• อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
  • อาคารพญาไท พลาซ่า
  • ชั้น 33 ติด BTS
  • สถานี พญาไท ทางออกที่ 1
ตรวจการนอนหลับ
ราคาสบายใจ
เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีกว่าเดิม

ตรวจการนอนหลับ

ราคาสบายใจ
เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีกว่าเดิม
Table of Contents

ตรวจการนอนหลับ ราคาสบายใจเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หลายคนอาจเข้าใจว่าการ “นอนไม่พอ” แค่ทำให้รู้สึกง่วงในวันถัดไป แต่ความจริงแล้ว คุณภาพการนอนหลับ การนอนอย่างเต็มที่ ส่งผลลึกถึงสุขภาพร่างกาย จิตใจ และสมองในระยะยาว การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าใจรูปแบบการนอนของคุณอย่างแท้จริง เพื่อวางแผนรักษาและปรับพฤติกรรมให้หลับลึก หลับดีขึ้น และเพื่อสุขภาพที่ดี

ทำไมควรตรวจการนอนหลับ?

การนอนหลับไม่ดี หรือการนอนไม่พอ ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมันอาจเป็นสัญญาณของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) หรือปัญหาทางเดินหายใจอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อหัวใจ สมอง และระดับพลังงานในแต่ละวัน

คุณควรเข้ารับการตรวจการนอนหลับ หากมีอาการเหล่านี้ :

  • กรนเสียงดัง
  • มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA)
  • รู้สึกง่วงในตอนกลางวัน แม้นอนครบ 7–8 ชั่วโมง ก็ตาม
  • ปวดศีรษะตอนเช้า คอแห้ง หรือตื่นกลางดึกบ่อย
  • มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน หรือโรคหัวใจ
  • รู้สึกหลับไม่เต็มอิ่มติดต่อกันนานจนเกินไป

รู้หรือไม่? การนอนไม่พอเพิ่มโอกาสเกิดโรคหัวใจเกือบสองเท่า

งานวิจัยจาก Harvard Health Publishing ระบุว่า การนอนหลับไม่เพียงพอเพียง 5–6 ชั่วโมงต่อคืน อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคเบาหวานได้มากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่นอนหลับอย่างเพียงพอ (7–8 ชั่วโมงต่อคืน) โดยพบว่าการนอนน้อยส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ
และเพิ่มภาระการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว

ตรวจการนอนหลับ ราคาสบายใจ ที่ VitalSleep Clinic

ที่ VitalSleep Clinic เราเชื่อว่า “คุณภาพการนอน” คือรากฐานของสุขภาพที่ดีทุกด้าน เราจึงออกแบบบริการ ตรวจการนอนหลับราคาสบายใจ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการดูแลที่ได้มาตรฐานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

จุดเด่นของการตรวจการนอนกลับที่ VitalSleep Clinic :

  • เครื่องตรวจมาตรฐานการแพทย์ (Home Sleep Test)
  •  วิเคราะห์ผลโดยแพทย์เฉพาะทางด้าน Sleep Medicine
  • สะดวก ทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • มีการติดตามและให้คำแนะนำหลังตรวจ

ตรวจการนอนหลับ วัดค่าอะไรบ้าง?

การตรวจจะช่วยให้เข้าใจ “พฤติกรรมการนอน” และ “คุณภาพการหายใจ” ระหว่างหลับ ผ่านค่าต่าง ๆ เช่น

รายการตรวจ, รายละเอียดที่ได้จากผล Sleep Test

  • ระดับออกซิเจนในเลือด (O₂ Saturation) บอกว่าระหว่างนอน ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอหรือไม่
  • อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) ตรวจสอบความผิดปกติของหัวใจระหว่างหลับ
  • รูปแบบการหายใจ (Respiratory Effort) ตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)
  • การเคลื่อนไหวระหว่างนอน (Body Movement) ดูความกระสับกระส่าย ซึ่งอาจรบกวนการหลับลึก
  • เสียงกรน (Snoring Level), วัดความรุนแรงและความถี่ของเสียงกรน

ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์ เพื่อดูว่าคุณมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการดูแลหรือไม่

การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) ต้องตรวจบ่อยแค่ไหน

สำหรับผู้ที่เคยทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) มาแล้ว แนะนำให้ ตรวจซ้ำทุก 2–3 ปี เพื่อประเมินผลการรักษาและติดตามพัฒนาการของคุณภาพการนอน ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยตรวจมาก่อน ควรพิจารณา เข้ารับการตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ทางเดินหายใจมักเกิดการย่อนคล้อยตามธรรมชาติ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการหายใจระหว่างนอนหลับ การตรวจอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สามารถรักษาและปรับปรุงสุขภาพการนอนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อคงคุณภาพการนอนและสุขภาพโดยรวมให้อยู่ในระดับดีที่สุด

จะเป็นอย่างไร ถ้าปล่อยให้การนอนไม่มีคุณภาพต่อไป?

การนอนหลับไม่ดีอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดผลเสียดังนี้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ป่วยง่ายความดันโลหิตสูง และหัวใจทำงานหนัก สมาธิลดลง ความจำเสื่อมเสี่ยงโรคเบาหวาน น้ำหนักเพิ่มภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และอารมณ์แปรปรวน จากรายงานของ Harvard Health ผู้ที่นอนไม่พอ 24 ชั่วโมง มีสมรรถนะทางสมองเทียบเท่าคนที่มีแอลกอฮอล์ในเลือด 0.10%

เมื่อการนอนหลับดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น

การนอนที่มีคุณภาพช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่สมองปลอดโปร่ง อารมณ์มั่นคง ระบบหัวใจแข็งแรง และยังช่วยควบคุมน้ำหนักและระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ผลการนอนหลับที่ดีจึงหมายถึง “สุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น” เริ่มต้นง่าย ๆ แค่ตรวจการนอนหลับ เพื่อเข้าใจร่างกายตัวเองให้มากขึ้น

ผลกระทบเมื่อร่างกายไม่ได้รับการผักผ่อนอย่างเต็มที่

ลักษณะการนอนผลกระทบต่อร่างกายผลกระทบต่อสมองและอารมณ์ผลกระทบระยะยาว
อดนอน 24 ชั่วโมงขึ้นไปความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติสมองล้า การตัดสินใจช้าลง สมาธิสั้น เหมือนอาการเมาเสี่ยงอุบัติเหตุสูง ภูมิคุ้มกันลดลง
นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน ร่างกายสะสม “หนี้การนอน” อ่อนเพลียเรื้อรังความจำสั้นลง อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า วิตกกังวลเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน
นอนหลับไม่ลึก / หลับๆ ตื่นๆฮอร์โมนเมลาโทนินหลั่งไม่เพียงพอ ร่างกายไม่ฟื้นฟูเต็มที่สมาธิและความคิดสร้างสรรค์ลดลงเสี่ยงภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และการอักเสบในร่างกาย
เวลานอนผิดช่วง (นอนดึกเป็นประจำ)นาฬิกาชีวภาพเสียสมดุล ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงผิดปกติอารมณ์หงุดหงิดง่าย เครียดสะสมเพิ่มโอกาสเกิดภาวะเมตาบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome)
นอนไม่มีคุณภาพจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)ออกซิเจนในเลือดต่ำ หัวใจทำงานหนักตื่นกลางคืนบ่อย ง่วงตอนกลางวันเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดเฉียบพลัน

สรุป

“การนอนหลับ” ไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่คือกระบวนการฟื้นฟูที่สำคัญที่สุดของชีวิต การตรวจการนอนหลับราคาสบายใจที่ VitalSleep Clinic จึงเป็นก้าวแรกในการเข้าใจสุขภาพของคุณอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้หลับดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น และมีชีวิตที่เต็มพลังทุกวัน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: การตรวจการนอนหลับต้องไปตรวจที่ Clinic อย่างเดียวไหม ?
 A: ไม่จำเป็น สามารถตรวจการนอนหลับได้ที่บ้าน

Q: ตรวจการนอนหลับ เหมาะกับใคร?
 A: เหมาะกับผู้ที่กรน ง่วงตอนกลางวัน หรือสงสัยว่าตัวเองมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

Q: ถ้าพบว่ามีปัญหาต้องทำอย่างไร?
 A: แพทย์จะให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล เช่น การปรับท่านอน ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ (CPAP) หรืออุปกรณ์ในช่องปาก (Oral Appliance)

Q: เด็กสามารถตรวจการนอนหลับได้ไหม?
 A: ได เด็กที่มีอาการนอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ หรือมีพฤติกรรมง่วงผิดปกติในตอนกลางวัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจแนะนำให้ตรวจเพื่อประเมินภาวะทางเดินหายใจและพัฒนาการ

Related Blogs and Articles
หลับๆ ตื่นๆ นอนไม่พอ

การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากคุณหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือนอนไม่พอ ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ

การรักษานอนกรน ด้วยเครื่องCPAP

ปัญหาอาการนอนกรนเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในคนจำนวนมาก โดยบางคนอาจมองว่าอาการนอนกรนเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องให้ความสนใจมากนัก แต่ในความเป็นจริงภาวะนอนกรนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เสียงรบกวนเวลานอนหลับเท่านั้น มันยังเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงและอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตได้ภาวะการนอนกรนมักเกี่ยวข้องกับปัญหาการหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) อาจทำให้เกิดอาการหยุดหายใจชั่วขณะในระหว่างการนอนหลับ ภาวะนี้ส่งผลต่อการนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย หากปล่อยไว้ไม่รักษาอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต แม้แต่ความเสี่ยงในการเสียชีวิตเฉียบพลันในปัจจุบัน วิธีการรักษาภาวะนอนกรนมีอยู่หลายวิธี หนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางคือการใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) โดยเครื่อง CPAP นี้ทำหน้าที่ส่งแรงดันลมเข้าไปเปิดทางเดินหายใจในขณะหลับ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถหายใจได้อย่างราบรื่น แต่หลายคนอาจพบปัญหาว่าเครื่อง CPAP นั้นมีราคาที่สูง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงความยุ่งยากในการใช้งานที่อาจทำให้รู้สึกไม่สะดวก แล้วจะทำอย่างไร หากการรักษาด้วยเครื่อง CPAP มีราคาสูงเกินไป บทความนี้จะแนะนำวิธีการรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับในทางเลือกอื่น ๆ ที่สามารถทดแทนเครื่อง CPAP ได้ นอนกรนเกิดขึ้นได้อย่างไร? อาการนอนกรนเกิดขึ้นเมื่อทางเดินหายใจถูกอุดกั้นบางส่วนในขณะหลับ เมื่อเรานอนหลับ กล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกายจะคลายตัวลง รวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณคอ เพดานอ่อน และโคนลิ้น เมื่อกล้ามเนื้อเหล่านี้หย่อนคล้อยลง อาจไปขัดขวางทางเดินหายใจ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง เกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ซึ่งทำให้เกิดเสียงกรนขึ้น อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนอนกรนคืออายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อเรามีอายุที่มากขึ้น กล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกายก็เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น รวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจ ซึ่งทำให้เกิดการหย่อนคล้อยและปิดกั้นการหายใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ภาวะนอนกรนยังสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น น้ำหนักตัวที่มากเกินไป การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ปรึกษาปัญหานอนกรน ฟรี! ทำไมการนอนกรนจึงควรรักษา? แม้ว่าการนอนกรนอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การอานอนกรนที่เกิดร่วมกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับถือว่าเป็นปัญหาสุขภาพที่ควรให้ความสนใจอย่างยิ่ง การหยุดหายใจขณะหลับทำให้ร่างกายและสมองขาดออกซิเจนในระหว่างการนอนหลับ ซึ่งอาจทำให้คุณภาพการนอนหลับลดลง ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าในระหว่างวัน รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคสมองเสื่อมนอกจากนี้ การขาดออกซิเจนยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองโดยตรง ทำให้การประมวลผลข้อมูล การคิดวิเคราะห์ และความจำเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาด้านความจำและสมาธิ รวมถึงมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาการเหล่านี้จะทวีความรุนแรงขึ้นและอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ นอนกรนต้องการปรึกษา ฟรี! เครื่อง CPAP ช่วยรักษาภาวะนอนกรนอย่างไร? เครื่อง CPAP เป็นเครื่องช่วยหายใจที่ใช้สำหรับรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ โดยหลักการทำงานของเครื่องคือการส่งแรงดันลมเข้าไปในทางเดินหายใจเพื่อเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถหายใจได้สะดวกในขณะหลับ เครื่อง CPAP มักใช้ร่วมกับหน้ากากที่สวมใส่บริเวณจมูกหรือปากเพื่อส่งแรงดันลมเข้าสู่ร่างกายแม้ว่าเครื่อง CPAP จะมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาภาวะนอนกรน แต่เครื่องนี้มีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาที่สูง ค่าเครื่อง CPAP บางรุ่นอาจมีราคาสูงถึงหลักแสนบาท เครื่องก็ยังมีขนาดใหญ่ ต้องใช้ไฟฟ้า อาจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกอึดอัดหรือไม่สะดวกสบายในขณะหลับ การรักษานอนกรนแบบไม่ต้องพึ่ง CPAP หากเครื่อง CPAP มีราคาสูงเกินไปและไม่สะดวกในการใช้งาน ยังมีวิธีการรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับในทางเลือกอื่นๆ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้เช่นกัน ดังนี้1. อุปกรณ์ทางทันตกรรม (Oral Appliance)อุปกรณ์ทางทันตกรรมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาให้สวมใส่ในปากในระหว่างการนอนหลับ โดยมีลักษณะคล้ายกับเครื่องครอบฟัน อุปกรณ์นี้ช่วยขยับกรามหรือโคนลิ้นไปด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นขณะหลับข้อดีของอุปกรณ์ทางทันตกรรม คือ มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังถูกออกแบบเฉพาะบุคคลตามขนาดช่องปากของผู้ใช้งาน ทำให้ใช้งานได้ง่ายและไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อเทียบกับเครื่อง CPAP อุปกรณ์ทางทันตกรรมยังเป็นวิธีการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าและสะดวกสบายกว่าการใช้เครื่อง CPAP2. การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RF)การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ การรักษานี้ใช้คลื่นความถี่วิทยุในการทำให้เนื้อเยื่อบริเวณโคนลิ้น เพดานอ่อน และเนื้อเยื่อในลำคอหดตัวแล้วก็กระชับขึ้น ลดการหย่อนคล้อยที่อาจปิดกั้นทางเดินหายใจวิธีการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เวลานาน เพียงครั้งละประมาณ 15 นาที ไม่เจ็บปวดมากเหมือนการผ่าตัด ผลลัพธ์ของการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุสามารถเห็นได้ชัดเจน มีความคงทนเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ยังเป็นวิธีที่ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ในขณะหลับ3. การบำบัดด้วยกล้ามเนื้อ (Myofunctional Therapy)การบำบัดกล้ามเนื้อใบหน้าและลำคอเป็นวิธีการรักษาที่เน้นไปที่การฝึกกล้ามเนื้อบริเวณลิ้น เพดานอ่อน และลำคอ เพื่อให้กล้ามเนื้อเหล่านี้ทำงานได้อย่างถูกต้อง มีความกระชับยิ่งขึ้น การฝึกบำบัดนี้สามารถช่วยลดการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจและลดอาการนอนกรนได้การบำบัดกล้ามเนื้อนั้นอาจรวมถึงการฝึกกล้ามเนื้อลิ้นให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ฝึกการหายใจที่ถูกต้อง การออกกำลังกายกล้ามเนื้อเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันการหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อบริเวณทางเดินหายใจข้อดีของการบำบัดด้วยกล้ามเนื้อ คือ เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใด ๆ นอกจากนี้ การฝึกฝนสามารถทำได้เองที่บ้านหลังจากได้รับคำแนะนำจากนักบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม การบำบัดกล้ามเนื้ออาจต้องใช้เวลาและความอดทนในการฝึกฝน แต่ก็เป็นวิธีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพในระยะยาว รับคำปรึกษา ฟรี! 4. การลดน้ำหนักการมีน้ำหนักตัวที่เกินเกณฑ์เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ เนื่องจากไขมันสะสมบริเวณลำคออาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลง การลดน้ำหนักเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดอาการนอนกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือน้ำหนักตัวมากนอกจากการลดน้ำหนักจะช่วยลดอาการนอนกรนแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม เช่น ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน การควบคุมน้ำหนักทำได้โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ควรบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย5. การผ่าตัด (Surgical Treatment)ในกรณีที่ภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับมีความรุนแรงและไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ได้ การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ การผ่าตัดจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงโครงสร้างของทางเดินหายใจ เช่น การตัดเนื้อเยื่อเพดานอ่อน การตัดต่อมทอนซิล ลดขนาดของโคนลิ้น เพื่อเพิ่มความกว้างของทางเดินหายใจและลดการอุดกั้นการผ่าตัดมักเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางกายภาพ เช่น มีเนื้อเยื่อเพดานอ่อนที่หย่อนคล้อยมากเกินไป มีโครงสร้างทางเดินหายใจที่แคบตั้งแต่กำเนิด อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดมีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีอื่น ๆ แต่อาจมีผลข้างเคียง เช่น การเจ็บคอหรือการอักเสบหลังการผ่าตัด ปรับพฤติกรรมการนอน นอกจากการใช้วิธีการรักษาต่าง ๆ การปรับพฤติกรรมการนอน ก็สามารถช่วยลดอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับได้ เช่นการนอนในท่านอนตะแคง การนอนหงายอาจทำให้ลิ้นและเพดานอ่อนตกไปขัดขวางทางเดินหายใจ การนอนในท่านอนตะแคงสามารถช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้นและลดอาการนอนกรนการหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนทำให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจหย่อนคล้อยลง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้เกิดการอักเสบและระคายเคืองในทางเดินหายใจ การเลิกบุหรี่สามารถช่วยลดการอักเสบและป้องกันการอุดกั้นทางเดินหายใจ บทสรุป ภาวะนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมันสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แม้ว่าเครื่อง CPAP จะเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของราคา ความสะดวกในการใช้งาน หากเครื่อง CPAP มีราคาสูงเกินไปสำหรับผู้ที่ต้องการรักษา ยังมีทางเลือกอื่น ๆ อีกที่สามารถช่วยบรรเทาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์ทางทันตกรรม การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ การบำบัดกล้ามเนื้อ แม้แต่การปรับพฤติกรรมการนอนการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเอง เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะแต่ละคนอาจมีสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการนอนกรนที่แตกต่างกัน การรักษาภาวะนอนกรนไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงและทำให้ชีวิตมีความสุข สุขภาพโดยรวมดีมากขึ้น ปรึกษาปัญหากับแพทย์เฉพาะทาง!

snoring test

ตรวจการนอนกรน ราคาเหมาะสม คุ้มค่าในการดูแลสุขภาพ ช่วยวิเคราะห์คุณภาพการนอน ลดความเสี่ยงโรคแทรกซ้อน เข้าใจร่างกายอย่างแท้จริง

แก้นอนกรน ด้วย myofunctional therapy

การนอนกรน เป็นปัญหาการนอนที่พบได้บ่อยและส่งผลต่อทั้งคนที่นอนกรนและคนรอบข้าง แม้ว่าจะมีวิธีการรักษานอนกรนหลายรูปแบบ แต่ Myofunctional Therapy

เครื่องช่วยหายใจนอนกรน

หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินถึงวิธีการรักษาอาการนอนกรนที่มีหลากหลายรูปแบบ ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงเครื่องช่วยหายใจสำหรับคนนอนกรน

วิธีทำให้นอนหลับ

หลายคนกำลังมีปัญหานอนไม่หลับ หลับยาก หรือหลับไม่ลึก ส่งผลให้ตื่นมาแล้วรู้สึกเพลีย หงุดหงิด และทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

นอนกัดฟัน อันตรายไหม

แม้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการนอนกัดฟันที่แน่ชัดได้ แต่งานวิจัยพบว่า "ความเครียด" และ "ความวิตกกังวล" เป็นปัจจัยหลักของอาการนี้ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเรื้อรังและการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะการกระตุ้นแกน HPA (Hypothalamic-Pituitary-Adrenal axis) ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มระดับคอร์ติซอลในน้ำลาย และอาจทำให้เกิดพฤติกรรมกัดฟันซ้ำๆ ขณะนอนหลับ ข้อมูลงานวิจัยจาก PubMed Central (PMC) นอนกัดฟัน คืออะไร? นอนกัดฟัน (Bruxism) คือพฤติกรรมที่เกิดขึ้นขณะนอนหลับ โดยผู้ป่วยจะขบฟันหรือบดฟันไปมาโดยไม่รู้ตัว อาจมีเสียงกัดฟันดังจนคนข้าง ๆ สะดุ้งตื่นกลางดึก ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และคุณภาพการนอน คนที่นอนกัดฟันมักมีอาการปวดกราม ปวดข้อต่อขากรรไกรหรือปวดศีรษะตอนตื่นนอน บางรายอาจมีพฤติกรรมนอนกัดฟันมากกว่า 100 ครั้งต่อคืนด้วย เช็กอาการ จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณนอนกัดฟัน? เพราะอาการมักเกิดขณะนอนหลับโดยที่เราไม่รู้ตัว วิธีที่ดีที่สุดในการวินิจฉัย คือ “การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test)” สามารถตรวจจับการทำงานของกล้ามเนื้อขณะนอนหลับได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตอาการต่อไปนี้ได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ ผลเสียจากการนอนกัดฟัน แม้อาการจะดูไม่รุนแรงมากในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น วิธีรักษาอาการนอนกัดฟันแบบเฉพาะทางที่ VitalSleep Clinic ที่ VitalSleep Clinic เราใช้แนวทางวินิจฉัยอย่างครอบคลุม พร้อมวิธีรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อหยุดพฤติกรรมกัดฟันขณะหลับอย่างได้ผล 1. ใช้อุปกรณ์ครอบฟันกันกัดฟันเฉพาะบุคคล (Splint) หากพบว่าการนอนกัดฟันไม่ได้เกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แพทย์เฉพาะทางจะทำ Splint หรือ Night Guard