาพ ถูกจัดขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2551 หลังจากนั้นมีการจัดกิจกรรมขึ้นเป็นประจำทุกปี ขณะนี้มีประเทศที่เข้าร่วมกิจกรรม วันนอนหลับโลก แล้วมากกว่า 67 ประเทศทั่วโลก เปิดสถิติ คนไทยประสบปัญหาการนอนหนัก การนอนหลับ คือการพักผ่อนที่ดีที่สุดของการฟื้นฟูร่างกาย แท้จริงแล้ว การนอนหลับไม่ใช่เพียงแค่เป็นการพักผ่อนอย่างเดียวเท่านั้น มนุษย์ใช้เวลามากถึง 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอน เพื่อเติมพลังให้ชีวิตสามารถใช้ชีวิตอีก 2 ใน 3 ที่เหลือ การนอนหลับที่มีคุณภาพ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากของชีวิตมนุษย์ เพราะสุขภาพที่ดี เริ่มต้นที่การนอนหลับที่มีคุณภาพ ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คนไทยมากมึง 19 ล้านคน กำลังประสบปัญหาการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ เช่น การนอนหลับไม่สนิท หลับ ๆ ตื่น ๆ ตื่นกลางดึกบ่อยเพื่อเข้าห้องน้ำ นอนกรน หรือรุนแรงถึงหยุดหายใจขณะนอนหลับ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะพบปัญหาเหล่านี้ได้ในคนอายุน้อยลงมากขึ้น การนอนหลับที่มีคุณภาพ เป็นอย่างไร การนอนหลับที่มีคุณภาพ หรือ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงในการนอนหลับเพียงอย่างเดียว ความลึกของการนอนหลับกับเวลาเข้านอนที่เหมาะสมก็มีความสำคัญอย่างมาก หากหลับลึกไม่พอ หรือความผิดปกติระหว่างการนอนบางอย่าง อาจทำให้รู้สึกไม่สดชื่นหลังตื่นนอนในช่วงเช้า (Unrested Sleep) อาจส่งผลกระทบกับระบบความจำ ทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพ กระทบการเรียน การทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน โดยทั่วไป ระยะเวลาที่เหมาะสมในการนอนแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่สามารถอ้างอิงเวลาการนอนที่เหมาะสมสำหรับแต่ล่วงวัยได้ ดังนี้ เด็กแรกเกิด (อายุ 0-3 เดือน) = 14-17 ชั่วโมงต่อวัน เด็กทารก (อายุ 4-11 เดือน) = 12-15 ชั่วโมงต่อวัน เด็กเล็ก (อายุ 1-2 ปี) = 11-14 ชั่วโมงต่อวัน วัยอนุบาล (3-5 ปี) = 10-13 ชั่วโมงต่อวัน วัยประถม (6-13 ปี) = 9-11 ชั่วโมงต่อวัน วัยมัธยม (14-17 ปี) = 8-10 ชั่วโมงต่อวัน วัยรุ่น (18-25 ปี) = 7-9 ชั่วโมงต่อวัน วัยทำงาน (26-64 ปี) = 7-9 ชั่วโมงต่อวัน วัยชรา (65 ปีขึ้นไป) = 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เช็คลิสต์ อาการนอนหลับผิดปกติ ตื่นมาปัสสาวะบ่อยกลางดึก (Nocturnal Urination)อาจเป็นการตอบสนองของร่างกาย เกิดจากหัวใจสูบฉีดเลือดเพิ่มมากขึ้นหลังเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Bradycardia-tachycardia) เลือดไปเลี้ยงที่ไตเพิ่มขึ้น มีผลทำให้มีน้ำปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะมากขึ้นขณะนอนหลับ ในขณะเดียวกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับทำให้นอนหลับไม่ค่อยลึก