อาการไหลตาย หรือ Sudden Unexpected Death During Sleep คือ การเสียชีวิตอย่างกะทันหันในขณะหลับ โดยอาการเหล่านี้มักถูกพบในคนที่มี ความผิดปกติของหัวใจหรือระบบทางเดินหายใจแฝงอยู่โดยไม่รู้ตัว
ในหลายกรณี การเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากการหลับ “ลึกเกินไป” แต่เกิดจาก กลไกภายในร่างกายที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดเต้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือ OSA
รายงานของ American Heart Association ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ กับโรคหัวใจ และรายงานว่าผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) รุนแรง มีความเสี่ยงเพิ่มต่อการเสียชีวิตกะทันหันอย่างมาก
การนอนหลับกับหัวใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกว่าที่คิด
ระหว่างที่เรานอนหลับ ระบบประสาทอัตโนมัติจะทำงานเพื่อให้หัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตลดลง และร่างกายได้พักฟื้น แต่ถ้าการนอนหลับ ไม่สมดุลหรือมีการหยุดหายใจซ้ำ ๆ ระหว่างหลับ ระบบนี้จะถูกรบกวน ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักเกินไป ภาวะเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อหัวใจ เช่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะในช่วงหลับลึก ความดันโลหิตขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ออกซิเจนในเลือดลดลงซ้ำ ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของ ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน หรืออาการไหลตาย ได้โดยตรง
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) กับอาการไหลตาย
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอาการไหลตาย โดยเฉพาะในผู้ชายวัยกลางคน ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือมีภาวะนอนกรนเสียงดังในขณะหลับ กล้ามเนื้อทางเดินหายใจจะคลายตัว ทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบลงจน “หยุดหายใจ” ชั่วขณะ สมองจะส่งสัญญาณให้ตื่นตัวเพื่อหายใจอีกครั้ง เกิดการตื่นซ้ำ ๆ ตลอดคืนโดยไม่รู้ตัว ภาวะนี้ทำให้เกิด การขาดออกซิเจนเป็นระยะ ความดันโลหิตสูงขึ้นในช่วงกลางคืน หัวใจเต้นผิดจังหวะจากการกระตุ้นซ้ำ ๆ ซึ่งล้วนเป็น ตัวจุดชนวนให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันในขณะหลับได้
ทำไมบางคนหลับ “ดีเกินไป” ถึงกลายเป็นอันตราย ?
คำว่า “หลับสนิทมาก” ไม่ได้หมายความว่าเป็นการนอนที่มีคุณภาพเสมอไป บางคนอาจมีการหยุดหายใจระหว่างหลับ (OSA) เป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัว สมองไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอแต่ไม่มีการตื่นขึ้นมาตอบสนอง ทำให้หัวใจขาดออกซิเจนต่อเนื่องและหยุดเต้นในที่สุด นี่คือเหตุผลว่าทำไม บางคนจึงเสียชีวิตขณะหลับทั้งที่ดูเหมือนสุขภาพดี เพราะร่างกายไม่สามารถรับรู้ความผิดปกติของการหายใจได้ทันท่วงที
ตรวจการนอน เพื่อค้นหาความเสี่ยงหัวใจก่อนสาย
การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เป็นวิธีที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้ในการวิเคราะห์คุณภาพการนอน การหายใจ และการทำงานของหัวใจขณะหลับ ตรวจภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ระดับออกซิเจน และหัวใจเต้นผิดจังหวะระหว่างหลับหรือไม่
สำหรับผู้ที่มีอาการนอนกรน เสียงดัง หายใจสะดุดกลางคืน หรือรู้สึกอ่อนเพลียแม้นอนเต็มที่ ควรเข้ารับการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อค้นหาความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวหรือไหลตายตั้งแต่เนิ่น ๆ และแพทย์เฉพาะทางจะออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับอาการของคุณ

ปรับพฤติกรรมการนอนเพื่อลดความเสี่ยงภาวะหัวใจ
การดูแลหัวใจเริ่มต้นได้จาก “การนอน” และการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
✓ ลดน้ำหนัก หากมีภาวะอ้วน เพราะไขมันรอบคออาจกดทางเดินหายใจ
✓ เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือยานอนหลับ ก่อนนอน
✓ นอนตะแคง แทนการนอนหงาย เพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
✓ ตรวจสุขภาพหัวใจและการนอนเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหรือเบาหวาน
หลับให้หัวใจปลอดภัย ต้องรู้จัก “การนอนของตัวเอง”
การนอนหลับที่ดูเหมือนธรรมดา อาจซ่อน “สัญญาณอันตราย” ของภาวะหัวใจไว้โดยไม่รู้ตัว อย่ารอให้ความผิดปกติปรากฏในวันที่สายเกินไป การตรวจการนอนหลับกับแพทย์เฉพาะทาง สามารถช่วยป้องกัน ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจล้มเหลว และอาการไหลตาย ได้ตั้งแต่ต้นทาง เพราะ “การนอนดี” ไม่ใช่แค่พักผ่อน แต่คือการปกป้องหัวใจของคุณให้อยู่กับคุณไปนานที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “อาการไหลตายขณะหลับ”
1. อาการไหลตายคืออะไร?
การเสียชีวิตอย่างกะทันหันขณะหลับ มักเกิดจากหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดทำงานเฉียบพลัน
2. ใครเสี่ยงต่ออาการไหลตายนี้มากที่สุด ?
ผู้ที่มีโรคหัวใจ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
3. สาเหตุหลักของอาการไหลตายคืออะไร ?
หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง หรือขาดออกซิเจนจากการหยุดหายใจขณะหลับ
4. จะรู้ได้อย่างไรว่ามีความเสี่ยงเป็นอาการไหลตาย ?
หากมีอาการนอนกรน หยุดหายใจ เหนื่อยง่าย หรือใจสั่น ควรตรวจการนอนหลับและหัวใจ
5. สามารถป้องกันอาการไหลตายได้อย่างไร ?
รักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ควบคุมโรคหัวใจ และตรวจสุขภาพเป็นประจำ