แบบเฉพาะบุคคล ให้พอดีกับฟันและขากรรไกรของผู้ป่วย อ่านเพิ่มเติม 2. Myofunctional Therapy หากการนอนกัดฟันเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการกลืนผิดปกติหรือลิ้นตกขณะนอน แพทย์เฉพาะทางอาจแนะนำให้บำบัดกล้ามเนื้อทางเดินหายใจและใบหน้า (Myofunctional Therapy) อ่านเพิ่มเติม สรุป นอนกัดฟันไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ ที่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลต่อทั้งสุขภาพช่องปาก รูปหน้า ความสัมพันธ์ และคุณภาพชีวิต หากสงสัยว่าตัวเองมีอาการนอนกัดฟัน ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับ เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างตรงจุด ก่อนที่อาการจะลุกลามรุนแรงมากขึ้น

ตรวจการนอนหลับ

เหนื่อยแม้นอนเต็มคืน อาจเกิดจากคุณภาพการนอนที่ไม่สมดุล วงจรหลับลึกและ REM Sleep สั้นลง ตรวจการนอนหลับช่วยค้นหาสาเหตุได้

Why choose VitalSleep and Wellness
ตรวจคุณภาพการนอนหลับได้จากที่บ้าน

ตรวจการหลับ Sleep Test ที่ VitalSleep and Wellness สะดวก ง่าย ไม่ต้องเดิน ทาง มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปติดตั้ง ให้ถึงที่บ้าน อ่านผลการตรวจ โดยแพทย์เฉพาะทาง Dental Sleep Medicine

ลดเสียงกรนด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ที่ VitalSleep and Wellness นําเสนอแนวทางการรักษานอนกรน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ออกแบบ เฉพาะบุคคล รักษาได้ทั้ง แบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด และการรักษาครอบคลุมไปถึงการรักษาอาการนอน กัดฟัน และข้อต่อขากรรไกรอักเสบ

ค้นหา และรักษานอนกรน ที่ต้นเหตุ

เน้นการตรวจเชิงลึกหลายแนวทาง เพื่อค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุการรักษาที่แท้จริง มุ่งเน้นรักษาและบําบัดสาเหตุของการกรนที่ต้นเหตุ คือ กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น ด้วย Myofunctional Therapy

แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ผสมผสาน

นําเสนอการรักษาที่หลากหลาย ออกแบบเฉพาะบุคล เน้นการรักษาแบบผสมผสาน การรักษาหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ครอบคลุมทุกความแตกต่างของแต่ละบุคคล

ทพ. ดร. อมรพงษ์ วชิรมน

Medical Director
แพทย์เฉพาะทางรักษานอนกรน

VitalSleep and Wellness
ดูแลโดย แพทย์เฉพาะทาง และนักกายภาพบําบัดวิชาชีพ
  • Polysomnography - Sleep Test ตรวจการนอนหลับ
  • เครื่องมือทันตกรรม รักษานอนกรน
  • เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก รักษานอนกรน
  • รักษาอาการ นอนกัดฟัน
  • รักษาอาการ ข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ขากรรไกรมีเสียงคลิก
  • บำบัดกล้ามเนื้อใบหน้า และทางเดินหายใจส่วนต้น
  • ผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร รักษานอนกรน
…and much more!