จึงทำให้สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกปวดปัสสาวะได้ง่ายมีอาการง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวัน (Excessive Daytime Sleepiness)เป็นความผิดปกติที่ต้องรีบหาสาเหตุและรักษา อาจะส่งผลอันตรายในขณะขับขี่ยานพาหนะ หรือเกิดอุบัติเหตุได้ในขณะปฏิบัติงาน และอาจนำไปสู่โรคเกี่ยวกับการนอนอื่น ๆ เช่น หยุดหายใจขณะหลับ ไหลตาย Insomnia หรือ Narcolepsy และอื่นๆขาขยุกขยิก (Restless Legs)เป็นอาการที่ทำให้ต้องขยับขาไปมา เพราะรู้สึกมีความผิดปกติที่บริเวณขา จึงต้องขยับบ่อย ๆ เพื่อทำให้ความรู้สึกผิดปกติที่ขาลดลง อาการนี้มักพบได้ในช่วงเวลาค่ำ อาจพบในรายที่มีอาการโลหิตจาง (Iron deficiency) ในช่วงขณะตั้งครรภ์ (pregnancy) คนไข้โรคไตวาย (chronic renal failure) และโรคอื่น ๆปวดศีรษะหลังเพิ่งตื่นนอนตอนเช้า (Morning Headache)อาจเป็นผลมาจากที่ขณะนอนหลับไม่สามารถขับถ่าย Carbon Dioxide ออกจากร่างกายได้อย่างเหมาะสม มีผลทำให้เส้นเลือดแดงในสมองขยายตัวจาก Respiratory Acidosis จึงทำให้รู้สึกปวดศีรษะ และอาการนี้จะรุ้สึกได้มากในช่วงเวลาเช้าหลังเพิ่งตื่นนอนนอนกรน (Snoring)มีเสียงหายใจดังมาก หรือ เสียงกรนดังขณะนอนหลับ ส่งผลกระทบทั้งสุขภาพของตนเอง และอาจะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ด้วย เป็นอาการอันตราย ต้องรีบหาสาเหตุและรักษาอย่างเหมาะสม หากปล่อยไว้ไม่รักษาจะมีผลกระทบต่อสุขภาพระยะยาว เช่น Cardiovascular Problems Metabolic Syndrome ความจำเสื่อม ความดันสูง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และอื่น ๆหยุดหายใจในขณะนอนหลับ (Sleep Apnea)เป็นอาการผิดปกติของการนอนกลับที่อันตรายรุนแรง อาจส่งผลร้ายแรงถึงเสียชีวิตได้ โรคหยุดหายใจขณะหลับอาจสังเกตได้อย่างหากไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น สำลักขณะนอนหลับ (Waking up Choking) ตื่นขึ้นมากลางดึกอย่างกะทันหันเพื่อหายใจ (Waking up Gasping) Cognitive Dysfunctionsนอนไม่เพียงพอหรือมีปัญหาเรื่องการนอนหลับอาจมีผลต่อหน้าที่การทำงานของสมอง รวมทั้งความทรงจำทั้งในระยะสั้น และในระยะยาวถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การนอนหลับ ตรวจคุณภาพได้ Sleep Test (Polysomnography) หรือ การตรวจคุณภาพการนอนหลับ คือ การตรวจวัดคลื่นสมอง ระดับออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ และการหายใจระหว่างการนอนหลับ นอกจากนั้นยังตรวจจับการเคลื่อนไหวของดวงตาและการเคลื่อนไหวร่างกายบางส่วน เพื่อตรวจดูคุณภาพการนอนหลับ ค้นหาความผิดปกติของการนอน หรือ โรคที่เกี่ยวเนื่องกับการนอนบางอย่าง อาการนอนกรน หรือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นสาเหตุของโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรค สมองเสื่อม...

CoolSwiss ลดกรนแบบไม่ต้องผ่าตัด

CoolSwiss หลายคนอาจคุ้นชื่อในนวัตกรรมด้านความงาม แต่คุณรู้ไหมว่า…สำหรับคนที่นอนกรนโดยเฉพาะจากสาเหตุ ไขมันสะสมบริเวณลำคอ

7 วิธีรักษานอนกรน

วิธีรักษานอนกรนที่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังมองหาวิธีที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ เพื่อจะได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพและตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นในทุก ๆ เช้า อาการนอนกรนที่เกิดขึ้น นอกจากจะเป็นปัญหากับคนที่อยู่รอบตัวคุณแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวของคุณเองอีกด้วย ลองมาดู 7 วิธี ที่สามารถช่วยลดอาการนอนกรนได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก Sleep Foundation ทั้ง 7 วิธีที่แนะนำนี้เป็นเพียงวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้น แต่หากคุณทำตามแล้วยังมีอาการนอนกรนอยู่ หรือมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจการนอนหลับ Sleep Test และรับการรักษาอย่างถูกวิธี สัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่ควรสังเกต หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อทำการวินิจฉัยและได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เพราะภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นอันตรายที่อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว การรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่ VitalSleep Clinic เรามีวิธีการรักษาอาการนอนกรนโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้ผลดี 4 วิธี ได้แก่ เป็นนวัตกรรมการรักษาที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและทางเดินหายใจให้แข็งแรง เป็นวิธีที่แพทย์แนะนำเพราะช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้ เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้นในขณะที่นอนหลับ โดยจะช่วยดันขากรรไกรล่างไปข้างหน้าเล็กน้อย ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการลดอาการนอนกรน และที่ VitalSleep Clinic คุณมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์ เพราะผลิตจากห้องแล็บที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจาก American Board of Dental Sleep Medicine จะสำหรับคนที่มีอาการกรนจากการหย่อนของกล้ามเนื้อบริเวณโคนลิ้นหรือเยื่อบุจมูก ทำให้ลมหายใจไหลเวียนได้สะดวกขึ้น โดยการรักษานี้จะต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น เครื่องช่วยหายใจนี้ ป้องกันทางเดินหายใจไม่ให้ปิดกั้นในขณะนอนหลับ ทำให้คุณรับออกซิเจนได้อย่างเพียงพอ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่เดินทางบ่อยหรือไม่สะดวกในการพกพาเครื่อง CPAP แพทย์อาจแนะนำการใช้เครื่องมือทันตกรรมแทนเพื่อความสะดวกกับคนไข้ สรุป วิธีลดอาการนอนกรนและแนวทางรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่แนะนำโดยแพทย์เฉพาะทาง โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรม เช่น การลดน้ำหนัก, หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่, นอนหลับให้เพียงพอ, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และ เลี่ยงยาที่ทำให้กล้ามเนื้อลำคอหย่อนตัว หากอาการยังคงอยู่ ควรเข้ารับการตรวจและรักษาโดยแพทย์ เช่น การใช้เครื่องมือทันตกรรม (Oral Appliance), เครื่องช่วยหายใจ CPAP, การทำ Myofunctional Therapy หรือ การใช้คลื่นวิทยุ RF ซึ่งช่วยแก้ไขต้นเหตุของอาการ ที่ VitalSleep Clinic ยังมีเทคโนโลยีทันสมัยและแพทย์เฉพาะทางที่สามารถให้คำแนะนำและรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาว

Snoring, sleep apnea

นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับการนอนหลับ เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยไม่รู้ตัว หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการ นอนกรนร่วมกับหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) มันไม่ใช่แค่เรื่องของเสียงรบกวนระหว่างหลับเท่านั้น แต่เป็นโรคร้ายที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเสียชีวิตอย่างเงียบ ๆ โดยที่คุณไม่รู้ตัวhttps://www.youtube.com/watch?v=O6cvnSTn7lA ภาวะนอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ คืออะไร? นอนกรนเกิดจากการสั่นของเนื้อเยื่อในลำคอ อากาศที่ผ่านช่องทางเดินหายใจที่ตีบแคบในระหว่างหลับ อาจเกิดจากเพดานอ่อน โคนลิ้น หรือกล้ามเนื้อคอที่หย่อนคล้อยมาขวางลม การหายใจอาจหยุดลงชั่วขณะ และเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ตลอดคืน เรียกว่า "ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น" ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง สมองและหัวใจต้องทำงานหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัวบทความที่เกี่ยวข้อง นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ ทำไมถึงอันตราย? การหยุดหายใจซ้ำ ๆ ตลอดทั้งคืน ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนเป็นระยะ ส่งผลเสียร้ายแรงหลายด้าน เช่น- ทำให้นอนหลับไม่เต็มที่ ตื่นกลางดึก และรู้สึกไม่สดชื่นแม้จะนอนนาน- เพิ่มความเสี่ยงของ โรคร้ายแทรกซ้อน เช่นหัวใจล้มเหลว (เสี่ยงมากขึ้นถึง 140%)หลอดเลือดสมองตีบ (เสี่ยงเพิ่ม 30%)โรคหลอดเลือดหัวใจ (เพิ่มความเสี่ยง 60%)เบาหวานชนิดที่ 2 (เพิ่มความเสี่ยง 6 เท่า)ภาวะซึมเศร้า (พบในผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ2%)สมองเสื่อม (ความจำเสื่อมเร็วจากขาดออกซิเจนในสมอง)ขอบคุณข้อมูลจาก The University of Queensland​ ใครบ้างที่เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกิดได้กับทุกคน แต่มีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้บางคนมีแนวโน้มมากกว่าคนอื่น เช่นน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนไขมันรอบคออาจกดทับทางเดินหายใจ ขัดขวางการหายใจขณะหลับ (น้ำหนักขึ้นเพียง 10% เพิ่มความเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับถึง 32%)อายุที่มากขึ้นอายุมากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อในลำคอและใบหน้าหย่อนตัว เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจเพศชายมีแนวโน้มหยุดหายใจขณะหลับ มากกว่าเพศหญิงถึง 5-6 เท่า เนื่องจากโครงสร้างทางกายภาพและฮอร์โมนที่แตกต่างกันโครงสร้างใบหน้าผิดปกติคนที่มีคางเล็ก คางถอย หรือคางสั้น มีพื้นที่ช่องคอน้อยลง เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจได้มากขึ้นโรคประจำตัวคนที่เป็นเบาหวาน ความดัน หลอดเลือดหัวใจ หรือสมองเสื่อม มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปมาก โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเผชิญภาวะหยุดหายใจขณะหลับ? อาการที่พบบ่อยและควรสังเกต ได้แก่นอนกรนเสียงดังเป็นประจำหายใจติดขัดหรือหยุดหายใจขณะหลับ (สังเกตได้จากคนข้าง ๆ)ตื่นกลางดึกบ่อย มีอาการหายใจแรงหรือสะดุ้งง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวันปวดหัวตอนเช้า ไม่สดชื่นแม้นอนนานหงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน หรือมีปัญหาความจำ รับคำปรึกษา ฟรี! อย่ารอให้อันตรายมาเยือนโดยไม่รู้ตัว การนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับไม่ควรถูกมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกถึงโรคร้ายแรงในอนาคต โดยเฉพาะในคนที่มีปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมาการเข้ารับ การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นวิธีที่แม่นยำและปลอดภัยในการวินิจฉัยโรคนี้ และถ้าพบว่ามีปัญหา ก็สามารถเริ่มรักษาได้อย่างตรงจุดตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่อง CPAP, Oral Appliance, การฝึกหายใจหรือปรับพฤติกรรมการนอน และการบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย สรุป "นอนกรนหยุดหายใจขณะหลับ" ไม่ใช่แค่ปัญหาเสียงน่ารำคาญตอนกลางคืน แต่คือภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพโดยรวมของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ สมอง หรือคุณภาพชีวิต การใส่ใจและรับการวินิจฉัยตั้งแต่ต้น คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยรักษาชีวิตและอนาคตของคุณไว้

การหยุดหายใจขณะหลับ อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นภาวะผิดปกติที่สามารถนำไปสู่ภาวะสุขภาพที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีปัญหานอนกรน

Snoring increases the risk of cancer

หลายคนอาจคิดว่า “การนอนกรน” เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย แต่รู้หรือไม่ว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ซึ่งมักพบร่วมกับการกรน อาจมีความเชื่อมโยงกับ “โรคมะเร็ง”https://www.youtube.com/shorts/Qil5hs1gy5A ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ คืออะไร? ข้อมูลจากสถาบันโรคหัวใจ ปอด และโลหิตวิทยาแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NHLBI) ระบุว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นภาวะที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ จะมีช่วงที่หยุดหายใจและกลับมาหายใจซ้ำ ๆ ขณะนอนหลับ ทำให้หลับไม่สนิท นอนหลับไม่เต็มที่และรบกวนคุณภาพชีวิตในระยะยาวสาเหตุหลัก มาจากกล้ามเนื้อบริเวณลำคอที่หย่อนตัวผิดปกติ ทำให้ทางเดินหายใจอุดกั้น หากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่โรคร้ายต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง และที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ความเชื่อมโยงระหว่างการนอนกรนกับโรคมะเร็ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Athanasia Pataka จาก Aristotle University of Thessaloniki ประเทศกรีซ ได้เปิดเผยว่า ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือมีอาการกรนอย่างรุนแรง จะมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำระหว่างนอนหลับ ภาวะนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิด งานวิจัยที่ชี้ชัด มีการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างกว่า 19,000 คน (ชาย 13,767 คน หญิง 5,789 คน) พบว่าผู้ที่มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 90% ซ้ำ ๆ ในแต่ละคืน มีความเสี่ยงต่อมะเร็งมากขึ้นในกลุ่มนี้ มีผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งจำนวน 388 คน (ราว 2%)มะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงคือ มะเร็งเต้านม ส่วนผู้ชายคือ มะเร็งต่อมลูกหมากอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจคือ การหยุดหายใจขณะหลับมีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง ชัดเจนในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในคนที่มีอาการรุนแรง และมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำในช่วงกลางคืนนักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ปัจจัยทางชีววิทยาระหว่างเพศชายและหญิง เช่น ฮอร์โมน อาจเป็นตัวเร่งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง รวมถึงอิทธิพลของออกซิเจนต่ำในเลือด ซึ่งอาจกระตุ้นกระบวนการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย วิธีรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การรักษาจะเริ่มจาก การตรวจ Sleep Test เพื่อประเมินความรุนแรง จากนั้นแพทย์เฉพาะทางจะวางแผนการรักษา มีทั้งแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัดบทความที่เกี่ยวข้อง สนใจตรวจการนอนหลับ คลิกเลย การรักษาแบบไม่ผ่าตัด ยางครอบฟันช่วยเปิดทางเดินหายใจ (Oral Appliance)การทำบำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจ (Myofunctional Therapy)คลื่นความถี่วิทยุ RF จี้โคนลิ้นและเยื่อบุจมูกการใช้ CPAP การรักษาแบบผ่าตัด การผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร (Maxillomandibular Advancement)การผ่าตัดตกแต่งเพดานอ่อนและลิ้นไก่ ทำไมต้องรักษาที่ VitalSleep Clinic? แพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญมีทีมแพทย์ที่ผ่านการอบรมจากสถาบันระดับโลก พร้อมใบรับรองด้านการรักษาความผิดปกติของกล้ามเนื้อช่องปาก ใบหน้าและทางเดินหายใจเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยครอบคลุมทั้งแนวทางแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัด รวมถึง Myosa® สำหรับผู้มีปัญหานอนกัดฟันหรือข้อต่อขากรรไกรใส่ใจ ดูแลรักษาได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาวะนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ หรือปัญหาข้อต่อขากรรไกร พร้อมดูแลอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง สรุป ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงมะเร็ง โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำขณะหลับ จึงควรตรวจ Sleep Test เพื่อประเมินอาการและเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัดที่ VitalSleep Clinic พร้อมดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญ ฟรี!

โรคแทรกซ้อนจากการนอนกรน

การนอนกรนสามารถเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดร่วมกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA)

Why choose VitalSleep and Wellness
ตรวจคุณภาพการนอนหลับได้จากที่บ้าน

ตรวจการหลับ Sleep Test ที่ VitalSleep and Wellness สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดิน ทาง มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปติดตั้ง ให้ถึงที่บ้าน อ่านผลการตรวจ โดยแพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine

ลดเสียงกรนด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ที่ VitalSleep and Wellness นําเสนอแนวทางการรักษานอนกรน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ออกแบบ เฉพาะบุคคล รักษาได้ทั้ง แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด และการรักษาครอบคลุมไปถึงการรักษาอาการนอน กัดฟัน และข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ค้นหา และรักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ

เน้นการตรวจเชิงลึกหลายแนวทาง เพื่อค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุการรักษาที่แท้จริง มุ่งเน้นรักษาและบําบัดสาเหตุของการกรนที่ต้นเหตุ คือ กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ด้วย Myofunctional Therapy

แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ผสมผสาน

นําเสนอการรักษาที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคล เน้นการรักษาแบบผสมผสาน การรักษาหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครอบคลุมทุกความแตกต่างของแต่ละบุคคล

ทพ. ดร. อมรพงษ์ วชิรมน

Medical Director
แพทย์เฉพาะทางรักษานอนกรน

VitalSleep and Wellness
ดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง และนักกายภาพบําบัดวิชาชีพ
  • Polysomnography - Sleep Test ตรวจการนอนหลับ
  • เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน
  • เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก รักษานอนกรน
  • รักษาอาการ นอนกัดฟัน
  • รักษาอาการ ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ขากรรไกรมีเสียงคลิก
  • บำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น
  • ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร รักษานอนกรน
…and much more!

Promotion Sleep Test

ตรวจคุณภาพการนอนหลับ

สะดวก ง่าย ทำได้จากที่บ้าน

แพทย์เฉพาะทางอ่านผล

พิเศษ 6,900 บาท

(ปกติ 10,000 บาท)