ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) คืออาการที่ร่างกายหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ระหว่างการนอนหลับ โดยที่ไม่รู้ตัว ปัญหานี้เกิดจากทางเดินหายใจส่วนบนถูกปิดกั้น ทำให้ลมหายใจไม่สามารถผ่านได้ตามปกติ ส่งผลให้ร่างกายขาดออกซิเจนเป็นระยะ ๆ ถ้าเกิดซ้ำบ่อย ๆ จะรบกวนคุณภาพการนอนและทำลายสุขภาพในระยะยาวได้
ชนิดของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่สามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้
1. Obstructive Sleep Apnea (OSA)
- เกิดจากกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณคอหย่อนตัว ทำให้ทางเดินหายใจส่วนบนถูกปิดกั้นชั่วคราว
- คนที่เป็นจะนอนกรนเสียงดัง สะดุ้งตื่น หรือมีอาการหายใจติดขัดตอนกลางคืน
- มักจะเกี่ยวข้องกับโรคอ้วน น้ำหนักเกิน หรือโครงสร้างทางกายภาพของคอและใบหน้า
บทความจาก Verywell Health ระบุว่า Obstructive Sleep Apnea (OSA) คือประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดจากกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อรอบลำคอหย่อน ทำให้ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นช่วงสั้น ๆ ขณะหลับ
2. Central Sleep Apnea (CSA)
- ไม่ได้เกิดจากการอุดกั้น แต่เกิดจากสมองไม่ส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อหายใจ
- ทำให้หยุดหายใจโดยที่ทางเดินหายใจยังเปิดอยู่
- มักพบในคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจล้มเหลว หรือมีภาวะทางระบบประสาทบางอย่าง
รายงานวิเคราะห์เชิงบรรณานุกรม (Bibliometric analysis) Research trends and hotspots of central sleep apnea บ่งชี้ว่าในช่วงปี 2004–2025 งานวิจัยเกี่ยวกับ CSA เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในด้านความสัมพันธ์กับภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart failure), กลไกของระบบหายใจ, และแนวทางการจัดการทางคลินิก เช่น การใช้ Adaptive servo-ventilation หรือการกระตุ้นเส้นประสาท Phrenic nerve
3. Mixed Sleep Apnea
- เป็นการผสมกันระหว่าง OSA และ CSA
- คนที่เป็นอาจเริ่มจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ (OSA) และตามมาด้วยการที่สมองไม่ส่งสัญญาณหายใจ (CSA)
- การรักษามักซับซ้อนกว่าและต้องอาศัยการตรวจ Sleep Test เพื่อวินิจฉัยที่ชัดเจน
มีงานวิจัยจาก PubMed ชี้ว่า Mixed apnea มักอยู่ในกลุ่มผู้ชายที่อ้วนหรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน มีอาการง่วงตอนกลางวันมาก ค่า AHI สูง และไขมันในเลือดสูงกว่า และยังคาดการณ์การมี Mixed apnea ได้ดี
อาการที่พบได้บ่อย
- มีอาการนอนกรนเสียงดัง
สัญญาณเตือนที่หลายคนมองข้าม อาการนอนกรนที่ดังและต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ OSA
- สะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะหายใจไม่ออก
ในบางคนจะรู้สึกเหมือนหายใจติดขัด ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพื่อหายใจ
- มีอาการง่วงนอนตอนกลางวัน
เพราะคุณภาพการนอนที่ไม่ดี ทำให้นอนทั้งคืนแต่ยังรู้สึกไม่สดชื่น ง่วงง่ายระหว่างวัน และขาดสมาธิ
- สมาธิสั้น ความจำลดลง
การที่สมองขาดออกซิเจนเป็นช่วง ๆ ทำให้สมองของเราทำงานได้ไม่เต็มที่ ความจำสั้นลง และมีสมาธิเรียนรู้ได้ยากขึ้น
- ปัญหาทางอารมณ์และสุขภาพจิต
ในบางคนมีอาการหงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า หรือวิตกกังวล เพราะร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
วิธีการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
1. การปรับพฤติกรรม (Lifestyle Modification)
สำหรับคนที่มีอาการไม่รุนแรง แพทย์มักแนะนำให้ปรับวิถีชีวิตก่อน เช่น
- ลดน้ำหนัก
เพราะไขมันบริเวณรอบลำคอและช่องคอมีผลทำให้ทางเดินหายใจแคบ
- งดแอลกอฮอล์และยานอนหลับ
สารเหล่านี้ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณลำคอหย่อนยานมากขึ้น
- เลิกสูบบุหรี่
ลดการอักเสบและบวมของเยื่อบุทางเดินหายใจ
- นอนตะแคง
ช่วยลดการอุดกั้นเมื่อเทียบกับการนอนหงาย
2. การใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure)
- เป็นมาตรฐานการรักษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด
- เครื่อง CPAP จะเป่าลมเข้าไปในทางเดินหายใจอย่างต่อเนื่อง ช่วยเปิดทางเดินหายใจไม่ให้ยุบตัว
- คนที่ใช้สม่ำเสมอมักรายงานว่าความง่วงกลางวันลดลง คุณภาพชีวิตดีขึ้น
3. การใช้อุปกรณ์ในช่องปาก Oral Appliance
- ลักษณะคล้ายเฝือกฟันที่ทำขึ้นเฉพาะบุคคล
- ช่วยดันขากรรไกรล่างและลิ้นไปด้านหน้า ทำให้ช่องคอเปิดกว้างขึ้น
- เหมาะสำหรับคนที่มีอาการระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง หรือไม่สามารถใช้ CPAP ได้
4. การทำกายภาพบำบัดช่องปากและลิ้น Myofunctional Therapy
- เป็นการฝึกกล้ามเนื้อบริเวณลิ้น เพดานอ่อน และกล้ามเนื้อรอบทางเดินหายใจ
- งานวิจัยพบว่าช่วยลดอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับได้ โดยเฉพาะในเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอาการไม่รุนแรง
5. โปรแกรม Emface ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า ช่วยสลายไขมันรอบคอและเหนียง
- ลดการหย่อนคล้อยที่อาจกดทับทางเดินหายใจ
- กระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าและลำคอให้แข็งแรงขึ้น
- ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
บทความที่เกี่ยวข้อง | นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ โรคร้ายที่อาจพรากชีวิตโดยไม่รู้ตัว
บทสรุป
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญกับมันอยู่ แต่หากสังเกตอาการให้ดี เช่น กรนเสียงดัง ง่วงนอนมากผิดปกติ หรือสะดุ้งตื่นกลางดึก ก็ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางและตรวจการนอนหลับ Sleep Test ทันที เพราะการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง และทำให้ชีวิตคุณกลับมามีคุณภาพที่ดีอีกครั้ง
FAQs เกี่ยวกับภาวะหยุดหายใจขระหลับ
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับรักษาหายขาดได้หรือไม่?
ในบางรายสามารถดีขึ้นหรือหายขาดได้หากควบคุมน้ำหนักและปรับพฤติกรรม แต่ในหลายกรณียังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือวิธีรักษาอื่นร่วมด้วย
- ถ้าแค่กรนแต่ไม่หยุดหายใจ ถือว่าอันตรายไหม?
การกรนเพียงอย่างเดียวอาจไม่อันตราย แต่เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะกรนรุนแรงมีโอกาสพัฒนาไปสู่ OSA ได้
- ตรวจภาวะหยุดหายใจขณะหลับต้องทำอย่างไร?
สามารถเข้ารับการตรวจการนอนหลับแบบ Home Sleep Test ที่ VitalSleep Clinic เพื่อวิเคราะห์คุณภาพการนอนและการหายใจ
- เด็กเล็กสามารถมีภาวะนี้ได้หรือไม่?
เด็กก็มีโอกาสเป็น OSA ได้ โดยเฉพาะถ้ามีต่อมทอนซิลโต หรือโครงสร้างทางเดินหายใจผิดปกติ
- ถ้ารักษาแล้วไม่ใช้ CPAP จะมีทางเลือกอื่นหรือเปล่า?
มี เช่น การใช้อุปกรณ์ในช่องปาก การผ่าตัด หรือการทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อลิ้น ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด


